MERCEDES-BENZ G-CLASS EDITION STRONGER THAN THE 1980S เอสยูวีพันธุ์แท้ยุคใหม่ ตกแต่งตามสไตล์รถยุคเก่า

มีรถสัญชาติเยอรมันสอดแทรกมาเพียงแบบเดียว เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้ติดตรา “ดาวสามแฉก” ที่มีชื่อยาวกว่าขบวนรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่วิ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ของประเทศไทย และยาวกว่าขบวนรถไฟฟ้าสายรอบเมืองสีเขียวตองที่วิ่งอยู่ในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น คือ MERCEDES-BENZ G-CLASS EDITION STRONGER THAN THE 1980S (เมร์เซเดส-เบนซ์ จี-คลาสส์ เอดิชัน สตรองเกอร์ แธน เธอะ 1980 เอส) ซึ่งนับอักษรฝรั่งกับเครื่องหมายได้มากถึง 47 ตัว และนับอักษรไทยกับเครื่องหมายได้มากกว่า คือ 55 ตัว

เป็นรถโมเดลพิเศษ ผลิตขึ้นโดยเฉพาะสำหรับนักสะสมรถ และจะจำกัดจำนวนผลิตไว้เพียง 460 คัน ไม่ใช่รถที่ทำขึ้นใหม่ทั้งคัน แต่เป็นการนำรถ MERCEDES-BENZ G-CLASS (เมร์เซเดส-เบนซ์ จี-คลาสส์) รุ่นล่าสุด ซึ่งมีรหัสโรงงาน W465 และเปิดตัวเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2023 มาพัฒนาต่อกิ่งต่อยอดเป็นรถรุ่นพิเศษสุดๆ

MERCEDES-BENZ G-CLASS รุ่นที่ว่านี้ เป็น MID-SIZE LUXURY SUV (มิด-ไซซ์ ลักชัวรี เอสยูวี) หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้ระดับหรูขนาดกลาง มีขนาดตัวถัง ยาว 4.624-4.873 ม. กว้าง 1.931-1.948 ม. และสูง 1.973-1.986 ม. และมีรถให้เลือก 3 โมเดล คือ MERCEDES-BENZ G 500 (เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 6 สูบเรียง 2,999 ซีซี 330 กิโลวัตต์/449 แรงม้า พร้อมระบบ MILD HYBRID 48V) MERCEDES-AMG 63 (เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบเบนซินฉีดตรง วี 8 สูบ 3,982 ซีซี 430 กิโลวัตต์/585 แรงม้า) และ MERCEDES-BENZ G 450 D (เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 6 สูบเรียง 2,989 ซีซี 270 กิโลวัตต์/367 แรงม้า พร้อมระบบ MILD HYBRID 48V)

รถรุ่นพิเศษที่ผลิตในจำนวนจำกัดนี้ มีการตกแต่งทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสาร ด้วยสีสัน และลักษณะการออกแบบสไตล์เดียวกันกับรถ MERCEDES-BENZ 280 GE ซึ่งเป็นโมเดลหนึ่งของรถกิจกรรมกลางแจ้ง MERCEDES-BENZ G-CLASS รุ่นแรก ที่มีรหัสโรงงาน W460 และเริ่มการผลิตเมื่อปี 1979 ส่วนสีตัวถัง เลือกได้เพียง 3 สี คือ สีเขียว AGAVE GREEN SOLID (อเกฟ กรีน โซลิด) สีครีม CREAM SOLID (ครีม โซลิด) และสีครีม COLORADO BEIGE SOLID (โคโลราโด เบจ โซลิด) แต่ละสีค่าย “ดาวสามแฉก” ให้ความหมายไว้ดังนี้

สีแรก คือ AGAVE GREEN SOLID อย่างที่เห็นในภาพประกอบ เป็นสีเขียวอมเหลือง ซึ่งเกี่ยวพันกับความแข็งแกร่ง และการใกล้ชิดกับธรรมชาติ จึงสะท้อนให้เห็นในสมรรถนะการขับขี่แบบ OFF-ROAD (ออฟโรด) ของรถ G-CLASS รุ่นประวัติศาสตร์

สีถัดมา คือ CREAM SOLID เป็นสีคลาสสิคซึ่งไม่มีทั้งจุดเริ่มต้น และจุดจบ จึงให้สัมผัสที่หรูหรา และซับซ้อน เป็นสีซึ่งนิยมกันมากในหมู่คนรักรถที่ส่วนใหญ่จะใช้รถ G-CLASS ในเขตเมือง

ส่วนสี COLORADO BEIGE SOLID เป็นสีอบอุ่น ที่ให้ความรู้สึกในการผจญภัย และอิสระเสรี ซึ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีในบุคลิกของรถ G-CLASS ยุคทศวรรษแห่งปี 1980

ส่วนระบบขับของรถรุ่นพิเศษนี้ เลือกได้ 2 แบบ คือ ระบบขับด้วยเครื่องยนต์เบนซินชุดเดียวกันกับรถ MERCEDES-BENZ G 500 และระบบขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซลชุดเดียวกันกับรถ MERCEDES-BENZ G 450 D

ค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ของเยอรมนี เริ่มต้นที่ 160,055 ยูโร หรือประมาณ 6.08 ล้านบาทไทย

MERCEDES-BENZ G-CLASS EDITION STRONGER THAN THE 1980S

• รถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้ขนาดกลาง ขับเคลื่อนทุกล้อ
• จำกัดจำนวนผลิต 460 คัน ตัวถังมีให้เลือกเพียง 3 สี
• เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 6 สูบเรียง 2,999 ซีซี 330+15 กิโลวัตต์/449+20 แรงม้า
• เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 6 สูบเรียง 2,989 ซีซี 270+15 กิโลวัตต์/367+20 แรงม้า
• ราคารวมภาษีในเยอรมนี เริ่มต้นที่ 160,055 ยูโร (ประมาณ 6.08 ล้านบาทไทย)