กรมการขนส่งทางบก เผยกรณีหยุดใช้รถ เลิกใช้รถ หรือรถชำรุดสูญหาย เป็นเหตุให้รถใช้งานไม่ได้ทุกกรณี ต้องแจ้งการไม่ใช้รถ ณ สำนักงานขนส่งที่รถนั้นจดทะเบียนอยู่ หากรถค้างภาษีเกิน 3 ปี ทะเบียนจะถูกระงับทันที
จันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบก อำนวยความสะดวกให้เจ้าของรถสามารถชำระภาษีรถได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีช่องทางให้เลือกใช้บริการหลายช่องทาง ซึ่งดำเนินการได้ก่อนครบอายุภาษี 90 วัน แต่ปรากฏว่ายังมีเจ้าของรถบางรายที่ไม่ได้มาติดต่อชำระภาษีรถประจำปี และไม่ได้ดำเนินการแจ้งไม่ใช้รถกับนายทะเบียน เนื่องจากเข้าใจผิดว่ารถที่สูญหาย ชำรุด หรือเลิกใช้แล้วไม่ต้องชำระภาษีแล้ว ซึ่งความเป็นจริงเจ้าของรถจะต้องมาติดต่อขอแจ้งการไม่ใช้รถต่อนายทะเบียน ณ สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้ หากไม่มาติดต่อดำเนินการจะต้องชำระภาษีและค่าปรับ และหากเป็นการค้างชำระภาษีรถเกิน 3 ปี ทะเบียนจะถูกระงับทันที หากมีความประสงค์ใช้รถดังกล่าวต่อไปจะต้องดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนรถใหม่เท่านั้น โดยต้องชำระภาษีประจำปีย้อนหลังพร้อมเงินค่าปรับเพิ่มและคืนแผ่นป้ายทะเบียนเดิมก่อนเข้าสู่กระบวนการจดทะเบียนรถใหม่ ดังนั้น หากเจ้าของรถรายใดมีความจำเป็นต้องหยุดใช้รถ ขอให้ติดต่อแจ้งการไม่ใช้รถ ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ ใช้หลักฐานคู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แผ่นป้ายทะเบียนรถ และแบบคำขอแจ้งการไม่ใช้รถ และเมื่อเจ้าของรถมีความประสงค์ขอใช้รถต่อ ก็สามารถดำเนินการแจ้งใช้รถดังกล่าวได้ โดยใช้หลักฐานคู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แผ่นป้ายทะเบียนรถ แบบคำขอแจ้งใช้รถที่แจ้งไม่ใช้รถไว้ และหลักฐาน พรบ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
สำหรับสัดส่วนการชำระภาษีรถประจำปีของประชาชนในกรุงเทพมหานคร เฉพาะเดือนสิงหาคม 2562 ประชาชนยังคงนิยมการใช้บริการชำระภาษี ณ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 มากที่สุด จำนวน 4,181,013 คัน จัดเก็บภาษีรถประจำปีได้ 5,848,457,875.58 บาท รองลงมา คือ การชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทาง “เลื่อนล้อ ต่อภาษี (Drive Thru for Tax)” ขับรถผ่านช่องทาง รับชำระภาษีโดยไม่ต้องลงจากรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ 628,259 คัน จัดเก็บภาษีได้ 1,120,020,921.71 บาท ส่วนการให้บริการที่หน่วยเคลื่อนที่รับชำระภาษีรถประจำปี ในวันเสาร์-อาทิตย์ ตามโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)” ที่ห้างสรรพสินค้าบิกซีทั้ง 14 สาขา ได้แก่ สาขาลาดพร้าว รามอินทรา รัชดาภิเษก บางปะกอก สำโรง (ปู่เจ้า) บางนา อ่อนนุช เพชรเกษม สุขาภิบาล 3 บางบอน สุวินทวงศ์ แจ้งวัฒนะ บางใหญ่ สมุทรปราการ และที่ศูนย์บริการร่วม G-point (เซนทรัลเวิร์ลด์, เซนทรัลศาลายา, เซนทรัลเวสต์เกท) ที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค ศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ มีผู้มาชำระภาษีรถประจำปีจำนวน 477,048 คัน จัดเก็บภาษีได้ 672,692,460.17 บาท และการชำระภาษีรถทางระบบอินเตอร์เนท ที่เวบไซท์ https://eservice.dlt.go.th/ได้รับความนิยมรองลงมาเป็นอันดับที่ 4 มีประชาชนใช้บริการจำนวน 198,131 คัน จัดเก็บภาษีได้ 282,909,334.00 บาท