มาตรวัดตลาดรถ
นโยบายประหยัดพลังงาน...รถเล็กขายดี
[table]เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ เดือนมิถุนายน ปี 47 กับ 46
ตลาดโดยรวม, เพิ่ม, 16.5
รถยนต์นั่ง, เพิ่ม, 7.3
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ, เพิ่ม, 27.7
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV), ลด, 18.5 [/table]
ปลอดภัยจากไข้หวัดกันดีอยู่นะครับ ระมัดระวังกับสุขภาพของท่านกันหน่อย เพราะเชื้อไข้หวัดนกยังไม่หมดไปง่ายๆ มันกลายเป็นสิ่งที่อยู่คู่ฟาร์มไก่ไทยไปแล้ว
แต่อย่างที่บอกๆ กันว่า ไก่ หรือไข่ ถ้าปรุงอาหารจนสุกแล้ว รับประทานได้ ปลอดภัยแน่นอน แต่ไม่ใช่แบบไข่ดาวทอดไม่สุก ไข่แดงยังแดงแจ๋อยู่ นั่นก็ต้องระมัดระวังกันเองนะครับ
คุยกันเรื่องนานาสาระดีกว่า เพราะเรื่องภาษีป้ายวงกลมที่เงื้อง่าราคาแพงกันอยู่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะกล้าสรุปให้ชัดเจนกันสักที
ตอนคุยกันเรื่องนโยบายประหยัดพลังงาน ท่านนายกก็ยกให้ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง พิจารณาปรับเพิ่มอัตราภาษีป้ายวงกลมและภาษีป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีขนาดเกิน 2,500 ซีซี
ทางด้านกรมการขนส่งทางบกก็จ้างที่ปรึกษา ศึกษาพิกัดการจัดเก็บภาษีรถยนต์ที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน โดยครอบคลุมประเด็นด้านภาวะมลพิษ และสถานการณ์พลังงานของประเทศไทยในปัจจุบัน
ก็ไม่ทราบว่าท่านจะลงดาบกันด้วยท่าไม้ตายท่าไหน เพราะมีผู้เกี่ยวข้องหลายหน่วยเหลือเกิน แค่เรื่อง อีโคคาร์ เรื่องเดียว ก็ปล่อยลอยชายเป็นว่าวเหลิงลมอยู่นั่นแหละ คนดูชักเซ็งไปเหมือนกัน
อีกเรื่องที่ดูท่าทางว่ารายการนี้ต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง ก็เรื่องเกี่ยวกับบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่นั่นแหละครับ เพราะตอนนี้ดำเนินไปถึงขั้นเปิดประมูลกันแล้ว เรามาดูในแง่รายละเอียดกันก่อน เผื่อว่าในโอกาสอันใกล้นี้ พวกเรากันเองนี่แหละ จะได้มีโอกาสใช้ให้มันทันสมัยสักหน่อย
เจ้าตัวข้อมูลของเจ้าของบัตรที่จะจัดเก็บใน ชิพ (CHIP) ซึ่งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นผู้ดูแล ประกอบไปด้วยข้อมูลจาก กรมการปกครอง จัดเก็บข้อมูลตามความจำเป็นพื้นฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะเป็นเสมือนกุญแจ เพื่อยืนยันตัวบุคคลให้สามารถเข้าสู่บริการของภาครัฐหรือเอกชนได้ จำนวน 32 รายการ และเพิ่มเติมข้อมูลกลุ่มประชาชนที่ลงทะเบียนเพื่อแก้ปัญหาสังคมและความยากจน จำนวน 6 รายการ
ข้อมูล 6 รายการอันหลังนี่ คนที่ไม่ลงทะเบียนเอาไว้จะไม่มีปรากฏนะครับ
หน่วยงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับการดำเนินการจัดเก็บข้อมูลในชิพของบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ มี กรมการปกครอง และกรมสรรพากร ไม่มีข้อมูลที่ต้องจัดเก็บ ใช้เฉพาะหมายเลขประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์เป็นฐานข้อมูลเพื่อการจัดเก็บภาษี
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดเก็บข้อมูลในชิพของบัตร แบ่งข้อมูลเป็น 3 ส่วน คือ ข้อมูลสถานพยาบาลและสิทธิ์ ข้อมูลรายการแพ้ยาและหมู่เลือด และข้อมูลประวัติการใช้บริการ
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน จัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับข้าราชการพลเรือนประมาณ 390,000 คน 16 รายการ สำนักงานประกันสังคม มีข้อมูลที่จัดเก็บในชิพ 13 รายการและสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร อยู่ในขั้นการจัดเตรียมข้อมูล 5 รายการ
ฝากตั้งคำถามลอยลมไว้สักเรื่องนะครับ ว่าถ้าฟากเอกชนอยากมีส่วนร่วมเก็บข้อมูลในเจ้าบัตรที่ว่านี่จะทำอย่างไรกันดี ต้องร่างกฎกระทรวงอนุมัติกันเป็นรายๆ ไป หรือจะเปิดทางเอาไว้ก่อนเลยดีกว่าไหม
คุยกับท่านข้าราชการนี่ ต้องว่ากันถึงกฎกระทรวงกันก่อนเลยนะครับ เดี๋ยวจะคุยไม่รู้เรื่อง
กลับมาเรื่องตัวเลขรายงานของเราก่อนดีกว่า เดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ถึงน้ำมันจะแพง เบนซินพรวดพราดขึ้นไป 19 บาท แต่ยอดการขายก็ยังเพิ่มตามสภาวะเศรษฐกิจที่ท่านขุดลงไปถึงรากหญ้า เติบโตกัน 16.5 % ขายได้ 50,483 คัน โดยที่ยอดรวมตั้งแต่ต้นปีขายเพิ่มจากปีก่อน 21.2 % จำนวน 298,698 คัน
หกเดือนขายเกือบสามแสน ก็มีนักการตลาดออกมาเล่าสู่กันฟังว่า คาดว่าปีนี้จะขายกันถึง 630,000 คัน พร้อมสาธยายรายละเอียดมากมาย อ้างอิงถึงนโยบายที่จะกระจายรายได้ลงไปให้ถึงรากหญ้า แต่โหรหลังสถานทูตจีน ขอเล่าสู่กันฟังบ้างว่า เดี๋ยวดอกเบี้ยสหรัฐอเมริกาขึ้น เอาแค่ขึ้นสลึงเดียวบ้านเราก็แทบจะกระเทือนต้องถึงดอกเบี้ยตามกันถึงหนึ่งบาท
น้ำมันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดราคา แม้จะมีข่าวว่าเพิ่มกำลังการผลิตก็ตาม แถมข่าวปล่อยก็บอกว่าจะลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลเข้าไปอีก นั่นย่อมกระทบถึงราคาสินค้าแน่นอน ขนาดตอนนี้ข้าวแกงหน้าโรงพิมพ์นี่ยังขึ้นราคาไปเฉยๆ 5 บาท จาก 15 เป็น 20 จาก 20 เป็น 25 บาท ไม่รับประทานก็ตามใจ
อดไม่ได้หรอกนะ ที่จะต้องมาบ่นกันเป็นประจำ ก็มันเงินในกระเป๋าของกระผมเหมือนกันนะครับ
ตำแหน่งแชมพ์ประจำเดือน โตโยตา ยังคงรักษาได้ แม้ว่าเจ้าน้องใหม่จากอินโด ฯ จะมีแต่เสียงบ่นกันพึมก็เถอะ ขายได้ 18,301 คัน เพิ่มแค่ 10.5 % ส่วนแบ่งตลาด 36.3 %, อันดับที่สอง ยังคงเป็น อีซูซุ ขาย 12,969 คัน เพิ่ม 22.3 % ส่วนแบ่ง 25.7 %, อันดับที่สาม ฮอนดา ขาย 5,831 คัน เพิ่ม 9.6 % ส่วนแบ่ง 11.6 %, อันดับที่สี่ นิสสัน ขาย 3.800 คัน เพิ่ม 5.7 % ส่วนแบ่ง 7.5 % และอันดับที่ห้า กลับมารักษาตำแหน่ง มิตซูบิชิ 2,822 คัน เพิ่มเยอะแน่ะ 42.2 % ส่วนแบ่งเหลือแค่ 5.6 %
แยกประเภทเป็นรถยนต์นั่ง ตลาดรวมก็ยังเพิ่มอยู่ 7.3 % ขายกันได้เดือนเดียว 14,987 คัน รวมหกเดือน เพิ่ม 6.8 % ด้วยยอดรวม 90,629 คัน
ตำแหน่งต่างๆ ชนะเลิศได้แก่ โตโยตา ขาย 7,283 คัน เพิ่ม 6.2 % ส่วนแบ่งมากสุด 48.6 % , ที่สอง ฮอนดา ขาย 5,419 คัน เพิ่ม 17.3 % ส่วนแบ่ง 36.2 %, ที่สาม นิสสัน ขาย 600 คัน ลดลง 38.1 % ส่วนแบ่ง 4.0 %, ที่สี่ เมร์เซเดส-เบนซ์ ขาย 431 คัน ลดลง 29.2 % ส่วนแบ่ง 2.9 %, ที่ห้า มิตซูบิชิ ขาย 355 คัน เพิ่ม 16.0 % ส่วนแบ่ง 2.4 %
ตามมาด้วย บีเอม ฯ ขาย 345 คัน ก็แสดงว่าคนรวยบ้านเรายังมีอยู่จริงนะครับ ขนาด มีนี ยังขายได้ตั้ง 36 คัน และ แจกวาร์ ขาย 2 คัน
แยกเป็นประเภทรถกระบะหนึ่งตัน ไม่รวมขับเคลื่อน 4 ล้อ รวมตั้งแต่ต้นปี โต 35.1 % ยอดขายทั้งหมด 157,532 คัน แชมพ์ประจำเดือน เป็น อีซูซุ ขาย 11,254 คัน เพิ่ม 26.7 % ส่วนแบ่ง 40.9 % ที่สอง โตโยตา ขาย 8,148 คัน เพิ่ม 10.7 % ส่วนแบ่ง 29.6 % ที่สาม นิสสัน ขาย 2,908 คัน เพิ่ม 17.6 % ส่วนแบ่ง 10.6 % ที่สี่ มิตซูบิชิ ขาย 2,192 คัน เพิ่ม 108.2 % ส่วนแบ่ง 8.0 % และที่ห้า น้องใหม่ เชฟโรเลต์ ขาย 1,209 คัน ส่วนแบ่ง 4.4 %
รถเพื่อการพาณิชย์ก็ยังเจริญเติบโตถึง 43.2 % ขาย 3,060 คัน มี อีซูซุ ขายเยอะสุด 974 คัน เพิ่มเยอะ 91.0 % ส่วนแบ่งก็เยอะ 31.8 %, ที่สอง ฮีโน ขาย 854 คัน เพิ่ม 38.9 % ส่วนแบ่ง 27.9 %, ที่สาม โตโยตา ขายรถตู้ได้ 739 คัน เพิ่ม 49.6 % ส่วนแบ่ง 24.2 % ที่สี่ นิสสัน ขาย 259 คัน เพิ่ม 96.2 % ส่วนแบ่ง 8.5 %
รถขับเคลื่อน 4 ล้อประเภทเอสยูวี ยอดขายทั้งหมด 8,872 คัน แชมพ์ประจำเดือน เป็น ฟอร์ด ขาย 635 คัน เพิ่ม 21.9 % ส่วนแบ่ง 40.8 % ที่สอง ฮอนดา ขาย 315 คัน ลดลง 48.8 % ส่วนแบ่ง 20.2 % ที่สาม โตโยตา ขาย 174 คัน ลดลง 45.6 % ส่วนแบ่ง 11.2 % ที่สี มาซดา ขาย 128 คัน เพิ่ม 132.7 % ส่วนแบ่ง 8.2 % และที่ห้า มิตซูบิชิ ขาย 112 คัน ลดลง 50.4 % ส่วนแบ่ง 7.2 %
นั่นคือสภาวะที่รากหญ้า จะงอกขึ้นมาบนผืนดิน ที่ยังมองกันว่า ในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้ตลาดก็ยังสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสบายๆ เพียงแต่ต้องคอยดูปัจจัยอื่นๆ ที่จะเข้ามาขัดตาทัพไตรมาสสุดท้ายของปี
ก็ยังมองกันไปในทิศทางที่ดี คาดว่าจะยังคงเป็นบวก เพราะต้องเตรียมตัวเลือกตั้งกันแล้ว ยังไงเสียก็ต้องพยายามให้ถถูกใจคุณผู้ชมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ABOUT THE AUTHOR
ม
มือบ๊วย
ภาพโดย : -นิตยสาร 399 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ