ชีวิตอิสระ
เขื่อนเชี่ยวหลาน ในคืนฝนพรำ
แม้จะเคยมาแล้ว แต่เมื่อได้มาเยือนในฤดูกาลที่แตกต่าง อารมณ์ ความรู้สึกและบรรยากาศย่อมผิดกัน ทริพนี้เราเดินทางมา ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่ที่หาไม่ได้ง่ายๆสำหรับแหล่งท่องเที่ยวอย่าง "เขื่อนเชี่ยวหลาน-กุ้ยหลินเมืองไทย"
"เขื่อนเชี่ยวหลาน" หรือ ชื่อในนามพระราชทาน "เขื่อนรัชชประภา" บรรดานักท่องเที่ยวต่างให้สมญานามว่า "กุ้ยหลินเมืองไทย" สร้างขึ้นเมื่อปี 2525 เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่สร้างปิดกั้นคลองแสง เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว สูง 95 เมตร ยาว 761 เมตร ระดับสันเขื่อนสูง 100 เมตร บริเวณอ่างเก็บน้ำของเขื่อนมีพื้นที่ 185 ตารางกิโลเมตร สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ปีละประมาณ 554 ล้านกิโลวัตต์ พื้นที่ภายในอ่างเก็บน้ำ มีเกาะมากกว่า 100 เกาะ สามารถล่องเรือชมทัศนียภาพที่สวยงาม โดนใจ โดยเฉพาะช่องแคบเขากาเลาะ บริเวณบนสันเขื่อนยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่งดงามอีกด้วย
เขื่อนเชี่ยวหลาน ในวันที่เราเดินทางมาถึงนั้น เป็นวันที่สภาพท้องฟ้ามีเมฆฝนปกคลุมไปทั่วบางขณะฝนก็โปรยปรายลงมาพอให้เปียกแฉะบ้าง แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะเป็นเรื่องธรรมชาติของฤดูมรสุมที่เราท้าทาย และอยากเจอะเจอ
3 ชีวิตบนเรือหางยาวลำน้อย จากบริเวณสันเขื่อนเชี่ยวหลานมุ่งหน้าไปสู่เทือกเขาหินปูนที่มีขนาดมหึมาตรงด้านหน้า และคนทั่วไปเรียกที่นี่ว่า"อุทยานแห่งชาติเขาสก" ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใครๆ ก็อยากมาสัมผัสสีสันบรรยากาศของเทือกเขาหินปูน อันสลับซับซ้อน ตั้งสูงตระหง่านท่ามกลางผืนน้ำอันกว้างใหญ่ไพศาล สร้างความตื่นตา ตื่นใจแก่ผู้พบเห็นมาเนิ่นนานเช่นเดียวกับวันเวลา ที่มันยืนหยัด ท้าแดดลม มาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล แต่สำหรับคนท้องถิ่นแถบนี้รวมถึงสัตว์ป่านานาชนิด ที่นี่เป็นมากกว่าแหล่งท่องเที่ยวธรรมดา
จุดหมายการเดินทางในวันแรก อยู่ที่ แพสายชลเรือหางยาวแล่นผ่านระลอกคลื่นที่เกิดจากลมฝนพัดผ่านลัดเลาะไปตามหน้าผา ลึกเข้าไปในอ่างเก็บน้ำความงดงามของภูเขาหินปูนธรรมชาติ บวกกับรูปทรงแปลกตา ที่มองดูระยะไกลอาจสูงเทียมเมฆ
ก็ปรากฏให้เห็นต่อหน้าเราเรื่อยๆ เปรียบเสมือนหลุดเข้ามาอีกโลกหนึ่งผมจึงไม่แปลกใจในสมญานามของสถานที่แห่งนี้ ความเงียบสงบในยามว่างเว้นจากบรรดากลุ่มนักท่องเที่ยว จะมีเพียงเสียงเครื่องเรือของคณะเราเท่านั้น ที่ส่งเสียงคำรามกึกก้องไปทั่วบริเวณผืนน้ำ
เราใช้เวลาไม่มากนัก เรือก็พามาถึงที่หมาย ซึ่งเป็นแพไม้ สร้างขึ้นแบบเรียบง่ายหลายหลังผูกติดกันเป็นแถวยาว ดูกลมกลืนกับธรรมชาติ เสียงชะนีโหยหวนขานรับกันไม่หยุดหย่อนส่งสำเนียงก้องผืนไพร ตรงเข้ากรีดลึกในห้วงความรู้สึก จนขนลุกซู่
ตะเกียงน้ำมัน ถูกจุดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ค่ำนี้เราอิ่มอร่อยกับอาหารเมนูปลาเขื่อนพร้อมบทสนทนาอย่างออกรสชาติระหว่างคณะของเรากับผู้จัดการแพสายชล และลุงคนขับเรือ
ลุงคนขับเรือ เล่าว่า "เชี่ยวหลาน" เป็นชื่อแก่งน้ำแห่งหนึ่งในบริเวณ คลองแสงซึ่งเป็นคลองที่มีน้ำเชี่ยวมากที่สุดในฤดูน้ำหลาก สองฟากฝั่งคลอง คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสงและอุทยานแห่งชาติเขาสก บริเวณนี้จัดเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นบริเวณรอยต่อของ 3 จังหวัดภาคใต้ คือ ระนอง พังงา และสุราษฎร์ธานี
บนยอดทิวเขา สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,000 เมตร ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นพื้นที่ป่าดงดิบนับแสนไร่ ได้จมอยู่ใต้น้ำลึเกือบ 100 เมตร และกลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ อันเกิดจากโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนเชี่ยวหลาน หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า เขื่อนรัชชประภา สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าและสายน้ำในคลองแสงที่เคยไหลตามธรรมชาติ จึงถูกปิดกันด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงทำให้ไหลเอ่อ2 ฝั่งหุบเขา
นับตั้งแต่เริ่มมีการกักเก็บน้ำในเชี่ยวหลาน เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2529 ระดับน้ำได้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลบ่าท่วมป่าใหญ่จมหายไป ส่วนที่เป็นเนินเขา และภูเขาถูกตัดขาด แบ่งแยกเป็นเกาะเล็กเกาะน้อย มากมายถึง 162 เกาะ สัตว์ป่านานาชนิดได้รับผลกระทบ เนื่องจากขาดแหล่งอาหาร และที่อยู่อาศัย รวมถึงพื้นดินถูกน้ำท่วมฉับพลัน มีสัตว์ป่าจำนวนมากที่อพยพหนีไม่ทัน ล้มตายเป็นจำนวนมาก ไม่น้อยกว่า 338 ชนิด ซึ่งในจำนวนนั้น มีสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์หลายชนิด ได้แก่ ช้าง กระทิง วัวแดง สมเสร็จ เสือลายเมฆ เลียงผา ไก่ฟ้าหน้าเขียว นกหว้า และกบทูด ส่วนต้นไม้ที่เป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่าได้ล้มตายลง ใบหลุดร่วง รากเน่า เนื่องจากดูดซึมน้ำ และจมแช่อยู่ใต้ระดับน้ำ
จากเรื่องราวที่ผมได้ยินมา ทำให้นึกถึงภาพอดีตก่อนการสร้างเขื่อนได้ว่า ที่นี่มีป่าไม้และสัตว์ป่าที่อุดมสมบูรณ์มากเพียงไร และเกาะต่างๆ ที่เราเห็น แท้จริง คือ ส่วนหนึ่งของยอดเขาใหญ่ที่เคยยืนสูงตระหง่าน ประกาศความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในอดีตบอกตามตรงว่ารู้สึกใจหายเหมือนกัน
คืนนี้เรานอนฟังเสียงธรรมชาติ พร้อมจินตนาการล่วงหน้า ถึงภาพที่เราจะได้ไปเจอในวันรุ่งขึ้น
ท่ามกลางสายหมอกรุ่งอรุณ สัตว์ป่านานาชนิด ต่างส่งเสียงทักทายกันไปทั่วป่าบ่งบอกถึงการเริ่มต้นวันใหม่ของสรรพชีวิต เสียงของนกบินหลาดังอยู่ใกล้ๆเมื่อเดินสำรวจแหล่งที่มาของเสียง จึงได้รู้ว่า มีรังของนกบินหลาอยู่บนแพด้วยนับว่าเป็นสิ่งที่หาดูได้ยากมากในระยะใกล้ขนาดนี้
การที่เรากลมกลืนได้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ โดยไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกันผมว่านักท่องเที่ยวทั้งหลายควรคำนึงถึงให้มากๆ นะครับ
เรือหางยาว นำเราฝ่าท้องน้ำสีเขียวมรกต ลัดเลาะเข้าไปตามเกาะหินปูนกลางน้ำของเขื่อน ฯมาจอดตรงหน้าภูเขาหินปูนที่มีหน้าผาสูงชันลูกหนึ่ง และสถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของ"รูปปั้นพ่อตาโจงโดง" สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนในท้องถิ่นแถบนี้ให้ความเคารพนับถือ
จากนั้นเราเดินทางต่อ ผ่านแพนางไพร ของอุทยานแห่งชาติเขาสกที่ปิดเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมไว้รองรับฤดูกาลท่องเที่ยว เรือแล่นผ่านเข้าไปในเวิ้งเขาหินปูนที่มี"หินสามก้อน" ตั้งอยู่ ผมเห็นความสวยงาม เช่นเดียวกับสิ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายได้เห็น
และพร้อมใจกันเรียกว่า "กุ้ยหลินเมืองไทย"
บางคนบอกว่าสวยกว่ากุ้ยหลินเมืองจีน เท็จจริงอย่างไร แล้วแต่มุมมอง แต่ไม่รู้น่ะสิ่งที่ผมพบเห็นอยู่ตรงหน้า ผมว่างดงามไม่แพ้สถานที่ใดในโลกเลยล่ะครับ
พิกัด จีพีเอส
N9.10984 E99.24751
N9.12777 E99.31382
N9.96585 E99.82112
การเดินทาง
เขื่อนรัชชประภา หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน
เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่สร้างกั้นลำคลองแสง ตัวเขื่อนเป็นหินทิ้งแกนดินเหนียวสูง 95 เมตร ยาว 761
เมตร อ่างเก็บน้ำของเขื่อนมีพื้นที่ 185 ตารางกิโลเมตร ผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เฉลี่ยปีละประมาณ 554
ล้านกิโลวัตต์ สร้างขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2525
เขื่อนนี้ นอกจากผลิตกระแสไฟฟ้าแล้วยังเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ เป็นแหล่งประมง
ภายในอ่างเก็บน้ำมีเกาะมากกว่า 100 เกาะ สามารถล่องเรือชมทัศนียภาพที่สวยงาม
โดยเฉพาะช่องแคบเขากาเลาะ บริเวณบนสันเขื่อนรัชชประภา
ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกด้วย
เขื่อนรัชชประภา ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ประมาณ 70 กิโลเมตร การเดินทาง
ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 (สุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า) ถึงตัวอำเภอตาขุน
เลี้ยวขวาเข้าสู่เขื่อนอีกประมาณ 14 กิโลเมตร
ฤดูกาลที่เหมาะสม
เที่ยวได้ทั้งปี มิถุนายน-พฤศจิกายน ฝนตกชุก
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
- กุ้ยหลินเมืองไทย ตั้งอยู่ตรงข้ามกับแพนางไพรของกรมอุทยาน ฯ มีลักษณะเป็นเทือกเขาหินปูน
ยอดแหลม ลักษณะคล้ายฟันเลื่อย ยามเช้าสวยงาม มีหมอกลอยคลอเคลียยอดเขา
- ทะเลใน 500 ไร่ อยู่ทางทิศตะวันออกของเขื่อนรัชชประภา ต้องนั่งเรือหางยาว แล้วไปเดินป่าอีก 1
กิโลเมตร มีลักษณะเป็นบึงขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยเขาหินปูนสูงชัน
- ถ้ำประการัง อยู่ภายในทะเลใน 500 ไร่ เป็นถ้ำตื้นที่มีหินงอกหินย้อยงดงาม
- จุดชมวิวเขาสก เดินป่าขึ้นไปบนยอดเขาหินปูน ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อชมทิวทัศน์พื้นน้ำ
และเกาะหินปูนภายในเขื่อน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง นั่งเรือชมธรรมชาติ และสัตว์ป่าหลากชนิด
บริการเรือนำเที่ยว
ศักดิ์ชัย โทร. 0-1891-6052
สมศักดิ์ โทร. 0-7275-4541, 0-7887-3822
ชำนาญ โทร. 0-7887-2070, 0-1397-2294
กีรติ โทร. 0-4991-0477, 0-4745-5271
ชัยชนะ-ยุพา โทร. 0-7890-1065, 0-6739-4835
กิจติพงษ์ โทร. 0-7266-1385, 0-7278-2825
ที่พักเด็ด ที่กินดัง
แพสายชล
ที่ตั้ง เขื่อนรัชชประภา
บรรยากาศ เรือนแพกลางบรรยากาศสงบของขุนเขาเหนือเขื่อนรัชชประภา
สนุกกับกิจกรรมพายเรือคายัค ล่องเรือชมกุ้ยหลินเมืองไทย
ราคา 200 บาท/คืน
ติดต่อ โทร. (077) 346-013, 0-1891-6052
ที่กิน
แพสายชล
บรรยากาศ อิ่มอร่อยกับอาหารเมนูปลาเขื่อนสดๆ กลางธรรมชาติหลากหลายเมนู อาทิ
แกงส้มปลากดหน่อไม้ดอง ปลาแรดทอดกรอบ ฯลฯ ราคาไม่แพง
ติดต่อ โทร. (077) 346-013, 0-1891-6052
ABOUT THE AUTHOR
ถ
ถาวร พรมพิทักษ์
ภาพโดย : เอกลักษณ์ จุลสุคนธ์นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)