เขาว่า... : รถใหม่ ยังจำเป็นต้อง RUN IN...จริงไหม ?
จริง : แม้เครื่องจักรที่ใช้ผลิตเครื่องยนต์จะมีความละเอียดมาก แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย จึงควร RUN IN ระยะ 1,000 กม. แรกเสียก่อน เพื่อยืดอายุการใช้งาน
เทคโนโลยีการผลิตในปัจจุบันของอุตสาหกรรมยานยนต์ก้าวหน้าไปไกลมาก เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตก็ถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ชั้นสูง ดังนั้น ชิ้นงานที่ได้จากเครื่องจักรยุคนี้จึงมีความละเอียด แม่นยำ และเที่ยงตรงสูง ผิวกระบอกสูบเรียบลื่นขนาดพอดี เมื่อประกอบกับลูกสูบ จึงไม่ค่อยเกิดปัญหาเรื่องลูกสูบติดกับกระบอก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีครับ เพราะถ้าเราใช้รถโดยไม่ RUN IN มักเกิดปัญหาขึ้นมาได้ในระยะยาว เช่น เครื่องยนต์หลวมเร็วกว่าปกติ ความจริงแล้ว รถที่เพิ่งประกอบเสร็จจากโรงงาน โดยเฉพาะ “เครื่องยนต์” ควรต้องมีการทดสอบการทำงานก่อนส่งมอบให้ลูกค้า แต่เนื่องจากเงื่อนไขเรื่องเวลา และค่าใช้จ่าย ทำให้ไม่สามารถทดสอบก่อนส่งมอบให้ลูกค้าได้ ภาระการ RUN IN จึงตกอยู่กับเจ้าของรถไปโดยปริยาย
วิธี RUN IN ที่ถูกต้อง คือ เมื่อได้รถมาใหม่ ใช้งานในระยะ 1,000 กม. แรก ไม่ควรใช้รอบเครื่องยนต์สูงเกิน 4,500 รตน. แต่หากจำเป็น เช่น ต้องเร่งแซง ก็สามารถทำได้ แต่ควรทำแค่ช่วงสั้นๆ อย่าแช่รอบเครื่องยนต์ไว้สูงเกิน 3,000 รตน. เป็นเวลานานๆ หลังจาก RUN IN ครบ 1,000 กม. แล้ว เปิดฝากระโปรงหาคราบน้ำมันบริเวณใต้เครื่องยนต์ ถ้าไม่พบ และเครื่องยนต์ไม่มีอาการผิดปกติ ก็ถือว่าผ่านการ RUN IN สามารถใช้รถใหม่เหมือนรถทั่วไป
บทความแนะนำ