วิถีตลาดรถยนต์
นานๆ ครั้ง
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน 2025/2024
ตลาดโดยรวม +1.0 %
รถยนต์นั่ง +3.6 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +27.5 %
กระบะ 1 ตัน -21.4 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +44.3 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-เมษายน 2025/2024
ตลาดโดยรวม -4.8 %
รถยนต์นั่ง -8.1 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +6.5 %
กระบะ 1 ตัน -14.0 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +38.7 %
งานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ปี 2568 ที่จัดขึ้นปลายเดือนมีนาคม-เมษายน ที่ผ่านมา มีบทบาทสำคัญที่ส่งผลให้ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศ ขยับตัวสูงขึ้นกว่าที่เคยทำไว้ ในเดือนเมษายน 2567 และน่าจะส่งผลดีต่อเนื่องไปยังเดือนพฤษภาคมด้วย โดยงานนี้มียอดผู้เข้าชมงาน ในช่วงระยะเวลาการจัดงานเกิน 1.6 ล้านคน มีผู้สั่งจองรถยนต์ยี่ห้อ และรุ่นต่างๆ รวมกันทั้งสิ้น 77,379 คัน สูงกว่ายอดจองปี 2567 ถึง 44.8 % รถยนต์ที่ได้รับการจับจองมากที่สุด 10 ยี่ห้อ ได้แก่ อันดับ 1 BYD/DENZA (บีวายดี/เดนซา) 10,353 คัน อันดับ 2 TOYOTA (โตโยตา) 9,819 คัน อันดับ 3 GAC (AION/HYPTEC) (จีเอซี/ไอออน/ไฮพ์เทค) 7,018 คัน อันดับ 4 DEEPAL/AVATR/CHANGAN (ดีพอล/อวาทาร์/ฉางอัน) 6,589 คัน อันดับ 5 HONDA (ฮอนดา) 5,948 คัน อันดับ 6 MG (เอมจี) 5,910 คัน อันดับ 7 GWM (กเรท วอลล์ มอเตอร์) 4,959 คัน อันดับ 8 MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) 4,398 คัน อันดับ 9 NISSAN (นิสสัน) 3,119 คัน และอันดับ 10 ISUZU (อีซูซุ) 2,989 คัน
จากยอดจองดังกล่าว มีบางส่วนได้ทยอยส่งมอบให้แก่ผู้สั่งจองเป็นที่เรียบร้อย รวมกับการส่งมอบรถยนต์ให้แก่ลูกค้าของผู้แทนจำหน่ายยี่ห้อต่างๆ เป็นที่ลุล่วงไปภายในเดือนเมษายน ส่งผลให้ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ประจำเดือนเมษายน 2568 จบลงที่ 47,193 คัน เพิ่มขึ้น 455 คัน หรือเพิ่มขึ้น 1.0 % เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2567 โดยรถยนต์ที่จำหน่ายได้มากที่สุดในเดือนนี้ มีการเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร รถยนต์บแรนด์ดังเลือดบูชิโด และเมืองลุงแซม หลุดออกจาก 5 อันดับแรก และถูกแทนที่ด้วยรถยนต์จากแดนมังกร จำหน่ายได้มากสุดอันดับ 1 ยังคงเป็นค่าย TOYOTA จำหน่ายได้ 17,900 คัน ลดลงจากเดือนเมษายน 2567 1,522 คัน หรือลดลง 7.8 % ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 37.9 % อันดับ 2 ค่าย BYD 6,554 คัน เพิ่มขึ้น 5,657 คัน หรือเพิ่มขึ้น 630.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.9 % อันดับ 3 ISUZU 5,616 คัน ลดลง 1,240 คัน หรือลดลง 18.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.9 % อันดับ 4 HONDA 3,356 คัน ลดลงถึง 2,387 คัน หรือลดลง 41.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.1 % และอันดับ 5 ค่าย MG 2,120 คัน เพิ่มขึ้น 669 คัน หรือเพิ่มขึ้น 46.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.5 %
ถึงแม้ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์เดือนเมษายน 2568 จะสูงขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถดึงตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่ต้นปี ให้ปรับตัวสูงขึ้นกว่าตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2567 ได้ โดยตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมเดือนมกราคม-เมษายน 2568 อยู่ที่ 200,386 คัน ยังน้อยกว่าตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมในห้วงเวลาเดียวกันของปี 2567 อยู่ 10,108 คัน หรือต่างกัน 4.7 % รถยนต์ที่มียอดสะสมมากสุด ณ เวลานี้ประกอบด้วย อันดับ 1 TOYOTA 75,583 คัน ลดลง 2,649 คัน หรือลดลง 3.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 37.7 % อันดับ 2 ISUZU 25,905 คัน ลดลง 5,395 คัน หรือลดลง 17.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.9 % อันดับ 3 HONDA 24,725 คัน ลดลง 6,122 คัน หรือลดลง 19.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.3 % อันดับ 4 BYD 16,538 คัน เพิ่มขึ้น 5,594 คัน หรือเพิ่มขึ้น 51.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.3 % และอันดับ 5 MITSUBISHI 8,842 คัน ลดลง 962 คัน หรือลดลง 9.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.4 %
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ภาพรวมของตลาดรถยนต์เดือนเมษายน 2568 จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา แต่ตลาดรถพิคอัพยังคงป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่ในแดนลบ ไม่สามารถขยับตัวขึ้นมาเป็นบวกได้ เดือนเมษายน 2568 มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 13,896 คัน ลดลง 3,793 คัน หรือลดลง 21.4 % เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2567 ตลาดนี้ยังไม่เปิดช่องว่างให้พิคอัพแดนมังกร เข้ามาเป็นผู้เล่นหลักได้ หัวแถว 5 พิคอัพยอดนิยม ยังคงเป็นยี่ห้อเดิมที่ทำตลาดมาอย่างช้านาน ยอดจำหน่ายสูงสุดเดือนเมษายน 2568 ประกอบด้วย TOYOTA 6,410 คัน ลดลง 2,237 คัน หรือลดลง 25.9 % เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2567 ส่วนแบ่งการตลาด 46.1 % อันดับ 2 ISUZU 4,865 คัน ลดลง 1,226 คัน หรือลดลง 20.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 35.0 % อันดับ 3 FORD (ฟอร์ด) 1,622 คัน ลดลง 393 คัน หรือลดลง 19.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.7 % อันดับ 4 MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) 741 คัน เพิ่มขึ้น 199 คัน หรือเพิ่มขึ้น 36.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.3 % และอันดับ 5 NISSAN (นิสสัน) 147 คัน ลดลง 103 คัน หรือลดลง 41.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 1.1 %
เดือนมกราคม-เมษายน 2568 รถพิคอัพยี่ห้อต่างๆ มีตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมรวมทั้งสิ้น 63,758 คัน ลดลง 10,356 คัน หรือลดลง 14.0 % เมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปี 2567 พิคอัพ TOYOTA นำโด่งในตำแหน่งหัวแถวด้วยตัวเลขยอดจำหน่ายสะสม 28,479 คัน เป็นตัวเลขที่ลดลง 5,416 คัน หรือลดลง 16.0 % เมื่อเทียบกับปี 2567 ส่วนแบ่งการตลาด 44.7 % ตามมาด้วยอันดับ 2 ISUZU 22,899 คัน ลดลง 4,673 คัน หรือลดลง 16.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 35.9 % อันดับ 3 FORD 6,556 คัน ลดลง 1,390 คัน หรือลดลง 17.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 10.3 % อันดับ 4 MITSUBISHI 4,406 คัน เพิ่มขึ้น 1,240 คัน หรือเพิ่มขึ้น 39.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.9 % และอันดับ 5 NISSAN 697 คัน ลดลง 425 คัน หรือลดลง 37.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 1.1 %
สำหรับรถเอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้ง เป็นอีกหนึ่งตลาดที่รถจากประเทศจีนเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และเป็นอีกตลาดที่เดือนเมษายนนี้มีตัวเลขยอดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นจากเดือนเมษายน 2567 ทั้งตลาดมีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 12,102 คัน เพิ่มขึ้น 2,613 คัน หรือเพิ่มขึ้น 27.5 % รถเอสยูวีที่ได้รับการจับจองเป็นเจ้าของมากที่สุดในเดือนนี้ประกอบด้วยอันดับ 1 ค่าย TOYOTA 4,197 คัน ลดลง 381 คัน หรือลดลง 8.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 34.7 % อันดับ 2 BYD 3,757 คัน เพิ่มขึ้นถึง 3,540 คัน หรือเพิ่มขึ้น 1,631.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 31.0 % อันดับ 3 HONDA 1,344 คัน ลดลง 957 คัน หรือลดลง 41.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.1 % อันดับ 4 MG 699 คัน เพิ่มขึ้น 447 คัน หรือเพิ่มขึ้น 177.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.8 % และอันดับ 5 CHANGAN 682 คัน ลดลง 72 คัน หรือลดลง 9.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.6 %
4 เดือนแรกของปี 2568 รถเอสยูวีมีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 45,248 คัน เทียบกับ 4 เดือนแรกของปี 2567 แล้วจำหน่ายได้มากขึ้น 2,750 คัน หรือเพิ่มขึ้น 6.5 % รถเอสยูวียอดนิยมที่มียอดจำหน่ายสะสมมากที่สุด ประกอบด้วย อันดับ 1 TOYOTA 16,857 คัน ลดลง 2,477 คัน หรือลดลง 12.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 37.3 % อันดับ 2 HONDA 11,829 คัน ลดลง 1,378 คัน หรือลดลง 10.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 26.1 % อันดับ 3 BYD 9,573 คัน เพิ่มขึ้น 7,284 คัน หรือเพิ่มขึ้น 318.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 21.2 % อันดับ 4 CHANGAN 2,125 คัน เพิ่มขึ้น 645 คัน หรือเพิ่มขึ้น 43.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.7 % และอันดับ 5 MG 1,353 คัน เพิ่มขึ้น 221 คัน หรือเพิ่มขึ้น 19.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 3.0 %
ในส่วนของรถเพื่อการพาณิชย์อื่นๆ เดือนเมษายน 2568 มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 3,278 คัน เพิ่มขึ้น 1,006 คัน หรือเพิ่มขึ้น 44.3 % ตลอดระยะเวลา 4 เดือนแรก ปี 2568 มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 15,229 คัน เพิ่มขึ้น 4,250 คัน หรือเพิ่มขึ้น 38.7 % มีการจดทะเบียนรถเอสยูวี และรถพิคอัพในเดือนเมษายน 2568 รวมทั้งสิ้น 29,163 คัน ลดลง 145 คัน หรือลดลง 0.5 % เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2567
และทั้งหมดนี้ คือ ภาพรวมของตลาดรถยนต์เดือนมกราคม-เมษายน 2568