วิมัล ซัมบลีย์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค รอยัล เอนฟีลด์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญเป็นอันดับแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เพราะนับตั้งแต่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ปี 2559 ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 5,000 คนบนท้องถนน ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า บริษัทฯ วางแผนขยายตัวแทนจำหน่าย 25 แห่ง ภายในปี 2563 ปีนี้ขยายสาขาแล้ว 15 แห่ง โดยสาขาแห่งใหม่ที่เปิดตัว ได้แก่ พระราม 5 พระราม 2 หาดใหญ่ ลพบุรี นครปฐม พัทยา ภูเก็ต และพิษณุโลก
นอกจากจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ และสินค้าต่างๆ อย่างครบครันแล้ว สโตร์ทุกแห่งยังทำหน้าที่เป็นเหมือนศูนย์กลางเพื่อให้ผู้หลงใหลในการขับขี่ทุกคนพบปะพูดคุย รวมถึงร่วมกิจกรรมการขับขี่ และกิจกรรมอื่นๆ ตลอดจนเป็นจุดบริการรถมอเตอร์ไซค์เต็มรูปแบบ โดยการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการเหล่านี้แก่ลูกค้า สะท้อนปรัชญาของบแรนด์ในการสร้าง “การขับขี่ที่แท้จริง” หรือ “Pure Motorcycling”
"รอยัล เอนฟีลด์ ใช้เวลา 3 ปีแรกทำความเข้าใจตลาดประเทศไทยอย่างถ่องแท้ และไม่เคยหยุดเรียนรู้ โดยความเข้าใจดังกล่าวทำให้มั่นใจต่อกลยุทธ์การขยายเครือข่ายในปี 2562 ทั้งนี้ การเพิ่มผู้จัดจำหน่ายรายใหม่ทั้ง 8 ราย สอดคล้องกับการเติบโตของตลาดประเทศไทย โดยเลือกผู้จัดจำหน่าย ผ่านการคำนึงปัจจัยหลายประการ ทั้งจังหวัด ทำเลที่ตั้ง ความสนใจ และความหลงใหลต่อบแรนด์ รอยัล เอนฟีลด์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สำคัญมากต่อการสร้างการรับรู้ และการเข้าถึงของบแรนด์ รวมถึงบริการหลังการขายแบบมืออาชีพแก่กลุ่มลูกค้าปัจจุบันให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ รอยัล เอนฟีลด์ ให้ความสำคัญมากที่สุด”
สำหรับยอดขาย ปี 2562 นับว่าประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เติบโตกว่า 84 % นับตั้งแต่เดือน มค.-ตค. โดยมอเตอร์ไซค์สูบคู่ทวินทั้ง อินเตอร์เซพเตอร์ 650 และคอนทิเนนทัล จีที 650 สามารถทำยอดขายกว่า 1,800 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่ง เนื่องจากตลาดรถจักรยานยนต์ช่วง มค.-ตค. ลดลง 2.9% แต่รถจกรยานยน์ขนาดกลาง (250-750 ซีซี) เติบโตเพิ่มขึ้น 12.5% ส่งผลให้ รอยัล เอนฟิลด์ เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย รอยัล เอนฟิลด์ ตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง