บริดจ์สโตน คอร์พอเรชัน ประกาศความพร้อมเป็นผู้สนับสนุนหลัก การแข่งขันรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ในรายการ "2019 Bridgestone World Solar Challenge" สุดยอดรายการแข่งขันระดับโลกที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการขับเคลื่อน สานต่อเจตนารมณ์ของบริษัทในด้านการคิดค้นเทคโนโลยีและพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การแข่งขัน "Bridgestone World Solar Challenge" ณ ประเทศออสเตรเลีย ถูกจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 15 รวมระยะเวลา 31 ปี นับตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา โดยผู้เข้าแข่งขันจะเริ่มออกตัวจากจุดสตาร์ทที่เมือง Darwin ทางตอนเหนือของประเทศ เพื่อเข้าสู่เส้นชัยที่เมือง Adelaide ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย ระยะทางรวม 3,000 กิโลเมตร ซึ่งเฉลี่ยใช้เวลาในการแข่งขันรวม 5 วัน โดยการแข่งขันครั้งที่ 15 นี้ จะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 13-20 ตุลาคม 2562
สำหรับการแข่งขันในครั้งที่ผ่านมา ทีมจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นซิดนีย์สามารถคว้าแชมพ์ไปได้ ก่อนจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ "American Solar Challenge" ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัยในระดับนานาชาติ ที่ผู้เข้าร่วมจะต้องขับรถที่ออกแบบให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เคลื่อนผ่าน 4 รัฐของสหรัฐอเมริกา เริ่มจากจุดสตาร์ทที่รัฐเนแบรสกา ก่อนเข้าสู่เส้นชัยที่รัฐโอเรกอน ระยะทางรวม 2,800กิโลเมตร ซึ่งการแข่งขันนอกประเทศนี้เอง บริดจ์สโตน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของทีมมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นซิดนีย์ ได้ออกแบบยาง O-Logic ยางในตระกูล Bridgestone Ecopia ขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อใช้ในการแข่งขันโดยเฉพาะ ส่งผลให้ทีมจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นซิดนีย์ ได้รับชัยชนะจากรายการ "American Solar Challenge" ไปอย่างน่าประทับใจ เนื่องจากเป็นทีมแรกของประเทศออสเตรเลียที่ชนะการแข่งขันในสนามนี้
Michael Walsh หัวหน้าภาควิชา Computing, Engineering and Mathematics มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นซิดนีย์ กล่าวว่า ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ที่สมาชิกทุกคนในทีมร่วมแรงทุ่มเท และพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์มาด้วยกัน โดยนำประสบการณ์จากการแข่งขัน "2017 Bridgestone World Solar Challenge" มาช่วยต่อยอดองค์ความรู้ในการตรวจสอบและดูแลสภาพรถยนต์ให้สามารถทำความเร็วได้ต่อเนื่องซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และหลังจากนี้ ทีมงานทุกคนจะเดินทางกลับประเทศออสเตรเลีย เพื่อเตรียมพัฒนาและออกแบบรถพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อใช้รักษาแชมพ์ในการแข่งขัน "Bridgestone World Solar Challenge" ที่จะมาถึงในปี 2562 ด้วย
บทความแนะนำ