วิถีตลาดรถยนต์
“ครึ่งปีแรก” ถือว่าผ่าน
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมิถุนายน 2025/2024
ตลาดโดยรวม +5.1 %
รถยนต์นั่ง +9.4 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +22.3 %
กระบะ 1 ตัน -14.5 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +28.6 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-มิถุนายน 2025/2024
ตลาดโดยรวม -1.3 %
รถยนต์นั่ง -1.5 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +11.2 %
กระบะ 1 ตัน -14.8 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +39.9 %
600,000 คัน เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายรวมสำหรับปี 2568 ที่พี่ใหญ่ TOYOTA (โตโยตา) คาดคะเนความน่าจะเป็นไปได้เอาไว้ ซึ่งเมื่อการซื้อ-ขายรถยนต์ใหม่ป้ายแดงปิดบัญชีครึ่งปีแรกลงไปที่ 304,011 คัน มีความน่าจะเชื่อได้ว่าจะเป็นไปตามที่ TOYOTA คาดเอาไว้ ซึ่งโดยปกติทั่วไปตัวเลขการซื้อ-ขายในช่วงครึ่งปีหลังจะขยับตัวสูงขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรก โดยครึ่งหลังของปี 2568 นี้คาดว่าเศรษฐกิจโดยรวมน่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรกเล็กน้อย อีกทั้งกระแสความนิยมในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และในแบบพลัก-อิน ไฮบริดเพิ่มมากขึ้น ตามตัวเลือกในตลาดที่มีให้เลือกมากขึ้น พร้อมกับสนนราคาค่าตัวที่จับตัองได้ อย่างไรก็ตาม ไม่อาจมองข้ามปัจจัยลบที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาทางด้านการบ้านการเมืองทั้งในประเทศ และในต่างบ้านต่างเมือง รวมไปถึงความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อให้แก่รถยนต์ในบางตลาดที่ยังไม่ผ่อนคลาย ก็อาจส่งผลให้สิ่งที่คาดการณ์กันไว้คลาดเคลื่อนแตกต่างไปได้ ซึ่งก็ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้ว 600,000 คันสำหรับปี 2568 นี้จะเป็นไปได้จริงหรือไม่ประการใด
สำหรับเดือนมิถุนายน เดือนปิดท้ายการซื้อ-ขายรถใหม่ป้ายแดงครึ่งฤดูกาลแรกของปี 2568 ตัวเลขยอดจำหน่ายจบลงที่ 50,079 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 2,417 คัน หรือเพิ่มมากขึ้น 5.1 % TOYOTA ยังคงความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ในบ้านเราอย่างต่อเนื่องเหมือนเช่นทุกเดือนทุกปีที่ผ่านมา เดือนมิถุนายนนี้จำหน่ายไปได้อีก 19,105 คัน เทียบกับเดือนมิถุนายนปีที่แล้วมีตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้น 563 คัน หรือเพิ่มมากขึ้น 3.0 % ส่วนแบ่งการตลาดเดือนนี้อยู่ที่ 38.1 % ตามมาด้วย ISUZU (อีซูซุ) ที่จำหน่ายไปได้อีก 5,625 คัน ลดลงจากเดือนนี้ของปีที่แล้ว 1,452 คัน หรือลดลง 20.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.2 % HONDA (ฮอนดา) ตามมาในอันดับที่ 3 จำหน่ายไปได้ 5,149 คัน ลดลง 976 คัน หรือลดลง 15.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 10.3 % ต่อด้วย BYD (บีวายดี) จำหน่ายได้ 2,738 คัน เพิ่มขึ้น 905 คัน หรือเพิ่มขึ้น 49.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.5 % และ MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) จำหน่ายได้ 2,620 คัน เพิ่มขึ้น 309 คัน หรือเพิ่มขึ้น 13.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.2 %
ครึ่งแรกของปี 2568 ผ่านไป รถยนต์ใหม่ป้ายแดงจำหน่ายออกไปแล้วรวมกันทั้งสิ้น 304,011 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 อยู่ 4,016 คัน หรือลดลง 1.3 % ตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมนำโด่งมาเป็นอันดับ 1 หนีไม่พ้น TOYOTA จำหน่ายไปแล้วรวม 113,889 คัน ลดลงจากครึ่งแรกของปี 2567 ที่ 2,389 คัน หรือลดลง 2.1 % ส่วนแบ่งการตลาดครึ่งปีแรก 37.5 % ISUZU อยู่ในอันดับ 2 ด้วยยอดจำหน่าย 37,506 คัน ลดลงจากครึ่งแรกปีที่แล้ว 8,754 คัน หรือลดลง 18.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.3 % อันดับ 3 HONDA จำหน่ายแล้วรวม 35,355 คัน ลดลง 8,144 คัน หรือลดลง 18.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.6 % อันดับ 4 BYD จำหน่ายไปแล้วรวม 23,615 คัน เพิ่มขึ้นถึง 8,880 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 60.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.8 % และอันดับ 5 MITSUBISHI จำหน่ายแล้วรวม 13,648 คัน ลดลง 850 คัน หรือลดลง 5.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.5 %
เฉพาะตลาดรถพิคอัพ 1 ตัน ตลาดนี้ยังคงไม่สามารถแปรเปลี่ยนตัวเลขยอดจำหน่ายในแต่ละเดือนให้เพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปี 2567 ได้ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความเข้มงวดเป็นพิเศษในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน เดือนมิถุนายน 2568 ทั้งตลาดจำหน่ายได้รวมกันทั้งสิ้น 14,260 คัน ลดลง 2,412 คัน หรือจำหน่ายได้น้อยลง 14.5 % เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2567 ทางด้านความนิยมหลักสำหรับตลาดนี้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เริ่มจากพี่ใหญ่ TOYOTA จำหน่ายไปได้อีก 7,099 คัน ลดลง 840 คัน หรือลดลง 10.6 % เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2567 ส่วนแบ่งการตลาดได้ไป 49.8 % ตามด้วย ISUZU 4,756 คัน ลดลง 1,392 คัน หรือลดลง 22.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 33.4 % ต่อด้วย FORD (ฟอร์ด) 1,399 คัน ลดลง 238 คัน หรือลดลง 14.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 9.8 % MITSUBISHI 693 คัน เพิ่มขึ้น 90 คัน หรือเพิ่มขึ้น 14.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.9 % และปิดท้ายด้วย NISSAN (นิสสัน) 163 คัน ลดลง 72 คัน หรือลดลง 30.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 1.1 %
ครึ่งแรกของปี 2568 ตลาดรถพิคอัพ 1 ตันมียอดจำหน่ายสะสมรวมกันทั้งสิ้น 92,344 คัน เทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 แล้วเป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ลดน้อยหายไป 16,093 คัน หรือปรับตัวลดลง 14.8 % 5 รถพิคอัพที่ได้รับความนิยมมากที่สุดไม่เปลี่ยนไปจากอดีตที่ผ่านมา อันดับ 1 TOYOTA จำหน่ายแล้วรวม 42,430 คัน ลดลงจากครึ่งแรกของปีที่แล้ว 7,259 คัน หรือจำหน่ายได้น้อยลง 14.6 % ส่วนแบ่งการตลาดครึ่งปีแรก 45.9 % อันดับ 2 ISUZU 32,804 คัน จำหน่ายได้น้อยลง 7,789 คัน หรือลดลง 19.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 35.5 % อันดับ 3 FORD 9,400 คัน ลดลง 1,882 คัน หรือลดลง 16.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 10.2 % อันดับ 4 MITSUBISHI 5,663 คัน เพิ่มขึ้น 1,099 คัน หรือเพิ่มขึ้น 24.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.1 % และอันดับ 5 NISSAN 1,065 คัน ลดลง 571 คัน หรือลดลง 34.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 1.2 %
รถเอสยูวี เดือนมิถุนายน 2568 ตลาดนี้มีการจำหน่ายรถยนต์ออกไปแล้วรวมกันทั้งสิ้น 11,958 คัน เพิ่มขึ้น 2,177 คัน หรือเพิ่มขึ้น 22.3 % เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2567 จำหน่ายได้มากสุดในเดือนนี้ยังคงเป็น TOYOTA ที่จำหน่ายไปได้ทั้งสิ้น 4,358 คัน เพิ่มขึ้น 228 คัน หรือเพิ่มขึ้น 5.5 % เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2567 ส่วนแบ่งการตลาด 36.4 % อันดับ 2 HONDA 2,019 คัน ลดลง 726 คัน หรือลดลงจากเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว 26.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 16.9 % อันดับ 3 BYD 1,562 คัน เพิ่มขึ้น 733 คัน หรือเพิ่มขึ้น 88.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.1 % อันดับ 4 GWM (กเรท วอลล์ มอเตอร์) 1,175 คัน เพิ่มขึ้น 931 คัน หรือเพิ่มขึ้น 381.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 9.8 % และอันดับ 5 MITSUBISHI 1,051 คัน เพิ่มขึ้น 1,039 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 8,658.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.8 %
ผ่านไป 6 เดือน รถเอสยูวีจำหน่ายรวมกันแล้วทั้งสิ้น 69,990 คัน เพิ่มขึ้น 7,026 คัน หรือเพิ่มขึ้น 11.2 % เมื่อเทียบกับ 6 เดือนแรกปี 2567 ยอดจำหน่ายสะสมมากที่สุด ส่วนแบ่งการตลาดมากสุดเป็นเอสยูวีของ TOYOTA ตัวเลขรวมอยู่ที่ 25,418 คัน ลดลง 2,968 คัน หรือลดลง 10.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 36.3 % ตามด้วย HONDA 15,683 คัน ลดลง 3,186 คัน หรือลดลง 16.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 22.4 % อันดับ 3 ถึง 5 เป็นรถเอสยูวีจากประเทศจีนทั้งสิ้น เริ่มจากอันดับ 3 BYD 12,817 คัน เพิ่มขึ้นถึง 8,842 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 222.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 18.3 % อันดับ 4 GWM 4,685 คัน เพิ่มขึ้น 2,414 คัน หรือเพิ่มขึ้น 106.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.7 % และอันดับ 5 CHANGAN (ฉางอัน) 3,143 คัน เพิ่มขึ้น 327 คัน หรือเพิ่มขึ้น 11.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.5 %
สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ เดือนมิถุนายน 2568 มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 4,464 คัน เพิ่มขึ้น 992 คัน หรือเพิ่มขึ้น 28.6 % เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2567 ครึ่งแรกของปี 2568 มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 24,195 คัน เพิ่มขึ้น 6,895 คัน หรือเพิ่มขึ้น 39.9 % เดือนมิถุนายน 2568 มีการจดทะเบียนรถเอสยูวี และรถพิคอัพ 1 ตัน รวมกันทั้งสิ้น 31,530 คัน ลดลง 831 คัน หรือลดลง 2.6 % เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2567