LAMBORGHINI URUS SE

● เครื่องยนต์ เบนซิน เทอร์โบ ● ความจุ 3,996 ซีซี ● กำลังสูงสุด 620 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. ● แรงบิดสูงสุด 81.6 กก.-ม. ที่ 2,250-4,500 รตน. ● มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 189 แรงม้า ● แรงบิดสูงสุด 49.3 กก.-ม. กำลังสูงสุดทั้งระบบ 800 แรงม้า ● ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ 8 จังหวะ ● ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา

เอสยูวีผสมซูเพอร์คาร์

LAMBORGHINI URUS (ลัมโบร์กินี อูรุส) คือ เอสยูวีรุ่นแรกของค่ายกระทิงดุ ภายใต้เส้นสายที่บ่งบอกความเป็น LAMBORGHINI ทุกกระเบียด ด้วยเส้นสายที่มีความคมเข้มรอบคัน สำหรับรุ่น SE (เอสอี) มีการปรับโฉมเล็กน้อย เห็นได้ชัดกับรูปทรงของกันชนหน้ามีการเพิ่มวัสดุสีดำมากกว่าเดิม ล้อแมกขนาดใหญ่ถึง 21 นิ้ว ไฟหน้าแบบแอลอีดี รูปแบบคล้ายกับที่ใช้งานในรถสปอร์ทร่วมค่ายอย่าง HURACAN (อูรากัน) 

เครื่องยนต์ไฮบริดครั้งแรก 

LAMBORGHINI URUS SE คือ การหันมาใช้ขุมพลังไฮบริดเป็นครั้งแรกของสายพันธุ์เอสยูวีจากค่ายกระทิงดุ ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ บลอคใหญ่ ขนาด 4.0 ลิตร กำลังสูงสุด 620 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 189 แรงม้า เป็นกำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 800 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 312 กม./ชม. นอกจากนี้ ยังสามารถชาร์จไฟฟ้าตามสไตล์พลัก-อิน ไฮบริด (แต่รองรับการชาร์จแบบ AC เท่านั้น)

ห้องโดยสารมาดสปอร์ท

แม้เป็นรถยนต์สไตล์เอสยูวี แต่ URUS มีห้องโดยสารที่เร้าใจไม่แพ้บรรดารถสปอร์ทร่วมค่าย จอแผงหน้าปัดขนาดใหญ่ รูปแบบดิจิทอลเต็มตัว สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้หลากหลาย รวมถึงการสดงผลแบบสปอร์ทเต็มตัว หรือแสดงผลระบบเนวิเกเตอร์เต็มจอแผงหน้าปัดก็ทำได้ ปุ่มใช้งานบริเวณคอนโซลกลางเป็นสลักเปิดขึ้น/ลงคล้ายเครื่องบินรบ รวมถึงที่ครอบปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เบาะนั่งทรงปสอร์ทจำนวน 4 ตำแหน่ง

รู้หรือไม่

1. LAMBORGHINI URUS เป็นเอสยูวีรุ่นที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของค่ายรถแห่งนี้ โดยหลายปีก่อนเคยมีเอสยูวีทำตลาดเป็นช่วงเวลาสั้นๆ และผลิตจำนวนจำกัด นั่นคือ LM002 (แอลเอม 002) ตัวถังบึกบึน บ่งบอกความเป็นตัวลุยเต็มพิกัด

2. อย่างไรก็ตาม URUS คือ เอสยูวีสไตล์สปอร์ทที่ทางค่ายกระทิงดุตั้งใจพัฒนาขึ้นมาทำตลาดอย่างจริงจัง หลังจากที่เผยรถต้นแบบมาเป็นเวลาหลายปี ส่วนหนึ่งมาจากกระแสของตลาดโลกที่มีความต้องการรถยนต์เอสยูวีที่มีความสปอร์ท สมรรถนะสูง

3. ปัจจุบัน LAMBORGHINI URUS มีรุ่นย่อยหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรุ่น S กับเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ตามด้วยรุ่นสมรรถนะสูงเป็นพิเศษกับ PERFORMANTE (แปร์ฟอร์มันเต) ก่อนที่ล่าสุดจะเพิ่มทางเลือกกับรุ่นเครื่องยนต์พลัก-อิน ไฮบริดกับรุ่น SE