กรมการขนส่งทางบก เผยไตรมาสแรกของปีงบประมาณ พศ. 2562 (เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2561) จัดเก็บภาษีรถประจำปีในเขตกรุงเทพมหานครได้กว่า 1,947 ล้านบาท โดยพบว่าที่สำนักงานของกรมการขนส่งทางบกประชาชนยังคงนิยมใช้บริการสูงสุด มุ่งพัฒนางานด้านบริการพร้อมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างมีมาตรฐาน
พีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ผลการรับชำระภาษีรถประจำปีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ในเขตกรุงเทพมหานคร ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ พศ. 2562 (ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2561) ผ่านช่องทางต่างๆ มีผู้ใช้บริการชำระภาษีรถรวมทั้งสิ้น 1,373,320 คัน สามารถจัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 1,947,706,047.21 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็น 2.92 % โดยพบว่าที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 ยังคงมีผู้ใช้บริการชำระภาษีรถสูงสุด รวมจำนวน 1,003,279 คัน จัดเก็บภาษีรถได้ทั้งสิ้น 1,382,412,721.46 บาท รองลงมาเป็นการชำระภาษีผ่านช่องทาง “เลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax)” รวมจำนวน 170,664 คัน จัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 296,198,727.86 บาท และหน่วยเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปีตามโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)” ที่ห้างสรรพสินค้าบิกซีในวันเสาร์-อาทิตย์ 14 สาขา ได้แก่ สาขาลาดพร้าว รามอินทรา รัชดาภิเษก บางปะกอก เพชรเกษม สุขาภิบาล 3 อ่อนนุช แจ้งวัฒนะ สำโรง บางบอน สุวินทวงศ์ สมุทรปราการ บางใหญ่ และบางนา มีผู้มาชำระภาษีรถรวมทั้งสิ้น 107,713 คัน จัดเก็บภาษีได้ 151,981,997.57 บาท ด้านระบบรับชำระภาษีประจำปีผ่านอินเตอร์เนทที่เวบไซท์ https://eservice.dlt.go.th มีผู้ใช้บริการชำระภาษีรถ รวมจำนวน 46,078 คัน จัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 63,466,371.21 บาท ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิศมีผู้ใช้บริการจำนวน 21,572 คัน จัดเก็บภาษีรถได้ 23,423,486 บาท และที่ศูนย์บริการร่วมคมนาคมเชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-15.00 น. มีผู้มาชำระภาษีรถรวมจำนวน 21,067 คัน จัดเก็บภาษีได้ทั้งสิ้น 25,910,167.18 บาท ผ่านช่องทางรับชำระภาษีรถที่ไปรษณีย์ จัดเก็บภาษีรถได้ 3,362,937.07 บาท และที่ระบบออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือ สามารถจัดเก็บภาษีรถรวมทั้งสิ้น 1,1714,285.99 บาท
สำหรับการชำระภาษีรถประจำปี เจ้าของรถสามารถดำเนินการได้ล่วงหน้าก่อนครบกำหนด 90 วัน และต้องเป็นรถที่ไม่ค้างชำระภาษีรถเกินกว่า 1 ปี และต้องมีกรมธรรม์ประกันภัยตาม พรบ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถที่มีระยะเวลาคุ้มครองคงเหลือไม่น้อยกว่า 3 เดือน สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปี ต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) โดยประชาชนสามารถเลือกใช้บริการรับชำระภาษีรถประจำได้ตามช่องทางที่เปิดให้บริการ ทั้งที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ หน่วยบริการรับชำระภาษีรถเคลื่อนที่ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)” ที่ห้างสรรพสินค้าบิกซี ทั้ง 14 สาขา ในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ และศูนย์บริการร่วม G-point (เซนทรัลเวิร์ล์ด, เซนทรัลศาลายา, เซนทรัลเวสต์เกท) ช่องทาง “เลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax)” ชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถ ที่ศูนย์บริการร่วมคมนาคมเชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-15.00 น. และผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ที่เวบไซท์ https://eservice.dlt.go.th ของกรมการขนส่งทางบก หรือผ่านแอพพลิเคชัน Truemoney Wallet และ mPAY บนโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่ายสัญญาณ รวมถึงผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิศ และเคาน์เตอร์ไปรษณีย์ไทย
บทความแนะนำ