โค้งอันตราย
กราฟโดยรวมยังไม่ลง
หลังจากขายกันมาอย่างสนุกสนาน ก็มาถึงคราวที่ยอดขายรถยนต์จะลดลงบ้าง 2.1 % ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 30 เดือน ด้วยผลพวงจากการเข้มงวดของสถาบันการเงิน รวมทั้งตัวเลขฐานของปีก่อนที่สูงมาก ทำตัวเลขขายเดือนเดียวได้เพียง 86,048 คัน เท่านั้นแต่พอหันกลับมามองในภาพโดยรวม 6 เดือนแรกของปี ตลาดเจริญเติบโตขึ้น 7.1 % ทั้งที่เมื่อตอนต้นปี ค่ายรถยนต์ต่างพากันมองโลกในแง่ดี คาดว่าจะโตขึ้นไม่มากเท่าใดนัก ขายกันได้ 523,770 คัน ทำให้ค่ายยักษ์ใหญ่ ถึงกับออกมาประกาศชัดเจนว่า ปีนี้อย่างไรก็ขายกันได้ล้านคันแน่นอน “ตลาดรถยนต์โดยรวมในครึ่งปีแรกเติบโตมากกว่าที่เคยคาดไว้ สืบเนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ปรับลดลงในรอบ 30 เดือน เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน อาจส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ในครึ่งปีหลัง ดังนั้นเราจึงคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์โดยรวมในประเทศ จะเติบโตอยู่ในระดับ 1 ล้านคัน เช่นเดียวกับที่เราคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี และยังถือได้ว่าเป็นปีที่มียอดขายแตะระดับล้านคันเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน” คำยืนยันจากค่ายยักษ์ใหญ่ อย่างไรก็ถึงล้านคัน แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะผันผวน มาดูเรื่องที่บรรดานักข่าวน้องใหม่ ค่อนข้างจะเป็นกังวลกันมาก ที่ค่าย โตโยตา จะไปตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งอันที่จริง ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรเลย เพราะอุตสาหกรรมรถยนต์ของอินโดนีเซีย ยังตามหลังบ้านเราอยู่ค่อนข้างมาก ลองดูข่าวต่างประเทศสั้นๆ ที่ยกมาให้อ่านกันเล่นๆ The country is trying to replace Thailand as a regional hub for cars. Hartarto said in 2018 Indonesia produced 1.3 million cars and exported 346,000 units, below Thailand's 2.2 million car production and its 1.1 million exports. Indonesia plans to start processing its rich supplies of nickel laterite ore for use in lithium batteries to become a global hub for producing and exporting EVs to Asia and beyond. ย่อหน้าแรก ก็คือ เขาต้องการจะขึ้นแท่นเป็นศูนย์การผลิตรถยนต์ให้ได้ แม้ว่าตัวเลขยังจะตามหลังบ้านเราอยู่อีกค่อนข้างมากทีเดียว นี่ยกมาแค่ตัวเลขเพียงปีเดียวเท่านั้น ส่วนย่อหน้าที่ 2 ต้องไม่ลืมข้อแม้อีกอย่างหนึ่งว่า ประเทศอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่เป็นเกาะอยู่ในทะเล ทั้งในอดีตก็เป็นแหล่งภูเขาไฟมากมายที่ดับแล้ว ปัจจุบัน ภูเขาไฟที่ดับแล้ว คือ แหล่งผลิตวัตถุดิบเพื่อการผลิตชุดแบทเตอรีชั้นดี เจ้า Nickel Laterite Ore ในข่าวนี่แหละ ที่เป็นตัวเชื้อเชิญให้ค่ายยักษ์ใหญ่ เข้าไปตั้งฐานการผลิตรถไฟฟ้า ที่นั่น เก็บเอามาให้เป็นความรู้สำหรับน้องใหม่ในวงการ จะได้ไม่ต้องตั้งคำถามเรื่องนี้ให้หนวกหูอีกนะจ๊ะ อ้อ ค่าย โตโยตา เพิ่งประกาศเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตชุดแบทเตอรี ยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของ จีน ซีเอทีแอล พออีกวันหนึ่ง ก็ประกาศเป็นพันธมิตรกับ บีวายดี ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีน ส่วนบ้านเรา ก็เริ่มต้นการผลิตชุดแบทเตอรีกันไปแล้ว ทุกอย่างทำกันแบบเปิดเผย ไม่ปิดบังแต่ประการใด อีกสัก 10 ปี คงไม่ต้องถามว่า รถไฟฟ้าของ โตโยตา มีรุ่นอะไรบ้าง นะจ๊ะ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับคณะรัฐบาลชุดใหม่นี้ น่าจะเป็นเรื่องของ ภัยแล้งนอกฤดูกาลปี 2562 กระทบผลผลิตข้าวนาปี...คาดมูลค่าความสูญเสียเกิดขึ้นแล้วไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท แม้ว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2562 ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา แต่โดยภาพรวมแล้วปริมาณน้ำฝนก็ยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากอิทธิพลของปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังอ่อน (Weak El Nino) ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งประเทศยังคงสูงกว่าค่าปกติราว 1-2 องศาเซลเซียส และทำให้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วงราว 2 เดือน ในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2562 นับเป็นสถานการณ์ภัยแล้งนอกฤดูกาล (ภัยแล้งช่วงหน้าฝน) ส่งผลต่อปริมาณน้ำฝนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึง 10 % และทำให้ระดับน้ำในเขื่อนอยู่ในระดับต่ำ พิจารณาได้จากปริมาตรน้ำใช้การได้ในเขื่อนของไทยแยกตามรายภาค ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2562 มีปริมาตรน้ำใช้การได้ในเขื่อนทั้งประเทศลดลง 48.5 % โดยเฉพาะในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ในขั้นวิกฤติ กระทบต่อการขาดแคลนน้ำเพื่อใช้ในการเกษตร นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า สถานการณ์ภัยแล้งนอกฤดูดังกล่าว จะเป็นภาวะแห้งแล้งเช่นนี้ที่มีฝนทิ้งช่วงและภาวะฝนน้อยน้ำน้อยไปจนถึงสิ้นปี 2562 อีกด้วย สิ่งที่น่าเป็นห่วงในช่วงครึ่งปีหลัง เรื่องใหญ่สุดก็คือ จะส่งผลกระทบค่อนข้างมากต่อคนในพื้นที่ และจะยิ่งเป็นการฉุดกำลังซื้อครัวเรือนภาคเกษตร การมีงานทำ รวมทั้งปัญหาในภาคธุรกิจ SMEs ถ้าเกษตรกรไม่มีรายได้เข้ามา แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย จับตาเรื่องนี้กันดีๆ ก็แล้วกัน ครม. ชุดใหม่จะแก้ไหวหรือเปล่า น่าเป็นห่วงจัง
เรื่องโดย : มือบ๊วย
คอลัมน์ Online : โค้งอันตราย (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/287506