ระเบียงรถใหม่
FERRARI 12CILINDRI รถธงรุ่นใหม่ของค่าย “ม้าลำพอง” มีทั้งรถคูเป และรถเปิดประทุน
เมื่อเป็นเรื่องราวของรถสปอร์ทวิ่งเร็ว และพลังล้นเหลือ หากไม่มีผลงานของ FERRARI (แฟร์รารี) รวมอยู่ด้วย ก็อาจทำให้เกิดคำถาม ผลงานใหม่ของค่าย “ม้าลำพอง” ที่นำมาให้ชื่นชมกันในเดือนนี้ เป็นรถคูเปติดป้ายชื่อ FERRARI 12CILINDRI (แฟร์รารี 12 ซีลินดรี) กับรถเปิดประทุนติดป้ายชื่อ FERRARI 12CILINDRI SPIDER (แฟร์รารี 12 ซีลินดรี สไปเดอร์) ซึ่งเปิดตัวพร้อมกันเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้
เป็นการเปิดตัวเพื่อเฉลิมฉลองวาระที่ค่าย “ม้าลำพอง” ประกอบธุรกิจในสหรัฐอเมริกาครบ 70 ปี สถานที่เปิดตัว คือ เมือง MIAMI (ไมอามี) ในรัฐ FLORIDA (ฟลอริดา) ส่วนวันเวลาของการเปิดตัว คือ วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม 2024 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นการแข่งขัน MIAMI GRAND PRIX (ไมอามี กรองด์ ปรีซ์) เป็นการแข่งรถฟอร์มูลา วัน ชิงแชมพ์โลก ที่มีรถแข่งของค่าย “ม้าลำพอง” ร่วมชิงชัยด้วย ที่มาพร้อมกับการเปิดตัวดังกล่าวนี้ คือ คำประกาศยืนยันว่า เป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ FERRARI และนี่คือรถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทรงพลังกว่ารถแบบใดๆ ที่ค่าย “ม้าลำพอง” ผลิตทั้งในอดีต และปัจจุบัน การเปิดตัวพร้อมๆ กันทั้งรถคูเป และรถเปิดประทุนนี้ ดูแปลก และไม่ใช่เรื่องไม่ปกติ เพราะที่ผ่านมาค่ายนี้มักจะเปิดตัวรถคูเปก่อน หลังจากนั้นอีกหลายเดือน หรือนานเป็นปี ผู้คนจึงได้เห็นรถเปิดประทุน
ชื่อรุ่น 12CILINDRI เป็นภาษาอิตาลี ตรงกับ 12 CYLINDERS ในภาษาอังกฤษ ซึ่งก็คือ 12 สูบ ในภาษาไทยนั่นเอง เมื่อเรียกชื่อในภาษาอิตาลี ชื่อของรถรุ่นนี้จะออกเสียงว่า FERRARI DODICI CILINDRI (แฟร์รารี โดดิชี ซีลินดรี)
เป็น FLAGSHIP หรือรถธง ซึ่งยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทเมืองมะกะโรนีกำลังจะบรรจุเข้าสู่สายการผลิต แทนที่รถธงรุ่นเดิม คือ รถคูเป FERRARI 812 SUPERFAST (แฟร์รารี 812 SUPERFAST) ซึ่งเริ่มการผลิตเมื่อปี 2017 กับรถเปิดประทุน FERRARI 812 GTS (แฟร์รารี 812 จีทีเอส) ที่เริ่มการผลิต 2 ปีหลังจากนั้น
ตัวถังคูเป 2 ประตู 2 ที่นั่ง ของ FERRARI 12CILINDRI ซึ่งยาว 4.733 ม. กว้าง 2.176 ม. สูง 1.292 ม. และมีน้ำหนักรถเปล่า 1,560 กก. กับตัวถังเปิดประทุน 2 ประตู 2 ที่นั่ง ของ FERRARI 12CILINDRI SPIDER ซึ่งก็ยาว 4.733 ม. กว้าง 2.176 ม. และสูง 1.292 ม. แต่มีน้ำหนักรถเปล่า 1,620 กก. เป็นผลงานรังสรรค์ของศูนย์ออกแบบ FERRARI STYLING CENTRE (แฟร์รารี สไตลิง เซนเตอร์) ในอิตาลี ซึ่งมี FLAVIO MANZONI (ฟลาวีโอ มันโซนี) สถาปนิค และนักออกแบบชาวอิตาลีวัย 60 ปี เป็นผู้นำ เป็นการออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถเก่าหลายรุ่นที่ค่ายนี้ผลิตจำหน่ายในช่วงทศวรรษของปี 1950 และ 1960
เมื่อมองจากภายนอก ตัวถังซึ่งทำจาก CARBON FIBER (คาร์บอนไฟเบอร์) ของรถทั้งสองแบบนี้ มีจุดเด่นดึงดูดสายตาอยู่หลายจุด ตัวอย่างเช่น กระทะล้อขนาด 21 นิ้ว ที่ออกแบบขึ้นใหม่โดยเฉพาะ กับแถบสีดำเชื่อมต่อโคมไฟหน้าทั้ง 2 ด้าน ซึ่งได้แบบจากรถ FERRARI 365 GTB/4 (แฟร์รารี 365 จีทีบี/4) รุ่นปี 1968
แถบสีดำที่ว่านี้ทำให้เกิดคำวิจารณ์ว่าเป็น NOSTALGIC APPROACH หรือแนวทางการออกแบบในลักษณะย้อนยุค ซึ่งผู้นำการออกแบบ คือ FLAVIO MANZONI ปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่เป็นการมองไปในอนาคตโดยให้ความเคารพอดีต
รถเปิดประทุน ติดตั้งประทุนหลังคาแบบแข็ง บังคับเปิด/ปิดโดยการกดปุ่ม การเปิด หรือปิดประทุนแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 14 วินาที และทำได้เมื่อรถยังวิ่งเร็วไม่เกิน 45 กม./ชม. การติดตั้งประทุนหลังคาดังกล่าวนี้ ทำให้ห้องโดยสารไม่มีการติดตั้ง REAR BENCH (เรียร์ เบนช์) หรือเก้าอี้ม้ายาวหลังเก้าอี้ผู้ขับ เหมือนที่มีในรถคูเป เพราะต้องใช้พื้นที่เป็นที่เก็บประทุนหลังคา ขณะเดียวกันห้องเก็บของท้ายรถก็ลดขนาดลงถึง 100 ลิตร
เหมือนชื่อรุ่นของรถที่แปลว่า 12 สูบ ทั้งรถคูเป และรถเปิดประทุน ติดตั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลังด้วยพลังของเครื่องยนต์ วี 12 สูบ (รหัสเครื่องยนต์ F140HD) เป็นเครื่องยนต์เบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรงหายใจอากาศธรรมดา ความจุ 6,496 ซีซี บลอคเดียวกันกับที่เคยเห็นกันมาก่อนแล้วในรถคูเป FERRARI 812 SUPERFAST และรถเปิดประทุน FERRARI 812 GTS แต่มีความพยายาม และเสียเงินทองมากมาย ที่จะเพิ่มพลัง และทำให้คุณภาพไอเสียเป็นไปตามกฎเกณฑ์ใหม่ที่แสนเคร่งครัดของ EU
การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ ส่งผลให้น้ำหนักของกระบอกสูบลดลงร้อยละ 2 น้ำหนักของแกนลูกเบี้ยวลดลงร้อยละ 3 และน้ำหนักก้านสูบลดลงถึงร้อยละ 40 เมื่อผสมผสานกับการเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่าง ส่งผลให้ REDLINE (เรดไลน์) หรือรอบเครื่องเส้นแดง เพิ่มจาก 8,900 เป็น 9,500 รตน. และผลลัพธ์ในบั้นปลาย คือ กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์บลอคนี้ เพิ่มจาก 588 กิโลวัตต์/800 แรงม้า เป็น 610 กิโลวัตต์/830 แรงม้า ที่ 9,250 รตน. และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 678 นิวทันเมตร/69.2 กก.ม. ที่ 7,250 รตน. เป็นตัวเลขที่ไม่เคยมีเครื่องยนต์สันดาปภายในบลอคใดๆ ของค่าย “ม้าลำพอง” ทำได้มาก่อน
ที่เปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน คือ เปลี่ยนระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังสู่ล้อคู่หลัง จากเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ เป็นเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ ซึ่งส่งผลเป็นการเพิ่มแรงบิดที่ล้อถึงร้อยละ 12 และมีจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่เร็วขึ้นถึงร้อยละ 30
ยังมีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายจุด ซึ่งจุดที่สมควรกล่าวถึงในที่นี้ คือ 1. การติดตั้งระบบ 4WS (FOUR-WHEEL INDEPENDENT STEERING) หรือระบบบังคับเลี้ยวโดยอิสระทั้ง 4 ล้อ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งส่งผลในการเพิ่มสมรรถนะการเลี้ยว รวมทั้งการวิ่งทางตรง 2. การลดความยาวของช่วงฐานล้อเป็น 2.700 ม. คือ สั้นลง 20 มม. ซึ่งส่งผลให้รถแคล่วคล่องว่องไว และตอบสนองได้ฉับไวขึ้น เมื่อเทียบกับรถธงรุ่นก่อน 3. การติดตั้ง BRAKE-BY-WIRE TECHNOLOGY (เบรค-บาย-ไวร์ เทคโนโลยี) หรือระบบห้ามล้อที่ควบคุมการทำงานด้วยสายไฟฟ้า ซึ่งช่วยแปรผันน้ำหนักการห้ามล้อของแต่ละล้ออย่างมีประสิทธิภาพ
สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของค่าย “ม้าลำพอง” รถคูเป อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 2.9 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ทำได้ในเวลาไม่ถึง 7.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้สูงกว่า 340 กม./ชม. ส่วนการห้ามล้อ 100-0 กม./ชม. ทำได้ในระยะทาง 31.4 ม. และการห้ามล้อ 200-0 กม./ชม. ทำได้ใน 122.0 ม. รถเปิดประทุนซึ่งหนักกว่ากัน 60 กก. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพิ่มเวลานิดเดียวเป็น 2.95 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. เพิ่มเป็น 8.2 วินาที แต่ความเร็วสูงสุดก็ยังสูงกว่า 340 กม./ชม. ส่วนการห้ามล้อ 100-0 กม./ชม. และ 200-0 กม./ชม. ก็ใช้ระยะทางเท่ากับรถคูเป คือ 31.4 และ 122.0 ม. ตามลำดับ
ราคาค่าตัวในอิตาลี รถคูเปเริ่มต้นที่ 395,000 ยูโร หรือประมาณ 14.6 ล้านบาทไทย ส่วนรถเปิดประทุนแพงกว่ากันเยอะเลย คือ เริ่มต้นที่ 435,000 ยูโร หรือประมาณ 16.1 ล้านบาทไทย (เมื่อคิดว่า เงินฝรั่ง 1 ยูโร แลกได้ด้วยเงินไทย 47 บาทถ้วน)
FERRARI 12CILINDRI
รถสปอร์ทคูเป 2 ที่นั่ง วางเครื่องกลางลำค่อนไปข้างหน้า/ขับเคลื่อนล้อหลัง
มิติตัวถัง 4.733x2.176x1.292 ม. น้ำหนักรถเปล่า 1,560 กก.
เครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง วี 12 สูบ 6,496 ซีซี 610 กิโลวัตต์/830 แรงม้า
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุด สูงกว่า 340 กม./ชม.
ราคาในอิตาลี เริ่มต้นที่ 395,000 ยูโร (ประมาณ 14.6 ล้านบาทไทย)
FERRARI 12CILINDRI SPIDER
รถเปิดประทุน 2 ที่นั่ง วางเครื่องกลางลำค่อนไปข้งหน้า/ขับเคลื่อนล้อหลัง
มิติตัวถัง 4.733x2.176x1.292 ม. น้ำหนักรถเปล่า 1,620 กก.
เครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง วี 12 สูบ 6,496 ซีซี 610 กิโลวัตต์/830 แรงม้า
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.95 วินาที ความเร็วสูงสุด สูงกว่า 340 กม./ชม.
ราคาในอิตาลี เริ่มต้นที่ 435,000 ยูโร (ประมาณ 16.1 ล้านบาทไทย)