JEEP (จีพ) ตั้งชื่อรุ่นตามชนเผ่า CHEROKEE (เชอโรคี) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองอเมริกันในสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 1971 มีการผลิต และทำตลาดมาอย่างต่อเนื่องกว่า 6 สายพันธุ์ หลังจากที่ JEEP CHEROKEE รุ่นล่าสุดได้หยุดทำการผลิตมาตั้งแต่แต่ปี 2023 JEEP จึงได้เปิดตัวรถอเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นใหม่ ที่ยังคงใช้ชื่อรุ่นว่า CHEROKEE ซึ่งสร้างชื่อเสียงเป็นตำนานมาช้านาน มีการเปลี่ยนแปลงมากมายหลายจุด เน้นความหรูหรา กว้างขวาง มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร เทอร์โบ ไฮบริด ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของรถในตระกูล JEEP ที่มอบความประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างน่าพอใจ และ JEEP CHEROKEE ใหม่จะทำการผลิตที่โรงงาน TOLUCA ในประเทศเมกซิโก โดยมี HONDA CR-V (ฮอนดา ซีอาร์-วี), TOYOTA RAV4 HYBRID (โตโยตา รัฟโฟร์ ไฮบริด), KIA SPORTAGE HYBRID (เกีย สปอร์เทจ ไฮบริด) และ HYUNDAI TUCSON HYBRID (ฮันเด ทูซอน ไฮบริด) เป็นคู่แข่งโดยตรง
รูปทรงภายนอก ยังคงเน้นเหลี่ยมสัน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ JEEP มาโดยตลอด กระจังหน้ามีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นเดิม ไฟหน้าทรงเหลี่ยมคล้ายกับ CHEROKEE XJ (เชอโรคี เอกซ์เจ) ในอดีต วงล้ออัลลอยมีขนาดตั้งแต่ 17-20 นิ้ว ตามรุ่นย่อย ตัวรถมีความยาวกว่ารุ่นเดิม 119 มม. กว้างขึ้น 25 มม. และสูงขึ้น 55 มม. มีผลทำให้ห้องโดยสารมีความกว้างขวาง โปร่งสบายมากขึ้น ห้องบรรทุกสัมภาระเมื่อพับเบาะแถวหลังลงจะมีพื้นที่ 1,934 ลิตร เพิ่มขึ้นจากตัวเดิมถึง 30 % แม้ว่าจะทำให้พื้นที่วางขาของผู้โดยสารด้านหลังลดลงบ้างเล็กน้อย มีมุมไต่ และมุมจากดีที่สุดในบรรดารถคู่แข่ง โดยใต้ท้องรถมีความสูงจากพื้น 203 มม. เพียงพอต่อการลุยได้ในระดับหนึ่ง ในอนาคตอันใกล้จะมีรุ่น TRAILHAWK (ทเรลฮอว์ค) ที่พร้อมลุยได้อย่างเต็มพิกัด
ห้องโดยสารมีความเรียบหรู พวงมาลัยทรงเหลี่ยม เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ เพื่อลดการใช้หนังสัตว์ แต่ยังคงความหรูหรา แผงหน้าปัดมีความสวยงามราวกับรถซีดาน แลดูคล้ายกับภายในห้องโดยสารของ JEEP WAGONEER S (จีพ แวกอเนียร์ เอส) แผงควบคุมแอร์แบบสัมผัส มาตรวัดแบบดิจิทอลขนาด 10.25 นิ้ว ส่วนหน้าจออินโฟเทนเมนท์ มีขนาด 12.3 นิ้ว รองรับทั้งระบบ APPLE CAR PLAY และ ANDORID AUTO
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร เทอร์โบ ไฮบริด มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ระบบถ่ายทอดกำลังแบบ E-CVT แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ความจุ 1.08 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 31.8 กก.ม. อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ทำได้ใน 8.7 วินาที ให้พละกำลังในการลากจูงถึง 3,500 ปอนด์ เครื่องยนต์ตัวใหม่มีการตอบสนองแรงบิดที่รวดเร็ว และต่อเนื่องดีขึ้น มาพร้อมโหมดการขับขี่เพื่อใช้ในการวิ่งในสภาพต่างๆ เช่นเดียวกับ JEEP WAGONERR S ได้แก่ โหมด AUTO, SPORT, SNOW และ SAND/MUD ช่วยให้การขับขี่ทำได้ง่าย และปลอดภัยยิ่งขึ้น อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 37 ไมล์/แกลลอน (ประมาณ 15.7 กม./ลิตร) น้ำมัน 1 ถังจะวิ่งได้ระยะทางกว่า 800 กม.
ระบบความปลอดภัย และตัวช่วยเหลือในการขับขี่มีมาครบ เช่น ADAPTIVE CRUISE CONTROL ที่มาพร้อมระบบควบคุมรถให้วิ่งอยู่ในเลน และระบบป้องกันเบรคฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ เพื่อลดอุบัติเหตุจากการชน, กล้องรอบคัน 360 องศา ฯลฯ เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ทั้งในเชิงป้องกัน และแก้ไข
JEEP CHEROKEE ใหม่ ตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 36,995 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 1.3 ล้านบาท สูงกว่าบรรดาคู่แข่งอยู่เล็กน้อย แต่อยู่ในระดับราคาที่แข่งขันได้ แต่ถ้านำมาจำหน่ายในเมืองไทย ค่าตัวคงแพงขึ้นอีกหลายเท่า จากกำแพงภาษีรถยนต์นำเข้าของประเทศไทย
คุณรู้หรือไม่ ?
JEEP CHEROKEE ใหม่ ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถทุกคันทุกรุ่นย่อย นอกจากนี้ ในการขับเคลื่อนตามปกติ จะมีระบบตัดการทำงานของเพลาหลัง ในยามที่ไม่ต้องการใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อช่วยเพิ่มความประหยัดเชื้อเพลิง และลดการสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆ
บทความแนะนำ