แม้ว่าค่าย Chrysler จะเตรียมการมากมายเรื่องการแนะนำรถ Pacifica ไฮบริดเข้าสู่ตลาด แค่เริ่มต้นก็ประสบปัญหาด้านการผลิตที่โรงงานใน Windsor ประเทศแคนาดา ทำให้ต้องล่าช้าในการแนะนำตัว แต่ไม่ทันไร ก็ต้องเรียกรถคืนอีกครั้ง หลังได้รับคำร้องเรียนมากมายผู้บริโภคจำนวนมาก ส่งคำร้องเรียนไปทั้งที่ Chrysler และองค์การเพื่อความปลอดภัยทางถนน (National Highway Traffic Safety Administration) ทำให้ผู้ผลิตต้องตัดสินใจเรียกรถเกือบ 1,700 คัน ที่จดทะเบียนจนถึงวันที่ 9 มิถุนายน กลับเข้ารับการตรวจสอบ โดย Chrysler ประเมินว่า รถจำนวน 1,368 คัน ในสหรัฐอเมริกา อาจมีปัญหา และอีก 9 คัน ในแคนาดาด้วยเช่นกัน Chrysler Pacifica ทุกคัน จะถูกส่งกลับไปยังโรงงานเพื่อการแก้ไข ซึ่งเบื้องต้น น่าจะมาจากเรื่องซอฟท์แวร์ ที่ควบคุมการทำงานของรถ โดยลูกค้าทั้งรถรุ่นไฮบริด และรุ่นเบนซิน สามารถเลือกตัดสินใจได้ว่า จะรับรถคืน หรือคอยจนกระทั่งเดือนกันยายน ที่รถรุ่นปี 2561 จะออกจำหน่าย โดยขณะนี้ Chrysler ได้ตัดสินใจหยุดสายการผลิตไว้ก่อน เพื่อทำการปรับแต่งเครื่องมือในการประกอบ แม้ว่าจะยังไม่มีรายงานการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว แต่ Chrysler ก็ไม่ต้องการระบุออกมาตรงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น โดยรถของลูกค้าที่มีปัญหา ช่างบริการเพียงแจ้งว่า "สารกึ่งตัวนำในระบบอีเลคทรอนิคส์ อาจหยุดการทำงาน" ซึ่งอาจทำให้เกิดการสูญเสียกำลังกะทันหัน ลูกค้าที่ยังไม่ยอมรับปัญหา ติดต่อเข้าไปยังองค์การเพื่อความปลอดภัยทางถนน เพื่อขอทราบว่า Chrysler จะจัดการอย่างไร โดยลูกค้าจากลอสแองเจลิส ระบุว่า ผู้ผลิตบอกว่า "ไม่สามารถทำอะไรได้ จนกว่าจะถึงไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ซึ่งยอมรับไม่ได้ เพราะรถของผมไม่เป็นอะไรเลย แต่กลับถูกเรียกเข้ารับการตรวจสอบ" แม้ว่าจะเป็นรถราคาแพง มีราคาจำหน่ายเริ่มต้น 41,995 เหรียญสหรัฐฯ ราว 1,470,000 บาท โดยเป็นเอมพีวี 7 ที่นั่ง ที่สามารถเดินทางได้ถึง 900 กม./การเติมเชื้อเพลิงหนึ่งครั้ง และวิ่งด้วยกำลังไฟฟ้าอย่างเดียวได้ 53 กม. แต่ก็ยังประสบปัญหาที่ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดได้ ทำให้ต้องเรียกรถกลับคืนอย่างเงียบๆ ครั้งนี้