ผลการสำรวจผู้ใช้รถ

อังกฤษ-ผลการสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้รถในประเทศอังกฤษ โดย เจดี เพาเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ (JD POWER AND ASSOCIATES) ครั้งล่าสุดประกาศผลออกมาแล้ว ปรากฏว่า ฮอนดา แจซซ์ (HONDA JAZZ) รถยนต์นั่งขนาดเล็กจากเมืองปลาดิบ ได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงสุดติดต่อกันเป็นปีที่สอง ในขณะที่ เลกซัส (LEXUS) "พรีเมียม แบรนด์" ของค่าย โตโยตา (TOYOTA) เป็นยี่ห้อรถที่ได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงสุด การสำรวจความพึงพอใจครั้งล่าสุดนี้ กระทำกับผู้ใช้รถ ที่จดทะเบียนรถระหว่างเดือนกันยายน 2002 ถึงเดือนสิงหาคม 2003 จำนวนมากกว่า 23,000 คน โดยให้ตอบคำถามรวม 70 ข้อ เป็นคำถามที่ครอบคลุมคุณสมบัติด้านต่างๆ ของรถรวม 8 ด้าน คือ เครื่องยนต์กลไก ปัญหาภายนอก ปัญหาภายใน สมรรถนะการขับขี่ คุณภาพภายนอก/ใน บริการของตัวแทนจำหน่าย และ ค่าโสหุ้ยในการใช้รถ รถแบบใดที่มีผู้ตอบแบบสอบถามน้อยกว่า 50 คน จะถูกตัดออกไป ทำให้มีรถที่ได้รับการจัดอันดับในการสำรวจครั้งนี้รวม 124 แบบ คือมากกว่าการสำรวจครั้งที่แล้ว 4 แบบ ผลการสำรวจปรากฏว่า ฮอนดา แจซซ์ ได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงสุดติดต่อกันเป็นปีที่สอง แต่มีจุดที่น่าสังเกตก็คือ ในบรรดารถที่ติดอันดับความพึงพอใจสูงสุด 20 อันดับแรก เป็นรถญี่ปุ่นเพียง 10 แบบ จากที่เคยมีถึง 14 แบบ ในการสำรวจครั้งก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ในที่สุดรถยุโรปก็เริ่มตีตื้นขึ้นบ้างแล้ว ในด้านความเชื่อถือได้ และความพึงพอใจของผู้ใช้รถ เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดารถยุโรปด้วยกัน รถที่สามารถปรับปรุงคุณภาพได้อย่างก้าวกระโดด คือ มีนี (MINI) ที่ขยับจากอันดับ 56 เมื่อปีกลาย ขึ้นมาอยู่อันดับ 20 ในปีนี้ และ เอาดี เอ 6 (AUDI A6) ที่เลื่อนดีขึ้นถึง 31 อันดับ มาอยู่ในอันดับ 32 โดยสรุป เมื่อจัดเรียงลำดับตามแบบของรถ รถที่ได้คะแนนความพึงพอใจสูงสุด 20 อันดับแรก ได้แก่ 1. ฮอนดา แจซซ์ 88.1 % 2. เลกซัส ไอเอส 200/300 85.5 % 3. โตโยตา ยาริส 85.1 % 4. สโกดา ฟาบีอา 84.7 % สโกดา อกตาวีอา 84.7 % 6. บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-5 84.3 % 7. เกีย โซเรนโต 84.0 % 8. ฮอนดา แอคคอร์ด 83.9 % โตโยตา โคโรลลา 83.9 % 10. โพร์เช บอกซ์สเตอร์ 83.8 % 11. มาซดา 6 83.6 % 12. ฮอนดา ซีวิค 83.2 % 13. ฮอนดา ซีอาร์-วี 83.1 % 14. บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-3 82.9 % 15. ฮันเด ซันตา เฟ 82.7 % 16. โตโยตา รัฟโฟร์ 82.5 % โวลโว วี 70 82.5 % โวลโว เอส 80 82.5 % 19. โตโยตา อเวนซิส 82.2 % 20. มีนี 82.1 % สมาร์ท ซิที-คูเป 82.1 % โตโยตา เซลิคา 82.1 % และเมื่อจัดลำดับตามยี่ห้อของรถ ปรากฏว่ารถที่ได้คะแนนความพึงพอใจสูงสุด 20 อันดับแรก ได้แก่ 1. เลกซัส (LEXUS) 84.8 % 2. สโกดา (SKODA) 84.7 % 3. ฮอนดา (HONDA) 84.3 % 4.โตโยตา (TOYOTA) 83.5 % 5. บีเอมดับเบิลยู (BMW) 82.9 % 6. มีนี (MINI) 82.1 % 7. มาซดา (MAZDA) 81.7 % โวลโว (VOLVO) 81.7 % 9. เอาดี (AUDI) 81.0 % 10. ซาบ (SAAB) 80.8 % 11. แจกวาร์ (JAGUAR) 80.7 % 12. ไดฮัทสุ (DAIHATSU) 80.3 % ซูบารุ (SUBARU) 80.3 % 14. นิสสัน (NISSAN) 80.1 % 15. ฮันเด (HYUNDAI) 79.5 % 16. โฟล์คสวาเกน 79.1 % 17. ฟอร์ด (FORD) 78.9 % 18. มิตซูบิชิ (MITSUBISHI) 78.1 % 19. ซูซูกิ (SUZUKI) 78.0 % 20. วอกซ์ฮอลล์ (VAUXHALL) 77.8 % (ค่าเฉลี่ยของรถทุกแบบและทุกยี่ห้อ อยู่ที่ระดับ 78.6 %)   ย่อยข่าว * สเปน-เซอัต (SEAT) ผู้ผลิตรถยนต์ในเครือข่ายของกลุ่ม โฟล์คสวาเกน กรุพ (VOLKSWAGEN GROUP) เปิดเผยโฉมหน้าของรถ เซอัต เลอน (SEAT LEON) รุ่นใหม่ ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายปลายปี 2005 นี้ ออกมาแล้ว ดังที่เห็นได้ในภาพประกอบ ปรากฏว่ารถรุ่นใหม่ซึ่งเป็นผลงานรังสรรค์ของทีมงานที่มี สตีฟ เลวิส (STEVE LEWIS) นักออกแบบชาวอังกฤษเป็นผู้นำนี้ แทบไม่มีอะไรผิดเพี้ยนจากรถแนวคิดชื่อเดียวกัน ซึ่งปรากฏตัวที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวาครั้งล่าสุด เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา   * สหรัฐอเมริกา-ที่งานมหกรรมยานยนต์นิวยอร์คเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จีพ (JEEP) ผู้ผลิตรถยนต์ในเครือข่ายของ ไดมเลร์ ไครสเลอร์ (DAIMLER CHRYSLER) สร้างปรากฏการณ์ใหม่ โดยนำรถกิจกรรมกลางแจ้งเจ็ดที่นั่ง แบบแรกในประวัติศาสตร์ของตนออกปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก ยอดผู้ผลิตรถกิจกรรมกลางแจ้งของเมืองมะกันตั้งชื่อรถแบบนี้ว่า จีพ คอมมานเดอร์ (JEEP COMMANDER) รูปทรงองค์เอวของตัวถังซึ่งยาว 4.787 ม. กว้าง 1.900 ม. และสูง 1.826 ม. เห็นที่ไหนใครๆ ก็รู้ว่าต้องเป็นรถ จีพ รุ่นที่ออกจำหน่ายในตลาดอเมริกาเหนือ จะมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้อย่างจุใจถึงสามขนาด คือเครื่อง OHV วี 8 สูบ 5.7 ลิตร เครื่อง SOHC วี 8 สูบ 4.7 ลิตร และเครื่อง SOHC วี 6 สูบ 3.7 ลิตร ส่วนรุ่นที่ส่งไปจำหน่ายในตลาดยุโรป ก็จะมีเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือกใช้ด้วยไม่น้อยกว่าหนึ่งขนาด   * สหรัฐอเมริกา-การวิจัยด้านความปลอดภัยในเมืองมะกันซึ่งเปิดเผยผลลัพธ์เมื่อไม่นานมานี้ชี้ว่า เมื่อเกิดการชนทางด้านข้างระหว่างรถยนต์นั่งกับรถกิจกรรมกลางแจ้ง 4x4 ผู้โดยสารในรถยนต์นั่งมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าผู้โดยสารใรถ 4x4 ถึง 29 เท่า ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นผลจากความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านน้ำหนักและโครงสร้างของตัวรถรายงานการวิจัยนี้ยังบอกด้วยว่า ในปี 2001 มีผู้เสียชีวิตจากการชนด้านข้างระหว่างรถยนต์นั่งกับรถยนต์นั่งรวม 1,163 ราย แต่มีผู้เสียชีวิตจากการชนด้านข้างระหว่างรถยนต์นั่งกับรถ 4x4 ถึง 2,008 ราย ในรอบปี 2004 ที่ผ่านพ้นมา ร้อยละ 54 ของรถใหม่ที่ขายได้ในสหรัฐอเมริกา เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้ง 4x4 รถพิคอัพ หรือรถอเนกประสงค์   * เยอรมนี-เจ้าของเครื่องหมายการค้า "ดาวสามแฉก" จะเพิ่มความปลอดภัยให้แก่รถ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสส์ (MERCEDES-BENZ S-CLASS) รุ่นใหม่ ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ทในเดือนกันยายนปีนี้ โดยติดตั้งระบบความปลอดภัยที่เพิ่งออกแบบและพัฒนาขึ้นใหม่ มีชื่อว่า BRAKE ASSIST PLUS ระบบความปลอดภัยที่ว่านี้ จะช่วยเพิ่มแรงห้ามล้อโดยอัตโนมัติ เมื่อเรดาร์เซนเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บนกันชนหน้าได้รับสัญญาณว่า กำลังจะเกิดสถานการณ์ที่จำเป็นต้องมีการห้ามล้ออย่างรุนแรง เมร์เซเดส-เบนซ์อ้างผลการทดสอบและยืนยันว่า เทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากร้อยละ 44 ให้เหลือเพียงร้อยละ 11 และบอกด้วยว่าหนึ่งในห้าของอุบัติเหตุการชนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นการชนในลักษณะหน้าชนท้าย   * ญี่ปุ่น-ตามตัวเลขของ JAPAN AUTOMOBILE MANUFACTURERS ASSOCIATION หรือสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น ในช่วงสี่เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-เมษายน 2005) อุตสาหกรรมยานยนต์ในเมืองปลาดิบ ผลิตรใหม่ออกสู่ตลาดได้รวมทั้งสิ้น 3,746,269 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 จากยอดผลิต 3,616,838 คัน ในช่วงเดียวกันเมื่อปี 2004 ยอดผลิตดังกล่าวนี้แยกออกได้เป็น รถยนต์นั่ง 3,134,605 คัน รถบรรทุก 586,489 คัน และรถโดยสาร 25,175 คัน โดยสามารถแจกแจงตัวเลขตามบริษัทผู้ผลิตได้ดังนี้ โตโยตา 1,342,983 คัน (35.8 %) นิสสัน 564,802 คัน (15.1 %) ฮอนดา 445,919 คัน (11.9 %) ซูซูกิ 352,760 คัน (9.4 %) มาซดา 274,913 คัน (7.3 %) ไดฮัทสุ 252,251 คัน (6.7 %) มิตซูบิชิ 208,773 คัน (5.6 %) ซูบารุ 150,700 คัน (4.0 %) อีซูซุ 66,542 คัน (1.8 %) มิตซูบิชิ ฟูโซ 43,627 คัน (1.2 %) ฮีโน 29,543 คัน (0.8 %) นิสสัน ดีเซล 12,956 คัน (0.3 %) อื่นๆ 500 คัน (0.0 %)   * เยอรมนี-นิตยสารรถยนต์ชั้นนำฉบับหนึ่งของยุโรปรายงานข่าวยืนยันว่า เมร์เซเดส-เบนซ์ (MERCEDES-BENZ) เพิ่งประกาศแจ้งให้ผู้ใช้รถติดตรา "ดาวสามแฉก" ทั่วโลกจำนวนมากกว่า 1.3 ล้านคัน นำรถกลับไปตรวจสอบข้อบกพร่องที่โรงงาน รถที่อยู่ในข่ายตามคำประกาศดังกล่าว เป็นรถที่ผลิตตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2001 เป็นต้นมา ซึ่งมีทั้งรถ อี-คลาสส์ (E-CLASS) เอส-คลาสส์ (S-CLASS) ซีแอลเอส-คลาสส์ (CLS-CLASS) รวมทั้งรถแบบใดๆ ก็ตาม ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 6 และ 8 สูบ