ผลกระทบจาก Brexit

  แม้ว่าเหตุการณ์ในอีกซีกโลกใบนี้ จะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับเหตุการณ์ในบ้านเราทันทีทันควัน อย่างกรณีการลงประชามติของประชาชนในสหราชอาณาจักร ที่จะออกจากกลุ่มยูโร หรือที่เรียกกันว่า Brexit แต่แรงกระเพื่อมของเหตุการณ์ ทำเอากลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ในอังกฤษต้องได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะเท่ากับเมื่อทำเอกสารการแยกตัวออกจากกลุ่มยูโรแล้วเสร็จ เท่ากับว่าจะต้องเกิดอัตราภาษี ทั้งจากนำเข้าและส่งออกจากสหราชอาณาจักรไปยังกลุ่มยูโรเพิ่มขึ้นจากเดิม ขณะที่ในอังกฤษครึ่งปีแรกที่ผ่านมา จำนวนการผลิตรถยนต์ทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 16 ปี ทำให้กลุ่มผู้ผลิตเรียกร้องต่อรัฐบาล เพื่อให้ต่อรองทางด้านภาษีกับกลุ่มยูโร โดยมีองค์กรที่ชื่อ Society of Motor Manufacturers and Traders (SMMT) ให้ข้อมูลว่า ในครึ่งปีแรกของปี 2559  อังกฤษผลิตยานยนต์ได้ 897,157 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13 % โดยในจำนวนนี้ 77.8 % เป็นรถส่งออกไปยังตลาด 100 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดในอียู ขณะที่รถที่ผลิตจำนวน 2 ใน 3 ใช้ชิ้นส่วนจากต่างประเทศ ผู้บริหารของ SMMT ชี้แจงว่า ภาครัฐควรจะทำการต่อรองเพื่อไม่ให้มีการเก็บภาษีการค้า 10 % สำหรับสินค้าที่นำเข้ากลุ่มยูโร เพื่อป้องกันอุตสาหกรรมยานยนต์ของอังกฤษ ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งหากมีการเสียภาษีสำหรับสินค้านำเข้ากลุ่มยูโร จะทำให้ยอดการขายลดลงแน่นอน เพราะราคารถยนต์จะแพงกว่าปัจจุบัน และจากการสำรวจความเห็นสมาชิก 57 % เป็นกังวลว่าต้องเกิดผลกระทบจากการที่อังกฤษแยกตัวออกจากกลุ่มยูโรแน่นอน เพราะจะต้องเสียอัตราภาษีเท่ากับรถจากประเทศอื่น ขณะที่ก่อนการแยกตัวไม่ได้เสียภาษีใดๆ กับการค้าขายกับกลุ่มยูโรเลย     ปัญหาใหญ่ที่จะเกิดในเร็ววันนี้ ก็คือ การออกรถรุ่นใหม่ ที่ Vauxhall ได้สิทธิ์ในการผลิตรุ่น Astra ในปี 2561 และโรงงาน Sunderland ก็ได้สัญญาการผลิต Infiniti รุ่นใหม่เรียบร้อยแล้ว และในอีก 18 เดือนข้างหน้า ค่ายรถยนต์หลายเจ้า ก็เตรียมการเพื่อการผลิตในอนาคต ที่จะต้องตัดสินใจว่าจะทำการผลิตที่โรงงานแห่งใด อาทิ Toyota, Vauxhall, Nissan และ Jaguar Land Rover ที่ต้องเตรียมการด้านการลงทุนให้แล้วเสร็จภายใน 2563 แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมการผลิตกล่าวว่า “เราต้องการให้รถที่ผลิตยังคงมีราคาที่ผู้บริโภคยอมรับ ที่ภาครัฐต้องให้ความสนใจ และสนับสนุนเพื่อให้เศรษฐกิจของอังกฤษ ไม่ซวนเซมากไปกว่านี้”