ทดลองขับ(formula)
จับมาวิ่ง ยิ่งโดนใจ ! ทดลองขับ Nissan Note อีโคคาร์ หน้าใหม่ มาแรง !!
หลังจากเปิดตัวมาได้สักพักหนึ่ง ในที่สุดเราก็ได้มาทดลองขับ อีโคคาร์ หน้าใหม่ Nissan Note กับทริพสั้นๆ แต่ก็ได้รู้จักเจ้าแฮทช์แบคคันนี้มากกว่าเดิมอีกไม่น้อย !!Nissan Note จัดเป็น อีโคคาร์ รุ่นที่ 3 ของค่ายรถแห่งนี้ ต่อจาก March และ Almera มาพร้อมตัวถังแฮทช์แบค เส้นสายทันสมัย แม้เปิดตัวในตลาดโลกมาได้ระยะหนึ่งแล้ว และเพิ่งปรับโฉมไป แน่นอนว่ารุ่นที่เปิดตัวในบ้านเรา คือ รุ่นที่ปรับโฉมล่าสุดนั่นเอง เห็นได้จากขอบกระจังหน้าโครเมียมทรงตัวยู ด้านล่างของกันชนหน้าเน้นสันเหลี่ยม รวมถึงไฟท้าย และกันชนท้ายที่โฉบเฉี่ยว ภายใต้ระยะฐานล้อถึง 2,600 มม. เท่ากับ Almera พอดี (อีโคคาร์ ที่มีระยะฐานล้อมากที่สุด คือ Suzuki Ciaz ที่ 2,650 มม. แต่เป็นตัวถังซีดาน) ล้อแมกขนาด 15 นิ้ว ยาง Dunlop Enasave 185/65 R15 จุดเด่นของ Note คือ ห้องโดยสารที่กว้างขวาง พื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือ ไม่ว่าจะเป็นการโดยสาร หรือการขนสัมภาระ เมื่อขึ้นมานั่งในห้องโดยสาร รู้สึกได้ว่าพื้นที่เหนือศีรษะมีให้อย่างเหลือเฟือ ทัศนวิสัยดี จากการใช้กระจกหน้าต่างขนาดใหญ่ รวมถึงเสา เอ ที่ลาดเท ทำให้กระจกหน้ามีขนาดใหญ่เช่นกัน คอนโซลหน้าดูคล้ายกับของ March แต่มีความแตกต่างกัน จะคล้ายกันมากก็ตรงปุ่มใช้งานที่จัดเรียงเป็นวงกลมตรงกลาง พวงมาลัยทรงสปอร์ท ทรงตัว D หักมุมด้านล่าง แต่มือจับขนาดเล็กไปหน่อย และใช้วัสดุขึ้นรูปที่ให้สัมผัสแข็งกระด้างเล็กน้อย ส่วนเบาะนั่งเน้นความสบาย ทรงเรียบ เบาะนั่งค่อนข้างแข็ง เบาะด้านหลังรองรับผู้โดยสาร 3 คนได้สบาย ตัวเบาะทรงเรียบ รวมถึงพนักพิงหลัง เบาะหลังพับเก็บได้แบบ 60:40 บริเวณที่เก็บสัมภาระจะมีแผ่นปิดอีกหนึ่งชั้น หลังจากพับเบาะลงมาจะเป็นพื้นราบเสมอกัน ประตูบานหลังสามารถเปิดได้สูงสุด 85 องศา ขนสัมภาระได้สะดวก รุ่นที่เราได้ทดลองขับเป็นรุ่นทอพ VL ติดตั้งชุดฟรอนท์เครื่องเสียงของ Kenwood รองรับการเชื่อมต่อกับมือถือ และมีช่อง HDMI เล่น DVD ได้ (แต่ไม่มีระบบเนวิเกเตอร์) นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ใช้สอยเฉพาะรุ่นทอพ นั่นคือ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ใช้กล้อง 4 ตัวรอบคันในมุมกว้างผสานเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ภาพเสมือนมองเห็นรถจากด้านบน การแสดงผลจะอยู่บนกระจกมองหลัง ซึ่งมีขนาดค่อนข้างเล็ก ไม่เหมือนของ Teana หรือ X-Trail ที่แสดงผลบนจอภาพบริเวณคอนโซลกลาง มองเห็นได้ชัดกว่าเยอะ อย่างไรก็ตามระบบดังกล่าวใน Note ช่วยให้การถอยจอดทำได้อย่างง่ายดาย และปลอดภัยกว่าเดิมมาก นอกจากแสดงภาพรอบทิศทางแล้วยังมีระบบเตือนเมื่อบางสิ่งเข้ามาในระยะใกล้ตัวรถด้วย ป้องกันการกระทบกระทั่งกับสิ่งของ หรือคน ขณะทำการถอยรถ แม้จะมีจุดเด่นที่ความกว้างขวาง และอุปกรณ์ใช้สอยที่น่าพอใจไม่แพ้รถยนต์ที่มีราคาแพงกว่า แต่เรามีความรู้สึกว่า วัสดุที่ใช้ในห้องโดยสาร รวมถึงการออกแบบไม่โดดเด่นเท่าใดนัก วัสดุขึ้นรูปสีดำรอบคันดูไม่สมราคา ส่วนประกอบต่างๆ เน้นความเรียบง่าย แม้บริเวณกรอบของคอนโซลกลางเป็นสีดำแวววาวก็ตาม ในแง่ของวัสดุ และการออกแบบห้องโดยสาร Nissan Note ยังเป็นรองคู่แข่งอย่าง Toyota Yaris Nissan Note ใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.2 ลิตร 3 สูบเรียง กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 10.8 กก.-ม. ที่ 4,400 รตน. เกียร์อัตโนมัติแปรผัน เรียกได้ว่ายกชุดมาจาก Almera ล้วนๆ ทั้งพละกำลังของเครื่องยนต์ รวมถึงชุดเกียร์ (อัตราทดเกียร์เท่ากันทุกประการ) แต่ปรับปรุงหน่วยประมวลผลให้เกียร์ตอบสนองดีขึ้น การขับขี่บนถนนจริง เรามีความรู้สึกว่า ด้วยพละกำลังที่มีอย่างพอเพียง ผนวกกับตัวถังที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักรวมที่ 1,061 กก. (รุ่น VL) การตอบสนองจึงเน้นความนุ่มนวล ต่อเนื่อง สำหรับการใช้งานทั่วไปถือว่าเพียงพอสบายๆ การขับบนทางด่วน หรือช่วงที่การจราจรปลอดโปร่ง สามารถเพิ่มความเร็วไปถึง 110-120 กม./ชม. ได้ไม่ยากเย็น แต่อาจต้องใช้เวลาสักพัก ไม่ฉับไวเหมือนเครื่องยนต์ 4 สูบ ระดับ 90 แรงม้า ของคู่แข่ง การกดคันเร่งลึกทันทีทันใด คันเร่งตอบสนองช้าเล็กน้อย โดยรวมแล้วเราคาดว่า อัตราเร่งของ Note น่าจะใกล้เคียงกับ Almera แม้ปรับปรุงระบบเกียร์แล้วก็ตาม ส่วนการประหยัดเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 20 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน อีโคคาร์ เฟส 1 จากการได้ทดลองขับ ทำให้เราพบจุดเด่นอีกประการของ Note นั่นคือ ระบบรองรับ แม้อิงพื้นฐานจาก Almera แต่ด้วยความเหมาะสมของตัวถัง ทำให้มีความหนึบแน่นที่ดีกว่า การแล่นที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ตัวรถยังคงนิ่ง ไม่มีอาการโคลง หรือร่อน ให้สัมผัส (จนทีแรกเรานึกว่ากำลังแล่นที่ 100 กม./ชม. ด้วยซ้ำ !!) การเข้าโค้งทำได้มั่นใจ นอกจากนี้พวงมาลัยยังปรับแต่งให้มีน้ำหนักที่พอเหมาะ โดยเฉพาะขณะแล่นที่ความเร็วคงที่ เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทาง Nissan ปรับปรุงให้ Note โดยเฉพาะ น้ำหนักของพวงมาลัยที่ลงตัวทำให้การควบคุมทำได้ง่าย การตอบสนองยังคงเน้นความนุ่มนวล ค่อยเป็นค่อยไป โดยรวมแล้วขับสบายทั้งช่วงความเร็วต่ำในเมือง และมั่นคงขณะขับทางไกล ใช้ความเร็วสูง ส่วนการเบรค เรามีความรู้สึกว่า ทางผู้ผลิตปรับแต่งให้แป้นเบรคตอบสนองแบบค่อยเป็นค่อยไป ในช่วงแรกที่กดแป้นเบรคลงไป ตัวรถจะหน่วงความเร็วลงมาไม่มากนัก ต้องกดลึกลงไปอีกเล็กน้อยการตอบสนองจึงมากขึ้น คาดว่าเพื่อการเบรคขณะใช้งานในเมือง แต่เมื่อเคยชินแล้วก็กะจังหวะเบรคได้ไม่ยาก อีกหนึ่งระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งใน Nissan Note คือ ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้า และช่วยเบรคฉุกเฉินอัจฉริยะ ตรวจจับได้ทั้งรถยนต์ และคนเดินถนน (ปานนั้นเชียว !?) นับว่าน่าสนใจสำหรับรถยนต์ระดับ อีโคคาร์ จากที่ก่อนหน้านี้มีระบบที่คล้ายกันติดตั้งในคู่แข่งกับ Mitsubishi Mirage/Attrage (รุ่นปรับโฉม) แต่ของรายหลังระบุว่าจะทำงานในช่วงความเร็วต่ำ และช่วยชะลอความเร็วเมื่อตรวจพบรถที่อยู่ข้างหน้าอยู่ในระยะที่เสี่ยงต่อการปะทะ (ไม่รวมคนเดินถนน) แต่...ทริพทดลองขับสั้นๆ ในครั้งนี้ เราไม่มีโอกาสได้ลองระบบความปลอดภัยดังกล่าว แม้ขณะขับตามกันเป็นขบวน เราลองเพิ่มความเร็วเข้าไปใกล้รถคันข้างหน้า จนกระทั่งรู้สึกว่าประชิดพอสมควร ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้าก็ยังคงไม่ทำงาน ด้วยความแปลกใจจึงสอบถามทางเจ้าหน้าที่ของ Nissan ก็ได้รับคำตอบว่า ระบบดังกล่าจะทำงานเมื่อมีรถยนต์ หรือคนเดินถนน กีดขวางข้างหน้า หรือแล่นที่ความเร็วต่ำกว่าความเร็วของรถที่แล่นอยู่มากๆ หากตัวรถยังคงเคลื่อนเข้าไปใกล้ด้วยความเร็วที่เสี่ยงต่อการปะทะ ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้า และช่วยเบรคฉุกเฉินอัจฉริยะ จึงจะเริ่มทำงาน แม้ฟังดูแล้วเป็นระบบที่มีเงื่อนไขเฉพาะพอสมควร แต่เราจะเก็บเป็นการบ้านเอาไว้พิสูจน์ขณะนำมาทดสอบโดยตรงอีกครั้งครับ !! สรุปสั้นๆ หลังจากได้ทำความรู้จัก Nissan Note ผ่านทริพทดลองขับครั้งนี้ เรามีความรู้สึกว่า นี่คือ อีโคคาร์ ที่มีมาตรฐานสูงอีกรุ่นหนึ่ง นอกเหนือจากความประหยัดแล้ว ยังมีห้องโดยสารที่กว้างขวางมาก การขับขี่ที่มั่นคง รูปทรงสวย ระบบความปลอดภัย และช่วยเหลือการขับขี่ที่ล้ำหน้าคู่แข่งระดับเดียวกัน จัดว่าเป็นรถที่มีความคุ้มค่ามากๆ รุ่นหนึ่ง แม้ค่าตัวจะเกินหลัก 6 แสนบาท ที่ 640,000 บาท จัดว่าสูงสำหรับรถยนต์ระดับ อีโคคาร์ แต่ก็แลกมากับอุปกรณ์ที่ล้ำหน้า โดยรวมแล้วถือว่ายอมรับได้ สำหรับผู้ที่มีงบประมาณมากพอ แต่หากต้องการแค่ความประหยัด ห้องโดยสารที่กว้างขวาง การขับขี่ที่มั่นคง รูปทรงสวย ผนวกกับงบประมาณที่จำกัด รุ่น V ก็สามารถสนองตอบได้ด้วย กับราคาที่ 585,000 บาท รถจะเริ่มส่งมอบวันที่ 16 มีนาคมนี้ ใครที่จองไปแล้วก็อดใจรออีกนิด ส่วนคนที่กำลังมองหารถยนต์ อีโคคาร์ สักคัน Nissan Note ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม !! รายละเอียด และข้อมูลจำเพาะของ Nissan Note ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย : บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ABOUT THE AUTHOR
ภูเขม หน่อสวรรค์
คอลัมน์ Online : ทดลองขับ(formula)
คำค้นหา