วิธีใช้งาน “น้ำยาปะยางฉุกเฉิน”

ปัจจุบันนี้รถยนต์รุ่นใหม่ๆ มักไม่ใส่ยางอะไหล่ติดรถมาด้วย แต่จะใส่ชุดปั๊มลม พร้อมน้ำยาอุดรอยรั่ว หรือน้ำยาปะยางฉุกเฉินมาแทน แล้วจะใช้งานอย่างไร DIY...คุณทำเองได้ มีคำตอบ

ชุดปั๊มลม แทนยางอะไหล่ 

ยางอะไหล่ติดรถถูกลดบทบาทลง เนื่องจากยางในปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงขึ้น แม้ยางรั่ว ก็ยังวิ่งต่อได้ ยางอะไหล่ทำให้รถมีน้ำหนักมาก ส่งผลต่อความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยตรง อีกทั้งต้องใช้พื้นที่เก็บมาก สามารถเอาไปทำประโยชน์อื่นได้อีก ด้วยปัจจัยเหล่านี้ บริษัทรถยนต์จึงไม่ใส่ยางอะไหล่มาให้ เปลี่ยนเป็นชุดฉุกเฉินแทนก็เพียงพอ   

น้ำยาปะยางฉุกเฉิน ใช้ได้ระยะสั้นๆ 

การใช้ชุดฉุกเฉิน มีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องนั่งเหนื่อยเปลี่ยนยาง แค่เสียบ และเติม ก็สามารถใช้งานต่อได้แล้ว แต่ชุดฉุกเฉินก็มีข้อจำกัด เพราะหลังจากเติมแล้วสามารถวิ่งต่อได้อีกไม่เกิน 300 กม. น้ำยาจะเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ ต้องนำยางไปร้านปะยางก่อน และถ้าหากรอยรั่วมีขนาดใหญ่เกินกว่า 5 มม. หรือเกิดรอยบากบริเวณแก้มยาง ชุดอุปกรณ์เหล่านี้ก็ไม่สามารถใช้ได้ 

คุณสมบัติน้ำยาอุดรอยรั่ว

เป็นน้ำยาสูตรเคมี ตัวน้ำยามีส่วนผสมของน้ำยาง (ส่วนผสมในการผลิตยาง) จึงไม่เป็นอันตรายต่อบริเวณผิวของยาง สามารถอุดรอยรั่วได้ดี ตัวน้ำยาไม่เป็นวัตถุไวไฟ ทนความร้อนได้ดี เก็บได้นานถึง 3 ปี หลังจากเติมเข้าสู่ภายในล้อแล้ว สามารถอยู่ได้นานกว่า 1 สัปดาห์

อุปกรณ์ 

1. ปั๊มลมไฟฟ้า 
2. กระป๋องน้ำยาปะยางฉุกเฉิน 
3. ตัววัดแรงดันลมยาง

ขั้นตอนการใช้งาน 

1. สำรวจหาตำแหน่งรอยรั่วให้เจอ ถ้าอยู่บริเวณดอกยาง แสดงว่าอุดได้ 

2. เปิดจุกลมยางออก แล้วขันสายน้ำยาปะยางฉุกเฉินเข้าไป 

3. กดที่หัวกระป๋อง ให้น้ำยาไหลตามสายเข้าตัวยางจนหมด (1 กระป๋อง/1 ล้อ)

4. ถอดสายน้ำยาปะยางออก แล้วเสียบสายปั๊มลมยาง 12 โวลท์เข้าไปแทน

5. นำหัวปลั๊ก 12 โวลท์ต่อเข้ากับที่จุดบุหรี่ (สวิทช์อยู่ตำแหน่ง OFF)

6. กดปุ่ม ON ให้เครื่องปั๊มลมทำงานเติมลมเข้ายาง 

7. ควรให้มีแรงดันลมยางมากกว่าปกติประมาณ 2 ปอนด์ แล้วปิดเครื่อง

8. นำตัววัดแรงดันลมยางมาเชคอีกครั้ง เป็นอันเสร็จ