ธุรกิจ
กรมการขนส่งทางบก แนะชำระภาษีรถล่วงหน้า 90 วัน

กรมการขนส่งทางบก แนะประชาชนเลือกชำระภาษีรถล่วงหน้า 90 วัน ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ผ่านระบบอินเตอร์เนท เน้นสะดวก รวดเร็ว หรือเลือกใช้ช่องทางการให้บริการที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ หรือจุดให้บริการ และห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์-อาทิตย์
จันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกพัฒนาการให้บริการ รับชำระภาษีรถประจำปี เพื่อสร้างมาตรฐานคุณภาพการบริการภาครัฐที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างเท่าเทียม ได้หลากหลายช่องทาง เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีได้ล่วงหน้า ซึ่งดำเนินการได้ก่อนครบอายุภาษี 90 วัน ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีส่วนสำคัญในการลดขั้นตอน ลดระยะเวลา เน้นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเลือกชำระภาษีรถประจำปี ผ่านอินเตอร์เนทที่เวบไซท์ https://eservice.dlt.go.th/ จากนั้นเลือกชำระเงินผ่าน e-Banking บัตรเครดิท/บัตรเดบิท เคาน์เตอร์ธนาคาร/สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ/เคาน์เตอร์เซอร์วิส ร้านสะดวกซื้อเซเวนอีเลเวน ทุกสาขาทั่วประเทศ/เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ไทย Truemoney Wallet และรอรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีที่จัดส่งให้ทางไปรษณีย์ หรือเลือกช่องทางการชำระภาษีรถประจำปีแบบ One Stop Service ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วไทย และบริการ “เลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax)” ขับรถผ่านช่องทางรับชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ หรือหน่วยบริการรับชำระภาษีรถเคลื่อนที่ ในวันเสาร์-อาทิตย์ “ชอพให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)” ที่ห้างสรรพสินค้าบิกซีทั้ง 14 สาขา ได้แก่ สาขาลาดพร้าว รามอินทรา รัชดาภิเษก บางปะกอก สำโรง (ปู่เจ้า) บางนา อ่อนนุช เพชรเกษม สุขาภิบาล 3 บางบอน สุวินทวงศ์ แจ้งวัฒนะ บางใหญ่ สมุทรปราการ ศูนย์บริการร่วม G-point (เซนทรัลเวิร์ลด์, เซนทรัลศาลายา, เซนทรัล Westgate) ที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ และที่ศูนย์บริการร่วมคมนาคมเชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ในวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30–15.00 น. ซึ่งเป็นช่องทางการรับชำระภาษีรถประจำปีที่กรมการขนส่งทางบกตอบโจทย์ประชาชนเพื่อการเข้าถึงทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม
สำหรับสัดส่วนการชำระภาษีรถประจำปีของประชาชนในกรุงเทพมหานคร เฉพาะเดือนกรกฎาคม 2562 ปรากฏว่าประชาชนยังคงนิยมการใช้บริการชำระภาษี ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 มากที่สุด จำนวน 396,393 คัน จัดเก็บภาษีรถประจำปีได้ 556,838,267.99 บาท รองลงมา คือ การชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทาง “เลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax)” ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงาน 58,385 คัน จัดเก็บภาษีได้ 102,518,551.71 บาท ส่วนการให้บริการที่หน่วยเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปี ในวันเสาร์-อาทิตย์ ตามโครงการ “ชอพให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)” ที่ห้างสรรพสินค้า มีผู้มาชำระภาษีรถประจำปีจำนวน 39,654 คัน จัดเก็บภาษีได้ 54,988,369.58 บาท และการชำระภาษีรถทางระบบอินเตอร์เนท ได้รับความนิยมรองลงมาเป็นอันดับที่ 4 มีประชาชนใช้บริการจำนวน 17,418 คัน จัดเก็บภาษีได้ 25,318,213.00 บาท