NISSAN (นิสสัน) เผยโฉม PATROL (แพทโรล) ใหม่ รถเอสยูวีหรูขนาดบิกไซซ์ สายพันธุ์ที่ 7 เปิดตัวที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นครั้งแรกในโลก เน้นการขายในตลาดแถบนี้เป็นหลัก ซึ่งรถรุ่นนี้ทาง NISSAN ได้เลิกใช้เครื่องยนต์ วี 8 สูบ หันมาใช้ วี 6 สูบ 3.8 ลิตร ไร้เทอร์โบ และ วี 6 สูบ 3.5 ลิตร ทวินเทอร์โบแทน สีภายนอกมีให้เลือกถึง 7 สี พร้อมสีทูโทนอีก 4 สี
ตัวรถทรงกล่องที่มาจากพื้นฐานโครงสร้างร่วมกับ INFINITI QX80 (อินฟินิที คิวเอกซ์ 80) เป็นแชสซีส์แบบขั้นบันได หรือ LADDER-FRAME ที่มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น 25 % ส่วนด้านข้างแข็งแรงขึ้น 57 % ไฟหน้ารูปตัว C มาพร้อมเทคโนโลยี ADAPTIVE DRIVING BEAM กระจังหน้าแบบ V-MOTION ที่โดดเด่น ส่วนไฟท้ายรูปตัว C เช่นเดียวกับไฟหน้า โดยมีแถบไฟเป็นแนวยาวตลอดความกว้างของตัวรถ หลังคาแบบซันรูฟพาโนรามิค ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ล้อขนาดใหญ่ 22 นิ้ว พร้อมยาง 305/45 R22 ช่วยเพิ่มความสูง และสมรรถนะในการใช้งานบนทางเรียบ และเส้นทางทุรกันดาร ระยะต่ำสุดจากพื้น 244-253 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย และออพชัน น้ำหนักตัวรถ 2,680-2,813 กก. ถังน้ำมันมีความจุ 97 ลิตร
ภายในห้องโดยสารเน้นความหรูหรา สะดวกสบาย เบาะนั่งแบบ 3 แถว 8 ที่นั่ง 2+3+3 เบาะคู่หน้าปรับได้ 8 ทิศทาง พร้อมฟังค์ชันนวดคลายความเมื่อยล้า เบาะแถว 2 พับลงได้แบบ 40:20:20 และ 50:50 ในเบาะแถวที่ 3 นอกจากนี้ ยังนำเทคโนโลยี BIOMETRIC COOLING ที่มีเซนเซอร์อินฟราเรด ตรวจจับอุณหภูมิร่างกายผู้โดยสารทุกตำแหน่ง เพื่อปรับการทำงานอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศตามผู้นั่งในแต่ละตำแหน่งเบาะโดยอัตโนมัติ
แผงหน้าปัดติดตั้งหน้าจอขนาด 28.6 นิ้ว ประกอบด้วยจอขนาด 14.3 นิ้ว 1 คู่ เพื่อใช้ในระบบนำทาง, ระบบความบันเทิงภายในรถ รวมไปถึงแสดงข้อมูลสำหรับการขับขี่ นอกจากนี้ ยังมีออพชันจอขนาด 12.8 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารเบาะหลังด้วย และมีไฟตกแต่งแบบแอมเบียนไลท์ 64 เฉดสี เพื่อสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ระบบเสียงชั้นดีจาก KLIPSCH PREMIUM AUDIO พร้อมลำโพง 12 ตัว ในส่วนของพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายรถ กว้างขวางกว่ารุ่นก่อนถึง 30 %
ขุมพลัง 2 ขนาด ประกอบด้วย เครื่องยนต์ วี 6 สูบ 3.5 ลิตร ทวินเทอร์โบ 425 แรงม้า แรงบิด 71.4 กก.ม. และเครื่องยนต์ วี 6 สูบ 3.8 ลิตร ไร้เทอร์โบ 316 แรงม้า 39.4 กก.ม. ให้ความประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ วี 8 สูบ แบบเดิมถึง 7 % และมีแรงบิดสูงขึ้น 25 % ส่วนระบบส่งกำลังเป็นแบบอัตโนมัติ 9 จังหวะ มาพร้อม 6 โหมดการขับขี่ ประกอบด้วย STANDARD, SAND, ROCK, MUD/RUT, ECO และ SPORT รวมทั้งระบบขับเคลื่อน 4WD TRANSFER MODE INTERLOCK SYSTEM ใหม่ ที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกของ NISSAN เพื่อการปรับเปลี่ยนโหมดได้อย่างราบรื่น และกระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ เพื่อรองรับการใช้งานบนสภาพพื้นถนนอันท้าทาย สามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 700 มม. ความสามารถในการลากจูง 3,500 กก.
ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น ส่วนด้านหลังแบบ ADAPTIVE AIR SUSPENSION SYSTEM ที่สามารถปรับความสูง-ต่ำของตัวรถได้ 70 มม. รวมถึงปรับระดับอัตโนมัติได้ตามสภาพการขับขี่ เฟืองท้ายแบบ REAR HELICAL LIMITED SLIP DIFF และระบบลอคเฟืองท้ายแบบ REAR DIFF LOCK ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ PRO PILOT 2.0 สามารถปรับระดับความเร็วในการขับขี่กึ่งอัตโนมัติได้เอง พร้อมทั้งช่วยควบคุมทิศทางให้อยู่ในช่องจราจร และอื่นๆ
หนึ่งในตำนานรถลุย “สิงห์ทะเลทราย” ที่โด่งดังแถบตะวันออกกลางมากว่า 70 ปี และยังได้รับความนิยมอย่างสูงในแถบออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มาคราวนี้จัดเต็มทั้งในด้านสมรรถนะ รวมถึงตัวช่วยต่างๆ ที่ทำให้รถรุ่นนี้พร้อมลุยไปในทุกสภาพเส้นทาง แฝงไว้ด้วยความสะดวกสบายของผู้โดยสาร พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความบันเทิงแบบ “ล้นๆ”
รถรุ่นนี้จะมีลูกเล่น PUDDLE LIGHT ที่จะฉายข้อความ “SINCE 1951” ลงสู่พื้นโดยอัตโนมัติ เมื่อผู้ขับขี่ลอค หรือปลดลอคประตู โดยปีดังกล่าวเป็นปีที่ NISSAN PATROL รุ่นแรกถือกำเนิด