รถสายเลือดเยอรมันอีกแบบหนึ่งที่นำเรื่องราวมาบรรจุไว้ใน “ระเบียงรถใหม่” เดือนนี้ คือ รถติดป้ายชื่อ OPEL MOKKA GSE (โอเพล มคคา จีเอสอี) ก็ไม่ใช่รถเยอรมันพันธุ์แท้เช่นกัน เพราะเป็นกิจการที่ก่อกำเนิดในเยอรมนี และมีฐานการผลิตหลักอยู่ในเยอรมนี ปัจจุบันแม้ว่ายังเป็นรถที่ใช้กันมากในเยอรมนี แต่เจ้าของกิจการแทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยกับเยอรมนี คือ กลุ่มบริษัทรถยนต์เกิดใหม่ STELLANTIS NV (สเตลแลนทิส เอนวี) ซึ่งมีรถยนต์อยู่ในเครือข่ายมากกว่า 10 ยี่ห้อ
OPEL MOKKA (โอเพล มคคา) เป็น SUBCOMPACT CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด ที่ออกจำหน่ายไปแล้ว 2 รุ่น
รถรุ่นแรก ซึ่งมีขนาดตัวถัง ยาว 4.280 ม. กว้าง 1.775 ม. สูง 1.646 ม. และมีเฉพาะรถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน เริ่มการผลิตเมื่อปี 2012 และได้รับการปรับปรุงแบบ FACELIFT หรือ “ยกหน้า” เพียงครั้งเดียวเมื่อปี 2016 ส่วนรถรุ่นที่ 2 ซึ่งมีขนาดตัวถัง ยาว 4.151 ม. กว้าง 1.791 ม.และสูง 1.531 ม. เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2020 และเริ่มการจำหน่ายตอนปลายปี เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ที่มีทั้งรถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน รถไฮบริด และรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ หลังจากอยู่ในตลาดประมาณ 4 ปี รถรุ่นที่ 2 นี้ ก็ได้รับการปรับปรุงแบบ FACELIFT หรือ “ยกหน้า” เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2024
ในเยอรมนี หลังการปรับปรุงที่กล่าวข้างต้น OPEL MOKKA ขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ซึ่งมีขนาดตัวถังเท่ากันกับรถโมเดลอื่นๆ คือ ยาว 4.150 ม. กว้าง 1.787 ม. และสูง 1.535 ม. ติดตั้งระบบขับที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 115 กิโลวัตต์/156 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรี LITHIUM-ION ขนาดความจุ 54 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP รถจะวิ่งได้ไกล 403 กม. และมีอัตราสิ้นเปลืองพลังไฟฟ้าเฉลี่ย 15.4-15.6 กิโลวัตต์/100 กม. หรือ 6.4-6.5 กม./กิโลวัตต์ชั่วโมง เป็นแบทเตอรีซึ่งการชาร์จไฟ 20-80 % ด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) จาก WALLBOX 3 เฟส 11 กิโลวัตต์ ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. และการชาร์จไฟ 20-80 % แบบเร่งด่วนด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่สถานีชาร์จไฟจะใช้เวลา 27 นาที สมรรถนะความเร็วตามข้อมูลของผู้ผลิต อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 9.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม.
ส่วน OPEL MOKKA GSE ที่กำลังอวดโฉมอยู่นี้ เป็นรถแรง รถเร็วโมเดลใหม่ ตามสไตล์รถรหัส GSE ของค่ายนี้ เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2025 และยังไม่มีการยืนยันว่าจะเริ่มการจำหน่ายเมื่อใดๆ
มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด ทั้งในส่วนของตัวถัง และระบบการทำงานต่างๆ เช่น ระบบบังคับเลี้ยว ระบบห้ามล้อ ระบบรองรับ (กันสะเทือน) ฯลฯเพื่อให้สอดคล้องกับระบบขับที่แรงขึ้นเกือบ 1 เท่าตัว นอกจากนั้นยังออกแบบ/พัฒนากระทะล้อ และยางขึ้นใหม่เพื่อใช้กับรถโมเดลนี้โดยเฉพาะ คือ ยางขนาด 20 นิ้ว MICHELIN PILOT SPORT EV 225/40 R20
ระบบขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนในรถแรง รถเร็วโมเดลนี้ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 207 กิโลวัตต์/280 แรงม้า ที่ใช้ด้วยเช่นกันในรถร่วมค่ายร่วมเครืออีก 3 แบบ คือ PEUGEOT E-208 GTI (เปอโฌต์ อี-208 จีทีไอ) ALFA ROMEO JUNIOR ELETTRICA VELOCE (อัลฟา โรเมโอ จูเนียร์ เอเลตตริกา เวโลเช) และ ABARTH 600E (อบาร์ธ 600 อี) ส่วนแบทเตอรีใช้ขนาดเดียวกันกับรถรุ่นสามัญ คือขนาดความจุ 54 กิโลวัตต์ชั่วโมง น่าเสียดายที่ไม่ได้บอกว่าเมื่อชาร์จไฟเต็มรถจะวิ่งได้ไกลแค่ไหน ? บอกแต่เพียงว่า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 5.9 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด คือ 200 กม./ชม.
เป็นตัวเลขความเร็วที่ทำให้กล่าวได้ว่า นี่คือรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ที่วิ่งได้เร็วที่สุดของค่าย “สายฟ้า”
สนนราคาค่าตัว คาดว่าจะเริ่มต้นที่ระดับ 30,000 ยูโร หรือประมาณ 1.15 ล้านบาทไทย