ที่จริงแล้ว ผมต้องการให้ทุกเรื่องของคอลัมน์นี้ จบในตอนเดียว แต่ก็ไม่สามารถทำได้เสมอไป ท่านผู้อ่านที่พลาดตอนแรกไป รออ่านในเวบไซท์ AUTOINFO.CO.TH ของเราได้นะครับ มาดูตัวอย่างต่อไป ของการครอบงำ (โดยไม่เจตนา เพราะคนที่สอนเรานี่แหละ ที่ตกเป็นทาสของเลขนี้) พวกเรา ด้วยเลข 0 กันต่อเลยครับ “คนวัยตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป กำลังกินสารพิษ ที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน” อ้าว แล้วทำไมคนวัยยังไม่ถึง 60 ถึงไม่ได้กินสารพิษที่ว่านี้ล่ะครับ มีอะไรมาขัดขวางคนพวกหลังนี้หรือ ไร้สาระมาก เรื่องถัดมา “หลังอายุเกิน 60 ห้ามกินไข่เกินสัปดาห์ละ 2 ฟอง” มีอวัยวะใดของมนุษย์เราหรือครับ ที่มันเปลี่ยนสภาพ หรือเปลี่ยนแปลงการทำงาน ตอนที่พวกเรามีอายุเท่ากับ 60 เท่า ของเวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ครบหนึ่งรอบ ถ้ามันจะมีมูลความจริงอยู่บ้าง อายุที่ว่านี้ มันควรจะเป็นตัวเลขที่ได้มาจากงานวิจัย หรือการรวบรวมข้อมูลจากสถิติ ที่ไม่ต้องลงท้ายด้วย 0 เช่น 56 หรือ 63 หรือเท่าไรก็ตาม จริงไหมครับ
ขยับมาที่อายุ 70 ปี กันต่อ “หลังอายุ 70 ปี จะมี 7 สัญญาณ ที่จะบอกคุณว่า คุณจะมีอายุยืนยาวเพียงใด” โอ้โห อะไรมันจะขนาดนั้น ก่อนหน้านั้น ทำไมสัญญาณพวกนี้ (ซึ่งก็คืออาการบางอย่างของร่างกายของเรา) มันไม่ยอมโผล่มาบอกล่ะครับ มาตั้งแต่ 60 กว่า หรือเกือบ 70 ไม่ได้เลยหรือ ทำไมต้องรอให้ผ่านวันเกิดของเราก่อนด้วย แล้วจะให้นับแบบ 70 ปีเต็ม (ซึ่งถูกต้อง) หรือว่า “ย่าง” 70 ที่คนไทยนิยมนับกัน และทำให้ชาวต่างชาติพากันมึนหัว ด้วยตรรกะการนับอายุแบบเพี้ยนของพวกเรา ความรู้ถัดมา “ถ้าอายุเกิน 70 แล้ว คุณยังสามารถทำ 12 สิ่งนี้ได้ สุขภาพของคุณเยี่ยมมาก” สิ่งที่ว่านั้นก็คือ จำบทสวดมนต์ หรือเนื้อเพลงรุ่นเก่าได้ ใช้อุปกรณ์สื่อสารยุคนี้ได้ โอนเงินด้วยโทรศัพท์มือถือได้ เต้นตามจังหวะดนตรีได้ ฯลฯ ผมว่าถ้ามีใครที่อายุเกือบ 70 แล้วทำได้ ก็ควรเข้าข่ายมีสุขภาพเยี่ยมเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องให้ “ครบสิบ” เลย เรื่องถัดไปนี่ แม้แต่คำแนะนำ ก็ยังผิดหลักการรักษาสุขภาพอย่างมาก แต่เราจะจำกัดอยู่ในเรื่องของความคลั่งเลข 10 เท่านั้น “6 เหตุผล ที่คุณไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนหลังอายุ 70” แสดงว่าช่วงอายุ 60 กว่า ผมต้องถนอมน้ำใจเพื่อนไว้ แต่หลังจากผ่านวันเกิดที่อายุครบ 70 ของผม ก็ไม่ต้องไปใส่ใจเพื่อนพวกนี้แล้ว บ้าหรือเปล่าครับ นอกจากนี้แล้ว ใครที่หลงเชื่อคำแนะนำนี้ ไม่ว่าจะอายุเท่าไร เป็นผู้โชคร้ายอย่างมาก เพราะจากผลการวิจัยล่าสุดที่เชื่อถือได้ การขาดเพื่อนตอนที่เราสูงวัยนั้น เป็นตัวการสำคัญที่สุด ที่ทำลายสุขภาพของมนุษย์เรา ซึ่งเป็นสัตว์สังคม ให้เสื่อมถอยลงอย่างมาก ถึงขั้นเป็นโรคร้าย เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมองตีบ หรือโรคมะเร็ง และเสียชีวิตได้เลย อันตรายยิ่งกว่าการกินอาหารที่ทำลายสุขภาพ การสูบบุหรี่ หรือการดื่มสุราเสียอีก ท่านที่อายุเกิน 80 อย่าเพิ่งผิดหวังครับ ทาสเลข 0 เขาไม่ลืมพวกท่านแน่นอน “ถ้ายังมี 8 สิ่งนี้ เมื่ออายุถึง 80 ถือว่าท่านได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าแล้ว” เช่น ช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันได้ ยังมีคู่ชีวิตอยู่ด้วย ยังเป็นคนมองโลกในแง่บวก ฯลฯ ถ้ามันจะเป็นความจริง ผมว่าไม่ต้องรอให้ถึง 80 หรอก ถ้าอายุต่ำกว่านี้ไม่มาก ก็ไม่ต่างกันหรอกครับ ข้อสุดท้ายแล้ว สำหรับเรื่องสุขภาพ “อายุเกิน 90 ปี ออกกำลังกายแบบไหนดีที่สุด” ถ้าอายุ “แค่ 88” ทำตามที่แนะนำไม่ได้หรือครับ มันมีอะไรมาเป็นขอบเขต ที่มีผลกับอวัยวะ ที่ทำหน้าที่มานาน จนครบ 90 ปีพอดีหรือ เหตุที่ผมนำตัวอย่างเรื่องสุขภาพมาใช้ ก็เพราะเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย และเกี่ยวข้องกับทุกคน ไม่ได้มีความพิเศษอย่างอื่นแต่อย่างใดเลย เพราะเลข 0 และระบบฐานเต็มสิบนี่ มันถูกนำมากำกับเกือบทุกสิ่งในชีวิตของพวกเรา ก่อนจะไปถึงเรื่องรถ มาดูอีกสักเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับพวกเราทุกคนเช่นเดียวกัน และดูเหมือนว่า จะไม่มีใครที่ไม่ชอบมัน เงินครับ
“ถ้าไม่อยากลำบากตอนแก่ ให้เก็บเงินตั้งแต่ตอนเริ่มทำงาน ให้ได้ 10 % ของรายได้ทุกเดือน” ทำไมต้องเจาะจงให้มีเลข 0 ข้างหลังด้วยครับ ไร้สาระมาก ถ้าเก็บได้มากกว่านี้ โดยไม่ลำบากในการใช้ชีวิต ย่อมมีแต่ข้อดีเสมอ ทำไมไม่ลองคำนวณ แล้วได้ตัวเลขเท่าใด ก็เอาเท่านั้นแหละครับ อาจจะได้ 16 % หรือเกินกว่านั้นก็ได้ และไม่จำเป็นต้องเป็นตัวเลขตายตัวทุกเดือนด้วย “ผมกำลังหาซื้อรถใหม่สักคัน แต่ราคาต้องไม่เกิน 1 ล้าน” ไร้สาระล้วนๆ (ผมคงต้องใช้คำนี้บ่อยมาก อย่าเพิ่งเบื่อครับ เพราะคำอื่นที่พอจะเอามาใช้แทนได้ จะหยาบ หรือ “แรง” เกินไป) ทำไมต้องให้เลข 0 หกตัวหลังเลข 1 มันมากำกับชีวิตของเราด้วย ถ้ารถที่ราคาเกือบถึง 1 ล้าน มันยังไม่ดีพอ และไม่ค่อยถูกใจเรา แต่อีกรุ่นที่เราชอบ ราคา 1,030,000 บาท จะมีเหตุผลอะไรมาขัดขวางเราไม่ให้ซื้อหรือ ไม่มีหรอกครับ ซื้อคันหลังนี่ไปเลย “ผมตั้งใจไว้อย่างแรงเลย ว่าตอนอายุครบ 50 ปี จะเป็นตายอย่างไร ต้องมีเงินครบ 10 ล้าน ให้ได้” บ้าหรือเปล่าครับ เลขเต็มสิบ ห้าครั้ง มันสำคัญต่อชีวิตของเราตรงไหน และเงิน 10 ล้านพอดี มันดีต่อชีวิตของเราเป็นพิเศษหรือ ไม่มีหรอกครับ วิธีที่ถูก คือ ทำให้ดีที่สุด อย่าให้ครอบครัวเดือดร้อน อย่าโลภ อย่าใช้วิธีหาเงิน โดยการเสี่ยงโชคจนหมดตัว ได้เท่าไหนก็เท่านั้น ผลมันอาจจะออกมาดีกว่าอีกเสียด้วย เช่น อายุ 44 ก็มีเงิน 13 ล้านกว่าแล้ว ดีกว่าเป้าหมายยอดนิยม 50 ปี 10 ล้าน ที่ชอบใช้กันเยอะเลย
มาดู “ทาสเลข 0” ในวงการรถยนต์กันบ้าง “ผมกำลังหาซื้อรถญี่ปุ่นใช้แล้วอยู่ อยากได้ขนาดกลาง อายุไม่ถึง 10 ปี และต้องวิ่งมาไม่เกิน 100,000 กม.” แบบนี้อาการหนักมากครับ รถอายุ 12 ปี คันหนึ่ง อาจจะอยู่ในสภาพดีกว่ารถอีกคัน ที่เป็นรุ่นเดียวกัน แต่อายุ 9 ปี ก็ได้ครับ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย และก็ไม่มีชิ้นส่วนใดของระบบขับเคลื่อน เช่น เครื่องยนต์ ที่มีอายุการใช้งานค่อนข้างตายตัวในหลักหมื่นกิโลเมตร แต่ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติของรถบางรุ่น ที่เป็นที่รู้กันว่า มีอายุใช้งานประมาณ 100,000 กิโลเมตร แล้วเราซื้อรถระยะทางที่ว่านี้มา ก็ไม่ถือว่าดีนะครับ เพราะอาจจะใกล้ถึงวาระที่เกียร์หมดสภาพใช้งานพอดี ตรงกันข้ามกับการได้รถที่ใช้มา เกิน 100,000 กิโลเมตร ไปพอสมควร ที่จะต้องเคยช่อมเกียร์มาเรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้น เราต้องปลดแอกตัวเอง จาก “นายทาส” ซึ่งก็คือ เลข 0 พวกนี้ ให้สำเร็จ อย่าให้มันมากำกับการเลือกซื้อรถของเรา ลองดูอีกสักตัวอย่างหนึ่งครับ เพื่อนผมคนหนึ่ง ถือการดูแลรถเป็นสรณะ มีอาการเครียด เพราะไม่สามารถนำรถเข้าศูนย์บริการให้ตรงกับกำหนดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้ ไม่มีน้ำมันเครื่องอะไรในโลกนี้ ที่หมดอายุอย่างแม่นยำในระดับร้อย หรือพันกิโลเมตร ถ้าจำเป็นต้องใช้งานจนเลยระยะทางที่ผู้ผลิตกำหนด ไม่ต้องกังวลเลยครับ เกินไปสักไม่กี่พันกิโลเมตรนี่ ไม่มีผลเสียทางเทคนิคใดๆ ทั้งสิ้นครับ (แต่ก็ต้องระวังในส่วนที่เกี่ยวกับการประกันคุณภาพ ว่าเรามิได้ปล่อยให้เลย จนเข้าข่ายที่ผู้จำหน่ายเขารออยู่ คือ “ผิดเงื่อนไข”) และระยะทางที่ผู้ผลิตเขากำหนดนี่ ก็ไม่ใช่ด้วยเหตุผลทางเทคนิคเลยนะครับ สุดแต่เขาจะจัดให้พร้อมกับงานอื่นๆ หรือสุดแต่เขาจะอยากให้เจ้าของรถ แวะมา “ส่งส่วย” ให้เขาบ่อยแค่ไหน
หวังว่าหลังจากที่อ่านเรื่องนี้จนจบ ท่านผู้อ่านจะมองโลก และเรื่องราวรอบตัวเรา ที่เกี่ยวข้องกับตัวเลข ด้วยมุมมองที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ซึ่งไม่ง่ายนะครับ เพราะพวกเราถูกมอมเมาในเรื่องนี้ มาตั้งแต่จำความได้ ผมจึง อยากแนะนำให้กลับมาอ่านซ้ำอีกครับ และถึงจะเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้ว ถ้าไม่ระวังตัว เจ้าเลข 0 หรือระบบฐานสิบนี่ มันก็จะกลับมาครอบงำความคิดของเราอีก เพราะมันเวียนว่ายอยู่รอบตัวเรา ทุกที่ และในทุกเรื่องครับ