ค่ายรถ GAC (จีเอซี) ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราด้วยบแรนด์ AION (ไอออน) และมีการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูอย่าง HYPER (ไฮเพอร์) อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีรถยนต์ไฟฟ้าทำตลาดหลายรุ่น แต่ครั้งนี้ คือ โอกาสพิเศษที่เราจะได้ทำความรู้จักกับหนึ่งในกลุ่มยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของประเทศจีนแห่งนี้ กับการได้ไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตของค่าย AION และ HYPER ถึงเมืองบ้านเกิดของค่ายรถแห่งนี้ นั่นคือ เมืองกวางโจว ประเทศจีน
จุดแรกที่เราได้เยี่ยมชม คือ โรงงานของ GAC AION ทางผู้ผลิตให้การต้อนรับสื่อมวลชนจากประเทศไทยอย่างอบอุ่น พร้อมกับการบรรยายประวัติความเป็นมาของค่ายรถในเบื้องต้น เราพบว่าค่ายรถ AION ถูกก่อตั้งขึ้นมาในปี 2017 เป็นบแรนด์รถหน้าใหม่ภายใต้เครือของ GAC เน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัยโดยเฉพาะ ดังนี้แล้ว ศูนย์วิจัย และพัฒนารถยนต์ รวมถึงโรงงานผลิต จึงต้องมีความทันสมัยอย่างโดดเด่นเช่นกัน
ถัดมา คือ การชมโรงงานผลิตของค่ายรถ AION และ HYPER ซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยาก เพราะปกติสายการผลิตของโรงงานรถยนต์จะมีความเข้มงวดมาก แต่ทาง GAC เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนจากประเทศไทยได้สัมผัสความล้ำสมัยของสายการผลิตอย่างเต็มที่ โดยในปัจจุบันมีโรงงานที่สร้างเสร็จแล้วจำนวน 2 แห่ง ซึ่งโรงงานแห่งแรกเริ่มดำเนินการในเดือนเมษายน ปี 2019 โรงงานแห่งที่ 2 เริ่มดำเนินการในเดือนตุลาคม ปี 2022 โดยมีกำลังการผลิตรวม 400,000 คัน/ปี และโรงงานแห่งที่ 3 ตั้งอยู่ที่ประเทศไทย โดยอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
สายการผลิตแห่งนี้มีความทันสมัยอย่างเหลือเชื่อ ขั้นตอนการผลิตส่วนใหญ่จะใช้เครื่องจักรที่มีความแม่นยำสูง ไม่ว่าจะเป็นการประกอบตัวถัง การประกอบกระจกทั้งด้านหน้า และด้านหลัง รวมถึงการประกอบล้อแมกเข้ากับตัวรถ (ที่มีนอทยึดหลายจุด) สามารถทำได้อย่างแม่นยำในเวลาอันสั้น ถือเป็นหนึ่งใน “เคล็ดลับ” ของค่ายรถที่สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นจำนวนมากได้ในเวลาอันสั้น อย่างไรก็ตาม สายการผลิตหลายส่วนยังคงใช้พนักงานมาควบคุมดูแลการประกอบ และตรวจสอบคุณภาพก่อนออกจากสายการผลิต เพื่อคุณภาพในระดับสูง ควบคู่กับปริมาณการผลิตจำนวนมาก ส่วนรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงอย่าง HYPER SSR (ไฮเพอร์ เอสเอสอาร์) จะใช้การผลิตที่แยกเป็นเอกเทศจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ มีการผลิตด้วยมือตามแบบฉบับซูเพอร์คาร์สมรรถนะสูง
ความทันสมัยแบบครบวงจร คือ หนึ่งพันธกิจสำคัญของค่ายรถจาก GAC ไม่ว่าจะเป็น AION และ HYPER การพัฒนา และวิจัยต่างๆ ถูกรังสรรค์ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานรถยนต์ของ GAC หรือการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติ เป็นหนึ่งในวิทยาการสำคัญสำหรับโลกยานยนต์ ตลอดจนศูนย์พัฒนาการออกแบบรถยนต์ให้มีความทันสมัยตามกัน ภายใต้รูปแบบของรถยนต์ที่หลากหลาย รวมถึงขุมกำลังที่ไม่ได้มีแค่มอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่มีเครื่องยนต์รูปแบบอื่นๆ ที่ทางค่ายพร้อมจะนำเสนอในอนาคตอันใกล้
ถัดจากการเยี่ยมชมโรงงานอันทันสมัย กับศูนย์พัฒนา และวิจัยที่ล้ำหน้า เราได้มีโอกาสสัมผัสรถยนต์ของค่าย HYPER ถึง 2 รุ่น นั่นคือ SSR ซูเพอร์คาร์พลังไฟฟ้า สมรรถนะเหลือเชื่อ และ HT (เอชที) เอสยูวีหรู พละกำลังสูง โดดเด่นด้วยประตูปีกนก สำหรับ HYPER HT เราได้มีโอกาสทดลองขับเป็นระยะเวลาสั้นๆ ที่สนามทดสอบของศูนย์วิจัย GAC เมื่อเข้ามานั่งในห้องโดยสาร (เราลองนั่งเบาะด้านหลังก่อน) ประตูแบบปีกนกมีทำการทำงานที่นุ่มนวล ไร้เสียงรบกวนใดๆ จากระบบไฮดรอลิค สามารถเปิด/ปิดแบบไฟฟ้าด้วยปุ่มบริเวณด้านในของเสาบี การตกแต่งโดยรวมมีคุณภาพสูง สมเป็นรถยนต์หรู พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางอย่างน่าพอใจ ขณะที่ส่วนผู้ขับมีความหรูหรา ทันสมัย ตามแบบฉบับรถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ พวงมาลัยจับได้ถนัดมือ ทัศนวิสัยดีมาก จุดเด่น คือ อัตราเร่งที่ทำได้ฉับไวเกินตัว แต่ยังสามารถควบคุมตัวรถได้ไม่ยากจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา การตอบสนองของระบบรองรับมีความหนึบนุ่มที่พอเหมาะ เน้นความสะดวกสบายของการโดยสาร แต่ยังมีความมั่นคงที่น่าพอใจในช่วงความเร็วสูง จัดเป็นหนึ่งในเอสยูวีหรูพลังงานไฟฟ้าที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
ถัดมา คือ ได้ทดลองนั่ง (แต่ไม่ได้ขับ) โดยมีทีมงานครูฝึกผู้เชี่ยวชาญของ GAC เป็นผู้ขับให้ กับ HYPER SSR รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสุดร้อนแรง กำลังสูงสุดระดับ 1,100 แรงม้า และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ไม่เกิน 2 วินาที ! ฟังดูเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ แต่ได้ลองนั่งรถสปอร์ทรูปสวยคันนี้ เราพบว่าอัตราเร่งดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ! แรงดึงจากตัวรถหลังจากออกตัวมีความฉับไวตามสไตล์ของรถยนต์ไฟฟ้า ตัวรถกระชากตัวออกไปโดยไม่มีเสียงยางบดกับถนนแม้แต่น้อยจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา แม้เราจะเคยผ่านการทดลองขับรถสปอร์ทสมรรถนะสูงมาหลายคันแล้ว แต่กับ HYPER SSR คือ ประสบการณ์แห่งความเร้าใจที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ! สมกับการเป็นรถยนต์ระดับซูเพอร์คาร์ หรือแม้แต่การเรียกเป็น “ไฮเพอร์คาร์” ก็ย่อมได้ จัดเป็นความแรงยุคใหม่ที่ไม่ต้องอาศัยเสียงเครื่องยนต์อันแผดดัง แต่เป็นอัตราเร่งอันดุดันเข้ามาชดเชยได้สบาย
แม้เป็นระยะเวลาเพียง 1 วัน แต่เป็นการสัมผัสความยอดเยี่ยมของค่ายรถ GAC ทั้ง AION และ HYPER อย่างครบถ้วน จุดเด่น คือ เทคโนโลยีที่ทันสมัย ตั้งแต่กระบวนการวิจัย และพัฒนา นำมาสู่กระบวนการผลิตที่ล้ำสมัย สามารถผลิตรถยนต์เป็นจำนวนมาก พร้อมคุณภาพการประกอบที่อยู่ในระดับสูง สุดท้าย คือ ผลิตภัณฑ์ที่ถึงพร้อมด้วยสมรรถนะ ความทันสมัย และความหรูหราอย่างเหนือชั้น อย่างที่เราสัมผัสมาแล้วกับ HYPER HT และ SSR น่าตื่นเต้นที่ความล้ำสมัยของค่ายรถแห่งนี้กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย กับการสร้างโรงงานผลิตที่มีมาตรฐานทัดเทียมกัน เตรียมเริ่มสายการผลิตภายในปีนี้กับบแรนด์ AION และ HYPER หนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าครอบครองเป็นอย่างยิ่ง