ไม่นานมานี้ กรมการขนส่งทางบกได้เปิดให้ผู้สนใจขอรับใบขับขี่ สามารถจองคิวอบรมผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวก ประหยัดเวลา และลดขั้นตอนที่ล่าช้า อย่างไรก็ตามผู้ใช้รถเองจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมเมื่อใบขับขี่ใกล้หมดอายุ เพื่อไม่ให้เกิดการขาดต่อใบขับขี่ ซึ่งจะทำให้มีผลต่อการกระทำผิดตาม พรบ. รถยนต์ พศ. 2522 มาตรา 64คุณสมบัติผู้ขอรับใบขับขี่แบบ 5 ปี 1. ได้รับใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ใบขับขี่รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลชั่วคราว มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี 2. มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 46 ดังนี้ - มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ - มีความรู้ความสามารถในการขับรถ - มีความรู้ในข้อบังคับการเดินรถตามพระราชบัญญัติรถยนต์ และตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก - ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการจนเป็นที่เห็นได้ว่าไม่สามารถขับรถได้ - ไม่มีโรคประจำตัวที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ - ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน - ไม่มีใบขับขี่รถชนิดเดียวกันอยู่แล้ว - ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกยึดหรือเพิกถอนใบขับขี่ 3. ไม่เคยต้องคำพิพากษาสูงสุดให้ลงโทษ หรือถูกเจ้าพนักงานเปรียบเทียบปรับตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป (เว้นแต่พ้นโทษครั้งสุดท้าย ไม่น้อยกว่า 6 เดือน) ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่ออายุภายในกี่วัน 1. ใบขับขี่หมดอายุหากไม่เกิน 1 ปี เช่น ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1-3 เดือน ไม่เกิน 1 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์สามารถต่อใบขับขี่ได้เลย ไม่ต้องสอบข้อเขียน หรือสอบปฏิบัติใหม่ เพียงทดสอบสมรรถภาพร่างกาย และอาจมีการอบรมต่อใบขับขี่ 2. ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ทั้งหมด โดยต้องทำให้ถูกต้องจำนวน 45 ข้อขึ้นไป ถึงจะผ่านเกณฑ์ของ กรมการขนส่งทางบก แต่ไม่ต้องสอบปฏิบัติใหม่ 3. ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปีขึ้นไป เช่น ใบขับขี่หมดอายุ 4 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องสอบทั้งข้อเขียน และสอบภาคปฏิบัติเหมือนกับตอนที่ทำใบขับขี่ครั้งแรก ได้แก่ จอดรถตรงจุด, ถอยรถเข้าซอง (หักพวงมาลัยไม่เกิน 7 ครั้ง), ทางเทียบขนานทางเท้า เตรียมพร้อมเอกสาร ต่อใบขับขี่ -ใบขับขี่เดิม หรือใบแทน -บัตรประชาชนฉบับจริง พร้อมสำเนา -ใบรับรองแพทย์ ไม่เกิน 1 เดือน ขั้นตอนต่อใบขับขี่ 1. ผู้ที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่ จะต้องตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอ 2. ผู้ขับขี่ต้องทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ดังนี้ ทดสอบการมองเห็นสี (สีแดง เขียว เหลือง), ทดสอบสายตาทางลึก, ทดสอบสายตาทางกว้าง, ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ในการใช้เบรคเท้า) 3. อบรมเกี่ยวกับการขับขี่อย่างปลอดภัย ข้อบังคับ กฎจราจรที่ควรรู้ และมารยาทในการขับขี่ 1 ชั่วโมง 4. ชำระค่าธรรมเนียม/ถ่ายรูปพิมพ์ใบขับขี่ และรับใบขับขี่ จองทำใบขับขี่ออนไลน์ง่ายๆ เพียง 5 นาที ผู้ใช้รถสามารถจองคิวผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อความสะดวก และประหยัดเวลา เพียงเข้าเวบไซท์ของกรมการขนส่งทางบก https://ebooking.dlt.go.th/ebooking/ โดยระบบจองคิวอบรมขอรับใบขับขี่ออนไลน์ จะเปิดให้สำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถ ดังนี้ ใบอนุญาตขับรถใหม่, ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราว, ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลขาดต่อเกิน 1 ปี และใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลขาดต่อเกิน 3 ปี