เดือนนี้ “ระเบียงรถใหม่” เอาใจคนรักรถสปอร์ท โดยนำเรื่องราวของรถสปอร์ทจาก 2 ทวีปอันไกลโพ้นมาเล่าสู่กันฟัง เป็นรถ 3 สัญชาติ คือ รถอังกฤษ รถอิตาลี และรถอเมริกัน เป็นผลงานใหม่ของผู้ผลิตรถยนต์ระดับ “อินเตอร์” 5 ราย คือ ASTON MARTIN (แอสตัน มาร์ทิน) McLAREN (แมคลาเรน) FERRARI (แฟร์รารี) MASERATI (มาเซราตี) และ CHEVROLET (เชฟโรเลต์) ทั้งหมดล้วนเป็นรถแรงสุดๆ และเร็วสุดๆ ไม่มีคันใดเลยที่มีกำลังสูงสุดต่ำกว่า 470 กิโลวัตต์ หรือ 640 แรงม้า (แรงที่สุด 794 กิโลวัตต์/1,064 แรงม้า...ย้ำ 1,064 แรงม้า) และไม่มีคันใดเลยที่ไม่สามารถทำความเร็ว 290 กม./ชม. (เร็วที่สุดทำได้สูงกว่า 346 กม./ชม. ย้ำ 346 กม./ชม.)
เริ่มกันที่ ASTON MARTIN VANQUISH (แอสตัน มาร์ทิน แวนควิช) รถแบบใหม่ในชื่อเก่า ซึ่งเพิ่งเปิดตัวที่เมือง VENICE (เวนิศ) ในอิตาลี เมื่อวันจันทร์ที่ 2 กันยายน ของปีมังกรไฟนี่เอง
ก่อนหน้านี้ยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทเมืองผู้ดีเคยทำรถชื่อนี้มาแล้ว 2 รุ่น รถรุ่นแรกซึ่งติดป้ายชื่อ ASTON MARTIN V12 VANQUISH (แอสตัน มาร์ทิน วี 12 แวนควิช) และอยู่ในสายการผลิตระหว่างปี 2001-2007 เป็นผลงานรังสรรค์ของ IAN CALLUM (เอียน คัลลัม) นักออกแบบชาวอังกฤษชื่อดังซึ่งปัจจุบันมีอายุ 70 ปี เป็น FLAGSHIP หรือรถธง ที่ค่ายนี้บรรจุเข้าสู่สายการผลิตแทนที่รถธงรุ่นเดิม คือ ASTON MARTIN VIRAGE (แอสตัน มาร์ทิน วิราจ) ซึ่งเริ่มการผลิตเมื่อปี 1993
เป็นรถ 2 ประตูคูเป 2 หรือ 2+2 ที่นั่ง ซึ่งมีตัวถังยาว 4.665 ม. กว้าง 1.923 ม. และสูง 1.318 ม. ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินหายใจอากาศธรรมดา วี 12 สูบ ความจุ 5.9 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 343 กิโลวัตต์/466 แรงม้า และส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านระบบเกียร์กึ่งอัตโนมัติ 6 จังหวะ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาไม่ถึง 5.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้สูงกว่า 306 กม./ชม. รถรุ่นนี้อยู่ในสายการผลิตจนถึงเดือนกรกฎาคม 2007 แล้วก็ยุติ พร้อมกับการปิดตัวของโรงงานเดิมที่ใช้งานมายาวนาน 49 ปี
ต้องรอถึง 5 ปี ผู้คนจึงได้เห็นรถรุ่นที่ 2 ซึ่งติดป้ายชื่อ ASTON MARTIN VANQUISH และเริ่มการผลิตในปี 2012 รถรุ่นนี้เป็นผลงานของ MAREK REICHMAN (มาเรค รีชแมน) นักออกแบบชาวอังกฤษซึ่งปัจจุบันเป็นหมายเลขหนึ่งด้านการดีไซจ์นของค่ายนี้ ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน วี 12 สูบ 5.9 ลิตร ของรถรุ่นแรก แต่ปรับปรุงใหม่จนกำลังสูงสุดพุ่งขึ้นเป็น 421 กิโลวัตต์/573 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาแค่ 4.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 295 กม./ชม. ที่พิเศษกว่ารถรุ่นแรกก็คือ รถรุ่นที่ 2 ซึ่งอยู่ในสายการผลิตจนถึงปี 2018 นี้ มีตัวถังเปิดประทุนซึ่งติดป้ายชื่อ ASTON MARTIN VANQUISH VOLANTE (แอสตัน มาร์ทิน แวนควิช โวลันเต) ด้วย
ส่วน ASTON MARTIN VANQUISH ที่กำลังอวดโฉมอยู่นี้ เป็นรถรุ่นที่ 3 เพิ่งปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งแรกในเมืองมะกะโรนีดังที่กล่าวข้างต้น เป็นรถที่ค่ายนี้กำลังจะบรรจุเข้าสู่สายการผลิต ในฐานะรถธงรุ่นใหม่ แทนที่รถธงรุ่นเดิม คือ ASTON MARTIN DBS (แอสตัน มาร์ทิน ดีบีเอส) ที่เริ่มผลิตเมื่อปี 2018 และขณะนี้ปลดจากสายการผลิตไปแล้ว
ออกแบบโดยใช้พแลทฟอร์มชุดเดียวกันกับรถร่วมค่ายอีก 2 แบบ คือ ASTON MARTIN VANTAGE (แอสตัน มาร์ทิน วานเทจ) และ ASTON MARTIN DB12 (แอสตัน มาร์ทิน ดีบี 12) แต่ยืดช่วงฐานล้อให้ยาวขึ้น 12.5 ซม. ตัวถัง 2 ประตูคูเป ซึ่งยาว 4.850 ม. ก็เช่นเดียวกับรถร่วมค่าย 2 แบบนี้ คือ มีโครงสร้างทำจากอลูมิเนียม ใช้ระบบรองรับหน้าแบบอิสระ DOUBLE WISHBONE (ดับเบิลวิชโบน) หรือปีกนก 2 ชั้น และระบบรองรับหลังแบบอิสระ MULTI-LINK (มัลทิ-ลิงค์) หรือแขนยึดหลายชิ้น ส่วนระบบห้ามล้อ เป็น CARBON CERAMIC BRAKE (คาร์บอน เซรามิค เบรค) ซึ่งล้อหน้ามีขนาด 410 มม. และล้อหลังมีขนาด 360 มม.
อย่างไรก็ตาม จุดเด่น และเป็นจุดขายสำคัญของรถรุ่นใหม่นี้อยู่ที่เครื่องยนต์ เป็นเครื่องบลอคเดิมที่เคยใช้มาก่อนแล้วในรถ ASTON MARTIN DBS คือ เครื่องทวินเทอร์โบเบนซิน วี 12 สูบ 48 วาล์ว ความจุ 5,204 ซีซี แต่ปรับแต่งมากมายจนแทบจะกลายเป็นเครื่องบลอคใหม่ เช่น เพิ่มความแข็งแรงของเสื้อสูบเพื่อรองรับพลังใหม่ เพิ่มขนาดของเทอร์โบชาร์เจอร์ซึ่งหมุนเร็วขึ้นร้อยละ 15 ออกแบบแกนลูกเบี้ยวใหม่ และออกแบบฝาสูบใหม่ ผลลัพธ์ คือ กำลังสูงสุดพุ่งพรวดพราดจาก 533 กิโลวัตต์/725 แรงม้า เป็น 614 กิโลวัตต์/835 แรงม้า หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15.2 เป็นตัวเลขที่บ่งชี้ว่า นี่คือเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทรงพลังที่สุดของค่ายนี้ ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังสู่ล้อคู่หลัง เป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ZF
สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาแค่ 3.2 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดก็สูงถึง 345 กม./ชม. เป็นตัวเลขที่ไม่มีรถตลาด หรือรถผลิตเพื่อจำหน่ายแบบใดๆ ของค่ายนี้สามารถทำได้ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
เป็นรถที่ผู้ผลิตบอกว่า จะจำกัดจำนวนผลิตไม่ให้เกินปีละ 1,000 คัน ค่าตัวที่กำหนดไว้ คือ 300,000 ปอนด์ หรือประมาณ 13.2 ล้านบาทไทย เมื่อคิดว่า เงินอังกฤษ 1 ปอนด์ แลกได้ด้วยเงินไทย 44 บาทถ้วน
ASTON MARTIN VANQUISH
รถสปอร์ทคูเป 2 ประตู 2 ที่นั่ง วางเครื่องหน้า/ขับเคลื่อนล้อหลัง
เครื่องทวินเทอร์โบเบนซิน วี 12 สูบ 5,204 ซีซี 614 กิโลวัตต์/835 แรงม้า
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ZF
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 345 กม./ชม.
ราคาในอังกฤษ 300,000 ปอนด์ (ประมาณ 13.2 ล้านบาทไทย)