โตโยตา รัฟโฟร์ อีวี 2012

ลองขับรถแนวคิด โตโยตา รัฟโฟร์ อีวี 2012 รถพลังไฟฟ้าเพื่ออนาคต โตโยตา จำหน่าย รัฟโฟร์ อีวี เวอร์ชันแรกในปี 1998 เพื่อเป็นการขานรับกฎเหล็กการแก้ปัญหาเรื่องมลพิษของหน่วยงาน CARB หรือ CALIFORNIA AIR RESOURCES BOARD ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และด้วยกฎข้อบังคับเรื่องปริมาณการขายที่ว่า บริษัทรถยนต์ใดก็ตาม ที่จะเข้ามาทำตลาดในแคลิฟอร์เนีย ต้องมีรถยนต์แบบ LEV จำหน่ายในสัดส่วน 25 % โตโยตา จึงประเดิมด้วย รัฟโฟร์ อีวี เจเนอเรชันแรก และถือว่าเป็นบริษัทรถยนต์รายแรก ที่บุกเบิกรถยนต์แบบ ZEV (ZERO EMISSION VEHICLE ระดับสูงสุด ซึ่งหมายถึงรถยนต์มลพิษ 0 นั่นเอง) โดยใช้แบทเตอรีแบบ NIMH หรือ NIKEL METAL HYDRIDE   ในปีที่ผ่านมา ทาง โตโยตา ได้ใช้เงินลงทุนใน เทสลา (TESLA) ถึง 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท ผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุน ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรม ในรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ในร่างทรงของ โตโยตา รัฟโฟร์ ซึ่งเป็น อีวี เจเนอเรชันที่ 2 เพื่อเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ นิสสัน ลีฟ และ เชฟโรเลต์ โวลท์ โดย โตโยตา มอบหมายให้ เทสลา เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องแบทเตอรี ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณพื้นรถ และในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้า   ซีอีโอ ของทาง เทสลา มอเตอร์ ได้เปิดเผยถึงแผนเริ่มต้นในการจำหน่ายแผงแบทเตอรีและมอเตอร์ จำนวนกว่า 2,000 ชุด เพื่อทดสอบการผลิตรถพลังงานแบทเตอรี โตโยตา รัฟโฟร์ ลอทแรก ตามข้อตกลงซื้ออุปกรณ์มูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท ของ โตโยตา นอกเหนือจากที่ โตโยตา ได้ลงทุน 60 ล้านเหรียญสหรัฐ ฯ หรือประมาณ 1,800 ล้านบาท เพื่อร่วมพัฒนาชิ้นส่วนรถ อีวี กับ เทสลา มอเตอร์ โดย โตโยตา ได้นำรถ รัฟโฟร์ อีวี ที่ใช้อุปกรณ์ดังกล่าว ออกแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ ลอสแองเจลิส ครั้งที่ผ่านมา ก่อนนำออกขายในปี 2012   รัฟโฟร์ อีวี ทาง โตโยตา คำนวณคร่าวๆ ว่าจะต้องใช้พลังงานไฟฟ้า 37 กิโลวัตต์ ในการขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า เนื่องจากรถคันนี้เป็นต้นแบบ ยังไม่ได้ผลิตออกจำหน่าย จึงขาดข้อมูลรายละเอียดบางอย่าง ที่ยังอยู่ในระหว่างการศึกษา เช่น จำนวนเซลล์ที่จะบรรจุลงในแพคแบทเตอรี สำหรับ เทสลา โรดสเตอร์ ต้องใช้ประมาณ 1,000 เซลล์ ในส่วนของราคายังไม่ได้รับการเปิดเผย ข้อมูลทางเคมีสำหรับแบทเตอรี ลิเธียม-ไออน ก็ยังคงเป็นความลับอยู่ ซึ่งคิดค้นมาเพื่อ รัฟโฟร์ อีวี โดยเฉพาะ ต้องใช้เวลาในการชาร์จ 12 ชม. สำหรับกำลังไฟ 240 โวลท์ และ 28 ชม. สำหรับไฟ 120 โวลท์   ตัวรถมีน้ำหนัก 3,932 ปอนด์ หรือ 1,784 กก. แต่ไม่รู้สึกว่าตัวรถหนักในขณะขับขี่ ทั้งในแง่ของการควบคุมบังคับ และน้ำหนักของพวงมาลัย ยังรู้สึกถึงความคล่องตัว สะดวกสบายในการใช้งาน ความยืดหยุ่นของเฟรมรถทำได้อย่างพอเหมาะ เบรคมีกำลังที่ดีและมีหน้าที่ชาร์จไฟกลับเข้าสู่แบทเตอรี เมื่อมีการเหยียบเบรค อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 9.0 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 160 กม./ชม.   รายละเอียดเท่าที่มีตอนนี้ รัฟโฟร์ อีวี จะมากับสมาร์ทคีย์ พร้อมปุ่ม START ระบบนำทางแบบทัชสกรีน รวมทั้งวิธีการควบคุมระบบส่งกำลังแบบใหม่ โดยเปลี่ยนจากคันเกียร์มาเป็นปุ่มกดแทน เช่นเดียวกับที่ติดตั้งอยู่ใน เทสลา ผู้ขับแค่กด DRIVE เพียงอย่างเดียวเพื่อให้ตัวรถเคลื่อนที่ ในส่วนของระบบห้ามล้อในรถต้นแบบ ทำได้ดีมากทีเดียว ดีเกินไปด้วยซ้ำ เมื่อผู้ขับยกเท้าออกจากคันเร่ง ไฟเบรคก็จะเริ่มสว่างขึ้นแล้ว ในขณะนี้ยังเป็นการเร็วเกินไป ที่จะบอกถึงรูปทรงที่แท้จริงของรถรุ่นนี้ เมื่อผลิตออกจำหน่าย โตโยตา ใช้ รัฟโฟร์ ตัวนี้นำร่องรถไฟฟ้า สำหรับการผลิตในอนาคตที่จะมีมากมายหลากหลายรุ่น โดยให้ความสนใจในเทคโนโลยีของแบทเตอรี ที่ผลิตโดย เทสลา รถอีวี คันนี้ ทำงานได้ดีทีเดียว ขับเคลื่อนด้วยความเงียบ มีอัตราเร่งที่รวดเร็ว การควบคุมรถทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ข้อด้อยของบรรดารถไฟฟ้าก็คือ รัศมีการวิ่งต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง ทำได้ราว 170 กม. เท่านั้นเอง รัฟโฟร์ อีวี จึงเหมาะที่จะเป็นรถคันที่ 2 ในบ้าน มากกว่าจะสามารถนำมาใช้งานได้ในทุกโอกาส ราคาที่ตั้งไว้ก็น่าจะอยู่ในระดับที่สูงทีเดียว เมื่อรถรุ่นนี้ถูกนำเข้ามาจำหน่ายในโชว์รูม โตโยตา   คุณรู้หรือไม่ ? รัฟโฟร์ อีวี เปิดตัวโมเดลแรกในปี 1998 จนถึงโมเดล 2003 โตโยตา ได้จำหน่าย รวมถึงให้เช่าขับไปแล้ว 1,484 คัน และทุกวันนี้ยังมี รัฟโฟร์ อีวี เจเนอเรชันแรกวิ่งอยู่บนท้องถนนประมาณ 700 กว่าคัน