ณรงค์ สีตลายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์นจำกัด

“ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ ณรงค์ สีตลายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ในเครือกลุ่มธนบุรี ผู้นำเข้า และผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ GEELY (จีลี) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย 

ฟอร์มูลา : คุณมองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะเป็นอย่างไร ?

ณรงค์ : ปีนี้ค่อนข้างเหนื่อย เนื่องจากปีที่แล้วถือเป็นช่วงลดในรอบหลายปี และคิดว่าปีนี้ยังไม่สามารถกลับไปสู่ช่วงก่อน COVID-19 ได้ คาดว่า ยอดขายรวมน่าจะอยู่ที่ 500,000-600,000 คัน ถือว่าทำได้ดีมาก หากไม่มีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ ซึ่งคิดว่าภาครัฐน่าจะกำลังพิจารณานโยบายเรื่องสินเชื่อ หรือแนวทางการผ่อนต่างๆ มาลดหย่อนภาษี หรือมาตรการช่วยเหลือเซกเมนท์รถพิคอัพ ซึ่งเป็นเซกเมนท์ที่ใหญ่มาก โดยปีนี้ตลาดอาจยังไม่ได้ดีขึ้น แต่มีแนวโน้มว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ

ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใด GEELY จึงเลือกกลุ่มธนบุรีเป็นผู้นำเข้า และผู้แทนจำหน่าย ?

ณรงค์ : ธนบุรี นอกจากมีความเชี่ยวชาญเรื่องการขายแล้ว ยังสามารถประกอบรถได้ โดยมีชื่อเสียงในการประกอบรถยนต์ MERCEDES-BENZ (เมร์เซเดส-เบนซ์) รวมถึงมีโรงงานแบทเตอรีด้วย ซึ่ง GEELY เห็นความพร้อมหลายอย่าง ที่จะต่อยอดบแรนด์ GEELY ได้ สำหรับธนบุรี เราก็เลือกเหมือนกัน และสุดท้ายก็สามารถต่อยอดซึ่งกันและกันได้ การขายไม่น่ามีปัญหา เรามีประสบการณ์ แต่มองต่อไป ธุรกิจ GEELY ไม่ได้มีบแรนด์เดียว แต่เรารวมกันแล้ว สามารถต่อยอดในเชิงธุรกิจได้ และไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยอย่างเดียว ในอนาคตอาจจะต่อยอดในสเกลที่ใหญ่ขึ้น 

ฟอร์มูลา : นโยบาย และทิศทางของ GEELY ในประเทศไทย ?

ณรงค์ : บริษัทฯ ต้องการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วยกลยุทธ์เชิงรุก ตอกย้ำการเป็นผู้นำแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ และผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมยานไฟฟ้าระดับพรีเมียม มุ่งสร้างการรับรู้ของบแรนด์ ให้คนไทยได้รู้จักเทคโนโลยี ดีไซจ์น สมรรถนะที่เหนือกว่า พร้อมความแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับบแรนด์ของธนบุรี ที่มีประวัติยาวนาน 84 ปี ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย พร้อมแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดปีละ 1 รุ่น ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายดีเลอร์ ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้า โดยคำนึงถึงคุณภาพ และความสัมพันธ์ในฐานะพาร์ทเนอร์ในระยะยาว เน้นไปที่การยกระดับบริการหลังการขายแบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดตั้งศูนย์กระจายอะไหล่ที่ทันสมัย รวดเร็ว และครอบคลุม ไปจนถึงการเปิดศูนย์ฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรในทุกส่วน เราเชื่อว่า การสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าต้องมาพร้อมกับมาตรฐานบริการหลังการขายที่ไร้ที่ติ เราพร้อมส่งมอบนวัตกรรมที่ดีที่สุด และสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตลาด EV ไทย 

ฟอร์มูลา : กลยุทธ์ที่ใช้ในการแข่งขัน ?

ณรงค์ : GEELY มีความโดดเด่นเรื่องเทคโนโลยี และการดีไซจ์นที่พัฒนาจน GEELY เป็นรถระดับกึ่งพรีเมียม ซึ่งเรานำส่วนนี้มาเป็นกลยุทธ์ในการสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้าได้ โดยหวังว่าในระยะ 3-5 ปี GEELY จะเป็นตัวเลือกของลูกค้าระดับทอพ 3 เห็นได้ชัดกับการที่ลูกค้าเลือก GEELY EX5 (จีลี อีเอกซ์ 5) ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จน่าพอใจ นั่นเป็นเพราะลูกค้ารู้จัก GEELY ในระดับ GLOBAL โดยมีรากฐานที่แข็งแกร่งในประเทศจีน และการที่ธนบุรีเป็นผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทย ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจเพิ่มขึ้น 

ฟอร์มูลา : จุดเด่นของ GEELY?

ณรงค์ : GEELY ให้ความสำคัญเรื่องการวิจัย และพัฒนาอย่างมาก โดยทรานส์ฟอร์มมาเป็น GLOBAL พแลทฟอร์ม GEA ที่ลงทุนในงบประมาณสูง และนำไปใช้ในรถหลายรุ่น รวมถึงระบบ 11-IN-1 INTELLIGENT ELECTRIC DRIVE SYSTEM หรือ SHORT BLADE BATTERY ทำให้รถวิ่งได้ระยะยาวขึ้น ประหยัดไฟฟ้า ระบบต่างๆ ที่ทันสมัย ทำให้ GEELY อยู่ในระดับแนวหน้าในเรื่องของนวัตกรรม 

ฟอร์มูลา : การลงทุน และความพร้อมในการขยายธุรกิจ ?

ณรงค์ : ในเบื้องต้น GEELY จะเน้นการลงทุนในระบบหลังบ้าน เช่น ระบบ IT ที่จะต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโชว์รูม ศูนย์บริการ ระบบการสั่งรถ ระบบการสั่งอะไหล่ ระบบวารันตี เงินสำรอง และสตอคสินค้า ในฐานะที่เป็นผู้นำเข้า รวมถึงเตรียมพร้อมเรื่องการฝึกอบรมด้านต่างๆ 

ฟอร์มูลา : การขยายเครือขายผู้จำหน่าย และศูนย์บริการ ?

ณรงค์ : ภายในปี 2568 ตั้งเป้าไว้ที่ 30 แห่ง โดยกลางปีนี้จะมีดีเลอร์ 17 แห่ง ในกรุงเทพฯ 6 แห่ง และต่างจังหวัดอีก 11 แห่ง แล้วทยอยเปิดเรื่อยๆ จนถึงปลายปี พอครบ 30 แห่งแล้ว สัดส่วนในกรุงเทพฯ จะอยู่ที่ประมาณ 40 % และต่างจังหวัด 60 % โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาทำฟแลกชิพสโตร์ ในเรื่องของรูปแบบ และโลเคชัน

ฟอร์มูลา : แผนลงทุนการผลิตในประเทศไทย ?

ณรงค์ : ตอนนี้ยังไม่มีแผนชัดเจน ปัจจุบัน เป็นการนำเข้ารถยนต์ GEELY EX5 โดยตรงจากประเทศจีน โดยการทำตลาดบแรนด์ GEELY ธนบุรีได้ทำรีเสิร์ชอย่างมาก

ผลิตภัณฑ์ GEELY ไม่ได้มีเพียงรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียว แต่ยังมีพลังงานทางเลือกอื่นๆ รวมถึงยังมีรถหลากหลายเซกเมนท์ ไม่ว่าจะเป็นเอสยูวี ซีดาน เอมพีวี รถตู้ รถขนาดเล็ก ซึ่ง GEELY จะพัฒนาให้เป็นรถพวงมาลัยขวา เพื่อเปิดตัวในไทย เช่น รุ่น EX5

ส่วน GEELY STAR WISH รุ่นที่มาจัดแสดง ยังเป็นรุ่นพวงมาลัยซ้ายอยู่ เรานำมาโชว์เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าในตลาดรถเล็กเพราะเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเป็นรถที่เข้าถึงได้ง่าย 

ฟอร์มูลา : ตั้งเป้ายอดขายไว้อย่างไร ?

ณรงค์ : ปัจจุบันเราจำหน่าย GEELY EX5 เพียงรุ่นเดียว คาดว่าปีนี้จะมียอดขายประมาณ 8,000-9,000 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าจะเป็นไปได้ สำหรับขนาดตลาดปัจจุบัน รวมถึง GEELY ได้กำหนดมาตรฐานใหม่ ในการบริการลูกค้า เนื่องจากลูกค้ารถบแรนด์จีนจะเน้นเรื่องความคุ้มค่า GEELY จึงให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ฟอร์มูลา : ตลาดเมืองไทย รถยนต์ประเภทใดเหมาะสมที่สุด ?

ณรงค์ : คนไทยยอมรับเทคโนโลยีใหม่ได้เร็ว เห็นได้ชัดเจนจากรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตเร็วมากๆ ตอนนี้มี BEV เป็นทางเลือกเพิ่มขึ้นอีก รวมถึงยังมีพลัก-อิน ไฮบริด และอีกหลายๆ ประเภทที่จะเข้ามาในอนาคต อย่างล่าสุด เทคโนโลยี REEV ย่อมาจาก RANGE EXTENDED ELECTRIC VEHICLE หรือรถยนต์ไฟฟ้าที่มีระบบช่วยเพิ่มระยะทาง โดยโครงสร้างหลักจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100 % ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100 % แต่มีเครื่องยนต์สันดาปทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าแบทเตอรีเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ขับเคลื่อนล้อโดยตรง ยังไม่สรุปว่าเทคโนโลยีไหนเหมาะกับใคร ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของคนใช้มากกว่า ขับในเมืองก็อาจจะเป็นเทคโนโลยีหนึ่ง ต่างจังหวัดก็อาจจะมีอีกเทคโนโลยีหนึ่ง ซึ่ง GEELY มีเทคโนลยีพลัก-อิน เป็นหนึ่งในแผนที่ศึกษาอยู่

ฟอร์มูลา : สงครามราคายังคงมีอยู่หรือไม่ ?

ณรงค์ : สงครามราคายังมีอยู่ แต่สุดท้ายก็จะหายไป หลายบแรนด์ต้องพยายามสร้างยอดขาย ต้องผลิตตามข้อตกลงเรื่องการคืนภาษี แต่รู้ว่าจุดสมดุลอยู่ตรงไหน แต่สำหรับ GEELY เป็นการเข้ามาจำหน่าย ไม่มีโรงงาน ไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเรื่องภาษีเราจึงเน้นการตั้งราคาที่เหมาะสมบนความคุ้มค่า คุ้มราคา ด้วยตัวรถเอง ถ้าตั้งเราคาไม่ถูกต้องเราคงไม่ได้ยอดจอง เรามั่นใจว่าราคากับตัวรถสัมพันธ์กัน ที่เราต้องการสร้างนิยามใหม่ของความคุ้มค่า ด้วยบริการหลังการขาย 

ที่ผ่านมา ลูกค้าที่เลือก GEELY รู้ว่า GEELY เป็นใคร อีกทั้ง GEELY มีความชัดเจนของฟีเจอร์ ดีไซจ์นภายนอกที่มาพร้อมเทคโนโลยี ภายในกว้างขวาง เข้าไปแล้วรู้สึกประทับใจในขนาดของรถ วัสดุพรีเมียม เครื่องเสียงอย่างดี รู้สึกว่าได้สิ่งที่ครบถ้วน ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี