เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนตุลาคม 2025/2024
ตลาดโดยรวม +24.8 %
รถยนต์นั่ง +24.0 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +79.9 %
กระบะ 1 ตัน -4.1 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +50.1 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-ตุลาคม 2025/2024
ตลาดโดยรวม +4.2 %
รถยนต์นั่ง +4.3 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +22.7 %
กระบะ 1 ตัน -12.6 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +39.5 %
การเคลื่อนไหวที่กำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเวลานี้ ไม่ใช่เพียงความเปลี่ยนแปลงตามวัฏจักร แต่คือการจัดระเบียบใหม่ของแรงสั่นสะเทือนระดับโลก สงครามราคารถไฟฟ้าจีนในเมืองแม่เดินมาถึงจุดจบในรอบแรก แต่สำหรับในประเทศไทยเชื้อไฟกลับเพิ่งถูกจุดขึ้น เพราะเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เราได้เห็นการลดราคาของรถยนต์ BEV ในขณะที่ตลาดรถยนต์ มีปริมาณความต้องการคงที่ แรงขับเคลื่อนของฝั่งรถหน้าใหม่จากจีนเริ่มติดเพดาน ส่วนผู้ผลิตจากญี่ปุ่น ที่เคยถูกมองว่าช้า และลังเลต่อยุคของพลังงานใหม่ได้เปิดหน้าตอบโต้จีน ในกลุ่มรถนั่ง ทั้ง MAZDA (มาซดา) และ TOYOTA (โตโยตา)
ต้องยอมรับว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังไม่ได้ดีขึ้น เดือนตุลาคม 2568 ตลาดรถมีการผลิตรถยนต์รวม 135,685 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.17 % และเพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 5.92 % สำหรับกลุ่มรถยนต์นั่งผลิตได้ 55,997 คัน เพิ่มขึ้นสูงถึง 17.94 % โดยเฉพาะ รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่ผลิตได้ 9,393 คัน เพิ่มขึ้นมากถึง 1,265 % ขณะที่ HEV และ PHEV ยังขยายตัวดี ส่วนรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ลดลงต่อเนื่อง
การเติบโตของ BEV เป็นผลจากการเร่งเครื่องของค่ายจีนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาดขยับตัวอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมจะเตรียมตั้งหลักได้ทันเสียด้วยซ้ำ ในระดับโลกชัดเจนว่า ผู้ผลิตจีนประสบความสำเร็จในการค้นหากลยุทธ์ใหม่ในการขยายพื้นที่ตลาดของ BEV การสร้างภาพว่าเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นเทคโนโลยีตกยุค ล้าหลัง ไม่คู่ควรกับโลกอนาคต จนทุกคนเกลียด ICE
อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์เป็นเพียงเกมทางวาทกรรม แต่ความจริงที่ซ่อนอยู่กลับแตกต่างจากสิ่งที่ถูกนำเสนอ โลกใบนี้ยังมีพื้นที่อีกมากที่ไม่อาจรองรับรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง พื้นที่กว้างใหญ่ห่างไกลอย่างทวีปแอฟริกา หรือประเทศออสเตรเลีย ที่ต้นทุนการสร้างระบบโครงข่ายไม่คุ้มค่า หรือแม้กระทั่งตลาดที่มีกำลังซื้อสูงอย่างตะวันออกกลาง ที่ความได้เปรียบด้านราคาน้ำมันทำให้รถไฟฟ้าไม่ใช่ความจำเป็น และนี่คือสิ่งที่ทำให้ผู้ผลิตรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน มั่นใจว่าจะไม่หายไปจากโลกในชั่วพริบตา
ช่วงที่ไทยโอบรับนโยบายรถพลังงานใหม่ ทั้งเฟส 3.0 และ 3.5 ความหวังที่ว่าเราจะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตรถไฟฟ้าระดับภูมิภาคดูจะเป็นเรื่องเป็นไปได้ แต่เมื่อมองลงไปในห่วงโซ่อุตสาหกรรมอย่างละเอียด สิ่งที่พบกลับตรงกันข้าม รถพลังงานใหม่มีห่วงโซ่การผลิตที่สั้น และซับซ้อนน้อยกว่า ICE
การส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศดูจะไม่ได้ผล รถไฟฟ้า BEV ติดตั้งเซลล์แพคแบทเตอรีในประเทศไทยก็จริง แต่แค่แบทเตอรี 3 แพค ก็มีมูลค่าสูงเกิน LOCAL CONTENT กำหนดแล้ว ผลลัพธ์ คือ ไม่เกิดซัพพลายเชน
กว่า 6 ทศวรรษที่ไทยสร้างรากฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ขึ้นมา เราเคยใช้บัญชี ก. บัญชี ข. เพื่อปกป้องผู้ผลิตชิ้นส่วน เคยจำกัดรุ่น และจำนวนโรงงาน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าจากการผลิตในปริมาณสูง ก่อนจะเปิดเสรีเต็มตัวในปี 2534 และกลายเป็นหนึ่งในฐานผลิตสำคัญของโลก ทุกก้าวเดินนั้นล้วนมาจาก “การเติบโตบนพื้นฐานของความเข้าใจในข้อจำกัดของตัวเอง” แต่การเปลี่ยนผ่านสู่รถไฟฟ้าในเวลานี้ไม่ได้ดำเนินไปด้วยหลักคิดเดียวกัน
จริงอยู่ที่รถพลังงานใหม่พิสูจน์แล้วว่าให้สมรรถนะดี แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกตลาด ผู้ผลิตรายใหม่ที่เข้ามาในไทยยังคงให้ความสำคัญกับยอดขาย มากกว่าการสร้างเทคโนโลยีในประเทศ ขณะเดียวกันซัพพลายเออร์ไทยก็ต้องเผชิญความจริงว่า เส้นทางใหม่มีประตูเปิดเพียงไม่กี่บาน และพวกเขาอาจไม่ได้เข้าไปนั่งในรถคันแรกของขบวนขยายกำลังผลิตใหม่ทั้งหมด แล้วประเทศจะได้อะไรจากสิ่งเหล่านี้
บัดนี้เสียงจากฝั่งค่ายรถญี่ปุ่นจึงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาตั้งคำถามกับรัฐบาลว่า ไทยควรกลับมาทบทวนว่านโยบายอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศควรมุ่งไปทางไหน จะเลือกปกป้องความสามารถในการแข่งขันที่มีอยู่แล้ว หรือจะเริ่มต้นใหม่ในสนามที่เราไม่แน่ใจว่าจะมีจุดยืนแค่ไหนในอนาคต จีนเป็น “โรงงานโลก” ของรถไฟฟ้า
ไทยเราต่อสู้ในสนามมาราธอนของอุตสาหกรรมยานยนต์มานานหลายสิบปี จนกลายเป็นโรงงานโลกของรถพิคอัพพิกัด 1 ตัน ที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน การเริ่มต้นใหม่แบบไร้ฐานเดิม เครื่องยนต์สันดาปภายในอาจไม่ใช่ตัวละครเอกของโลกใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ตัวละครที่ถูกเขี่ยออกจากบท สิ่งที่ไทยต้องเลือกไม่ใช่ว่าจะรักใครเกลียดใคร แต่ต้องเลือกว่าจะวางหมากในกระดานนี้อย่างไร โดยการทบทวนจุดยืนใหม่ในโลกยานยนต์ ก่อนที่โลกจะเดินเกมแทนเรา โดยไม่ถามความพร้อมของเราแม้แต่น้อย
บทความแนะนำ

