เขาว่า... : เชครถก่อนเดินทางไกล ไม่ควรพึ่งช่างฝ่ายเดียว...จริงไหม ?
จริง : การตรวจเชครถเบื้องต้นก่อนเดินทางไกล ไม่ควรไว้ใจช่างฝ่ายเดียว เราควรต้องมีความรู้ ความเข้าใจด้วย
รถของเราเมื่อใช้งานมาหลายปี และหากถูกบำรุงรักษาอย่างถูกต้องมาตลอด ปัญหาที่พบบ่อย คือ ท่อน้ำฉีก สายพานขาด ปั๊มน้ำรั่ว แบริง (ลูกปืน) ของปั๊มน้ำ หรือของอัลเทอร์เนเตอร์ชำรุด
วิธีตรวจของช่างที่ผมพบเป็นส่วนใหญ่ ก็คือ ใช้สายตามองว่า มีน้ำรั่วที่ท่อน้ำหรือไม่ ซึ่งมันไม่มีอยู่แล้วครับ เพราะถ้ามันแตกก่อนถูกตรวจ เจ้าของรถเขาคงขับมาไม่ถึง วิธีมองว่าท่อน้ำยังเป็นปกติ แล้วบอกว่าใช้ต่อได้ ผ่านการตรวจแล้ว แบบนี้เจ้าของรถเขาก็ทำเองได้ การตรวจสภาพสายพานของช่างไทยเกือบทุกคน ก็คือ มองดูว่ามันแตกร้าวหรือยัง แต่มองเฉพาะส่วนที่มองเห็นเท่านั้น ถ้าบังเอิญเครื่องยนต์หยุดหมุนตอนดับเครื่อง แล้วรอยร้าวที่เกือบจะขาด มันไปจมอยู่ในร่องของพูลเลย์ ก็จะไม่มีการหมุนเครื่องยนต์ตรวจให้ครบทั้งเส้น
ส่วนวิธีตรวจท่อน้ำของเครื่องยนต์ ที่ช่างควรปฏิบัติ คือ เอามือบีบดูว่าเนื้อยางแข็งกรอบหรือยัง มีรอยปริให้เห็นตอนบีบหรือไม่ อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ใครที่ชอบตรวจสภาพรถก่อนเดินทางไกล ก็จะเห็นเลยนะครับ ว่าทำเองก็ได้ ยางปัดน้ำฝนต้องอยู่ในสภาพดี ปัดน้ำจากกระจกได้เกลี้ยง ถึงช่วงนี้จะไม่ใช่ฤดูฝนก็ตาม สำหรับไฟส่องสว่างของพวกรถรุ่นใหม่ล่าสุดนั้น ไม่ต้องห่วงครับ เพราะมีความทนทานไว้ใจได้ ส่วนรถที่มีอายุมากพอสมควรนั้น ตรวจยาก เพราะต้องถอดหลอดไฟออกมา ถอดได้แล้วก็ต้องมีประสบการณ์เพียงพอ ที่จะดูไส้หลอด และเปลือกแก้วของหลอด ว่าผ่านการใช้งานมานานแค่ไหน และจะเหลืออายุใช้งานอยู่อีกเท่าใด ทางที่ดี คือ จด หรือจำกำหนดเวลาที่เริ่มใช้หลอดไฟไว้ ถ้าใช้งานกลางคืนหนักเป็นประจำ สักปีครึ่ง หรือ 2 ปีก็เปลี่ยนใหม่ได้แล้ว โดยไม่ต้องรอให้ไส้หลอดขาด ถ้าใช้น้อยก็เพิ่มระยะเวลาที่ว่านี้เข้าไป อย่าไปเสี่ยงใช้ต่อเพื่อให้ “คุ้ม” ครับ เพราะเวลามันดับตอนอยู่บนถนนต่างจังหวัดที่ไม่มีไฟส่องสว่าง เราจะเข้าใจทันที ว่าเสียเงินเปลี่ยนหลอดไฟใหม่ตั้งแต่ก่อนเสีย คุ้มกว่ามาก แล้วยังได้ไฟที่สว่างกว่าด้วย เพราะความสว่างมันลดลงตามอายุการใช้งาน แต่ถ้าเป็นโคมไฟแบบซีนอน หรือ LED ของรถรุ่นใหม่ ไม่ต้องสนใจอายุใช้งานครับ ใช้ไปจนกว่าจะเกิดปัญหาให้เราเห็น อย่าลืมตรวจลมยางของล้ออะไหล่ด้วย ที่เป็นปัญหาประจำของผู้ใช้รถชาวไทย คือ พอเปลี่ยนเอาล้ออะไหล่ใส่ แล้วเอาแม่แรงลง จึงรู้ว่าไม่ได้เติมลมล้ออะไหล่มาเกือบปีแล้ว
บทความแนะนำ