วิถีตลาดรถ
เดือนสุดท้ายที่อาจจะสวยหรูแบบนี้
จากยอดจำหน่ายรวม 87,012 คัน ในเดือนกันยายนเป็นยอดจำหน่ายของรถยนต์ที่ติดโลโก โตโยตา ไปเสีย 39,166 คัน คิดเป็น 45.0 % ของตลาดทั้งหมด ตามมาเป็นอันดับที่ 2 อีกครั้งหนึ่ง ด้วยรถยนต์ ฮอนดา 12,439 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 14.3 % อีซูซุ อยู่ในอันดับที่ 3 จากยอดจำหน่าย 10,956 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 12.6 % นิสสัน อยู่ในอันดับที่ 4 จำหน่ายได้ 6,403 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.4 % ส่วน มิตซูบิชิ จำหน่ายได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ด้วยยอด 5,700 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.6 %
เรื่องราวการซื้อขายรถยนต์ใหม่ในบ้านเราดำเนินผ่านมารวมทั้งสิ้น 9 เดือนแล้ว รถยนต์ป้ายแดงเคลื่อนตัวออกจากโชว์รูมไปสู่มือผู้เป็นเจ้าของใหม่ทั่วประเทศ รวมกันแล้วถึง 670,969 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2553 ถึง 20.6 % ใครว่าคนไทยจน เถียงกันขาดใจ เพราะนี่เป็นเพียงตัวเลขยอดจำหน่ายผ่านทางบริษัทผู้จำหน่ายหลัก ที่มีการผลิตและนำเข้าที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากบริษัทแม่ในต่างแดนเท่านั้น ยังไม่รวมยอดจำหน่ายของบริษัทผู้นำเข้าอิสระที่มีทั้งถูกต้องตามกฎเกณฑ์ และไม่ถูกต้องอีกไม่รู้เท่าไร ซึ่งจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ราคาแพง หรูหรา หรือสปอร์ทเลิศทั้งนั้น เอาแบบที่เป็นทางการมีหลักฐานยืนยันได้ โตโยตา นำโด่งเป็นผู้นำตลาด ด้วยยอดจำหน่ายรวม 255,141 คัน คิดเป็น 38.0 % ของตลาดรวมทั้งหมด อีซูซุ อยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยยอด 116,110 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 17.3 % อันดับที่ 3 ถึงแม้ตัวเลขจะไม่ดูเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ยังเหนียวแน่นในอันดับที่ 3 เช่นเดิม สำหรับ ฮอนดา จำหน่ายไปแล้ว 73,318 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.9 % อันดับที่ 4 เป็นของ นิสสัน 55,213 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.2 % และมิตซูบิชิ อยู่ในอันดับที่ 5 จากยอดจำหน่าย 53,233 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.9 %
สำหรับตลาดรถพิคอัพในเดือนกันยายน ความต้องการรถยนต์ใช้งานประเภทนี้ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นไปอีก จากการเปิดตัวพิคอัพรุ่นใหม่ในอีกไม่ช้าไม่นาน รวมถึงผลกระทบจากอุทกภัยที่อาจเปลี่ยนใจผู้จะซื้อรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ให้แปรเปลี่ยนมาใช้รถพิคอัพแทน เพราะความสามารถในการแหวกว่ายสายน้ำ ที่ไม่รู้ว่าจะท่วมล้นอีกนานเท่าไร หรือหมดจากวิบากกรรมครั้งนี้แล้วครั้งต่อไปจะมาเยือนอีกหรือไม่ประการใด เหนือกว่ารถยนต์นั่งนั่นเอง เดือนกันยายน ยอดรวมของตลาดพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ มีทั้งสิ้น 34,116 คัน สูงขึ้นกว่าเดือนกันยายนปีที่แล้ว 26.9 % เดือนนี้ โตโยตา ไฮลักซ์ วีโก แชมพ์ มียอดจำหน่ายสูงถึง 16,569 คัน คิดเป็น 48.6 % ของตลาด อีซูซุ อย่างที่บอกแผ่วลงไปจากกระแสรถใหม่เดือนนี้ยอดตกลงไปบ้าง ลดลงจากเดือนกันยายนปีที่แล้ว 12.7 % จำหน่ายไปทั้งสิ้น 9,042 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 26.5 % มิตซูบิชิ ยังเหนียวแน่นในอันดับที่ 3 จำหน่ายไป 3,505 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 10.3 % ส่วน นิสสัน ก็ยืนหยัดในอันดับที่ 4 จากยอดจำหน่าย 1,702 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.0 % และยอดจำหน่ายของ มาซดา อยู่ในอันดับที่ 5 ของตลาด จำหน่ายไป 891 คัน รับส่วนแบ่งตลาดไป 2.6 %
รถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ ตั้งแต่ต้นปีมามียอดจำหน่ายรวมกันทั้งตลาดสูงถึง 276,653 คัน เป็นความต้องการของตลาดที่สูงกว่าช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 20.1 % เวลายิ่งผ่านไปเส้นชัยสู่ตำแหน่งแชมพ์ยอดจำหน่ายสูงสุดปีที่ 6 ติดต่อกันของ โตโยตา เริ่มจะเห็นชัดเจนมากขึ้น เพราะผ่านไป 9 เดือนยอดจำหน่ายสะสมของ โตโยตา ปาเข้าไปผ่านหลักแสนคันแล้ว มีทั้งสิ้น 100,439 คัน คิดเป็น 36.3 % ของตลาดรวม ขณะที่คู่แข่งรายสำคัญ อีซูซุ ตามหลังมาค่อนข้างห่างไปนิด 9 เดือนมีอยู่ 98,201 คัน ส่วนแบ่งตลาด 35.5 % ช่วงห่างมีอยู่กว่า 2,000 คัน รถใหม่จะแรงจริงหรือไม่ ในไม่ช้ามีคำตอบ ส่วนอันดับที่ 3 มิตซูบิชิ ยึดแน่นอนจากยอดจำหน่ายรวม 31,371 คัน มีส่วนแบ่งตลาด ณ เวลานี้ 11.3 % เช่นเดียวกับอันดับที่ 4 นิสสัน มั่นใจได้ 16,742 คัน เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ทำได้ใน 9 เดือน ส่วนแบ่งตลาด 6.1 % ส่วนอันดับที่ 5 ถึงจะมีพิคอัพใหม่ออกมา แต่คงยากที่จะยกอันดับขึ้นให้ดีกว่านี้ เชฟโรเลต์ กับอันดับที่ 5 มียอดจำหน่ายรวม 8,149 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.9 %
ทางด้านรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ เดือนกันยายนมียอดจำหน่ายรวมกันอยู่ที่ 2,149 คัน เพิ่มขึ้น 34.3 % แบเบอร์สำหรับ โตโยตา และเป็นเพียงยี่ห้อเดียวที่จำหน่ายขายกันเกินกว่าเดือนละ 1,000 คัน เดือนนี้อยู่ที่ 1,751 คัน ตลาดรวมตั้งแต่ต้นปีแซงหน้ายอดรวมตั้งแต่ต้นปีของปีที่แล้วไปเรียบร้อยแล้ว โดยมียอดจำหน่ายรวมทั้งตลาด 13,376 คัน สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 0.4 % ยกแชมพ์ให้ โตโยตา ไปเพราะจำหน่ายไปแล้วถึง 8,901 คัน ส่วนแบ่งตลาด 66.5 % ขณะที่อันดับ 2 อีซูซุ รวมตั้งแต่ต้นปียังมีอยู่เพียง 2,005 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.0 % เท่านั้น
สำหรับรถเอสยูวี เดือนกันยายน โตโยตา กลับมาแล้ว ทำยอดจำหน่ายเข้ามาเป็นอันดับที่ 1 จำหน่ายไป 1,959 คัน ส่วนแบ่งตลาด 33.1 % เขี่ยแชมพ์หน้าเดิม มิตซูบิชิ หล่นไปอยู่อันดับ 2 เพราะมียอดจำหน่ายเพียง 1,541 คัน ไม่พอที่จะยื้ออันดับ 1 ต่อเนื่องได้ ส่วนแบ่งตลาดของ มิตซูบิชิ 26.1 % อันดับที่ 3 เป็นของ ฮอนดา มียอดจำหน่าย 980 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.6 % ยอดรวมทั้งตลาด 5,914 คัน เพิ่มขึ้น 33.1 % อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเดือนนี้ยอดจำหน่ายของ โตโยตา จะเข้ามาเป็นอันดับที่ 1 แต่เมื่อรวมยอดจำหน่ายตั้งแต่ต้นปีมา มิตซูบิชิ ยังคงเย็นใจได้กับตำแหน่งว่าที่แชมพ์ยอดจำหน่ายปี 2554 สำหรับตลาดนี้ ระดับยอดจำหน่ายต่อเดือนกับเวลาที่เหลืออยู่คงไม่เพียงพอจะทำให้ โตโยตา พลิกกลับมาคว้าตำแหน่งแชมพ์ในตลาดนี้ได้ มิตซูบิชิ ว่าที่แชมพ์ มียอดจำหน่ายรวมตั้งแต่ต้นปี 14,269 คัน ส่วนแบ่งตลาด 33.3 % ส่วน โตโยตา มีอยู่ 11,126 คัน ส่วนแบ่งตลาด 26.0 % อันดับที่ 3 เป็น อีซูซุ 5,923 คัน ส่วนแบ่งตลาด 13.8 % ยอดรวมของตลาดนี้ 42,809 คัน เพิ่มขึ้น 9.6 %
รถเอมพีวี จำหน่ายไป 1,224 คัน ในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 11.5 % จำนวนนี้ โตโยตา กินส่วนแบ่งไปถึง 67.0 % จากยอดจำหน่าย 820 คัน ปโรตอน จากประเทศเพื่อนบ้านทางใต้ ทำได้ดีในตลาดนี้ เกาะอยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยยอด 135 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.0 % อันดับที่ 3 เป็น ฮอนดา ยอดจำหน่าย 128 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.5 % ขณะที่ยอดรวมตั้งแต่ต้นปีตลาดนี้ เกินหมื่นคันแล้วอยู่ที่ 10,070 คัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.8 % โตโยตา มาเป็นอันดับ 1 ด้วยยอด 6,382 คัน ส่วนแบ่ง 63.4 % ปโรตอน 1,528 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.2 % และฮอนดา 840 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.3 %
ทั้งหมดเป็นภาพรวมของการซื้อขายรถใหม่ป้ายแดงในเดือนกันยายน ที่ตัวเลขต่างๆ ยังดูดีปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว แต่นับตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป น้องน้ำจะเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน และน่าจะทำให้ความสวยงามของตัวเลขต่างๆ เหือดหายไป เรื่องของการซื้อขายเรือประเภทต่างๆ จะเข้ามาแทนที่อย่างแน่นอน ถ้าผู้มีหน้าที่รับผิดชอบรับมือกับมวลน้ำก้อนมหึมาไม่ได้
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน ปี '54 กับ '53
ตลาดโดยรวม ,+ ,27.5 %
รถยนต์นั่ง ,+ ,30.2 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ ,+ ,26.9 %
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ ,+ ,34.3 %
รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ,+ ,33.1 %
รถเอมพีวี ,+ ,11.5 %
[/table]
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-กันยายน ปี '54 กับ '53
ตลาดโดยรวม ,+ ,20.6 %
รถยนต์นั่ง ,+ ,26.1 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ ,+ ,20.1 %
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ ,+ ,0.4 %
รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ,+ ,9.6 %
รถเอมพีวี ,+ ,0.8 %
[/table]
ABOUT THE AUTHOR
ข
ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถ