Automobilemag นำเสนอรายงานของสำนักข่าว Bloomburg ที่ระบุว่า ในปี 2565 ค่ายรถยนต์ทั่วโลก จะมีรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ 50 รุ่น ออกจำหน่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานการขนส่งที่ไร้มลภาวะในกลุ่มค่ายรถยนต์ General Motors เพิ่งประกาศแผนงานในการแนะนำรถไฟฟ้าอีก 2 รุ่น ภายในระยะเวลาอีก 18 เดือน และภายในปี 2565 จะมีรถไฟฟ้ารุ่นใหม่จำหน่ายทั้งสิ้น 20 รุ่น ขณะเดียวกัน Dysan ผู้ผลิตเครื่องดูดฝุ่นที่โด่งดังในอเมริกา ก็ประกาศตัวที่จะร่วมวงไพบูลย์ในการผลิตรถไฟฟ้า และแบทเตอรีออกจำหน่ายเช่นกัน สาเหตุที่ทำให้รถไฟฟ้า กลายเป็นสิ่งน่าสนใจที่จะทำกาารผลิต ก็เพราะข้อบังคับของหน่วยงานราชการหลายแห่ง อาทิ แคลิฟอร์เนีย ออกระเบียบให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องทำการผลิตรถไฟฟ้า หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องเสียเงินซื้อค่าเครดิทจากค่ายที่ผลิตรถไฟฟ้า เพื่อการแข่งขันในการขาย เช่นเดียวกับรัฐบาลจีน ที่กำหนดระเบียบด้านรถไฟฟ้ามาก่อนหน้านี้ Erich Joachimsthaler ซีอีโอ สถาบันจัดอันดับบแรนด์ ระบุว่า ข้อบังคับของรัฐบาลและผู้ผลิตรถไฟฟ้า Tesla เป็นตัวแปรให้บรรดาผู้ผลิตรายใหญ่ ต้องหันมาเร่งพัฒนาเทคโนโลยี และทำการผลิตรถไฟฟ้าออกจำหน่าย อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตส่วนใหญ่ต่างก็ประสบปัญหาการขาดทุนจากการผลิต อันเนื่องมาจากผู้บริโภคยังไม่ให้การยอมรับในรถไฟฟ้า รวมทั้งเทคโนโลยีด้านแบทเตอรี ยังคงมีต้นทุนในการผลิตที่สูงมากอยู่ ตัวอย่างเช่น ค่าย General Motors จะขาดทุนราว 9,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 315,000 บาท กับ Chevrolet Bolt ที่จำหน่ายทุกคัน และ Sergio Marchionne ซีอีโอ FCA Group ผู้ผลิตรถไฟฟ้า Fiat 500 e ก็ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ขาดทุนราว 20,000 เหรียญสหรัฐฯ ราว 700,000 บาท ต่อการจำหน่ายรถหนึ่งคัน แม้ว่าจะประเมินกันว่า ราคาของแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน จะลดลงในอนาคต โดย GM ก็ประเมินว่า ราคาของแบทเตอรี ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ราว 145 เหรียญสหรัฐฯ ราว 5,075 บาท ต่อกิโลวัตต์/ชม. อนาคตราคาน่าจะอยู่ที่ราว 100 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 3,500 บาท ต่อ กิโลวัตต์/ชม. Bloomburg ในแผนกพลังงานชนิดใหม่ คาดหมายว่า ราคาของแบทเตอรีจะลดลงเหลือ 109 เหรียญสหรัฐฯ ราว 3,815 บาท ต่อ กิโลวัตต์/ชม. ในปี 2568 และลดลงเหลือ 73 เหรียญสหรัฐฯ ราว 2,555 บาท ต่อกิโลวัตต์/ชม. ในปี 2573 อันจะช่วยให้ยอดขายของรถไฟฟ้า สามารถแซงหน้ารถเครื่องยนต์สันดาปภายในได้ Sergio Marchionne ระบุในการให้สัมภาษณ์กับ Bloomburg ว่า ผู้ผลิตรถยนต์ที่ไม่สนใจเทคโนโลยีรถไฟฟ้า อาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง หากไม่รีบตัดสินใจที่จะเข้าร่วมในการผลิต เพื่อให้สามารถต่อสู้กับเทคโนโลยีของรถค่ายอื่นๆ ได้ และยังเชื่ออีกด้วยว่า ผู้ผลิตรถยนต์ยินดีที่จะเปิดกว้าง รับเอาเทคโนโลยีของค่ายใดก็ได้ ที่จะสามารถทำให้รถยนต์ของตนเองจำหน่ายได้ในอนาคต ค่ายรถยนต์มากมาย ที่มีแผนงานในการพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟฟ้า อาทิ Audi e-tron Quattro, Porsche Mission E, Mini Hatchback, BMW X3 รวมถึง EQ บแรนด์น้องใหม่ของ Mercedes-Benz, Tesla Model Y ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี หรือ Volvo โดยแต่ละค่ายต่างก็เตรียมนำเสนอรถยนต์ไฮบริด, ไฮบริด-ไฟฟ้า หรือรถไฟฟ้า โดยเฉพาะ