จากกระแสการระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง COVID-19 ที่กำลังเจอกันอยู่ทั่วทุกหัวระแหง ไตรมาสแรกที่ผ่านมา มกราคม-มีนาคม 2563 ทำให้ยอดการขายรถยนต์ทั่วโลก ทุกยี่ห้อ ต่างพากันหดตัวลงอย่างมากโดยทั่วหน้ากัน เรามาลองดูว่า ใครขายกันได้มากน้อยขนาดไหนสมาคมอุตสาหกรรม ประเมินเมื่อต้นปีว่า ยอดขายรถยนต์ในอังกฤษ ปีนี้ จะหดตัวลง 2.5 % เหลือ 2.25 ล้านคัน แต่นั่นเป็นการประเมินก่อนเกิดวิกฤติการณ์จาก COVID-19 ประเทศอังกฤษ ข้อมูลจากด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ระบุว่า ยอดจดทะเบียนรถใหม่ลดลงไป 44 % ในเดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียว ขณะที่เพียงเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นเดือนที่เคยขายได้มากที่สุด 2 เดือนใน 1 ปี ขายกันทุกยี่ห้อได้เพียง 254,684 คัน ทั้งที่โดยปกติแล้ว ในเดือนมีนาคม ปีที่แล้ว เป็นเดือนที่มียอดขายถึง 20 % ของยอดขายทั้งปีในอังกฤษ เช่นเดียวกับประเทศเยอรมนี ที่เคยเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคยุโรป เดือนมีนาคม ยอดขายก็ลดลง 38 % ขายได้ 215,119 คัน โดยผู้นำในตลาด Volkswagen ยอดขายลดลง 35 %, อันดับ 2 Mercedes-Benz ยอดขายลดลง 28 %, อันดับ 3 BMW ยอดขายลดลง 21 % ขณะที่ Mini ยอดขายลดลง 23 % ขาย 64,449 คัน สำหรับรถหรู Rolls-Royce ยอดขายลดลง 27 % เหลือเพียง 853 คัน แต่ในทางกลับกัน ยอดขายของรถไฟฟ้า ไตรมาสแรก กลับเพิ่ม 14 % เป็น 30,692 คัน ส่วนประเทศฝรั่งเศส ยอดขายลดลง 72 % เพราะรัฐบาลสั่งการให้ผู้จำหน่าย ต้องปิดตัวในช่วงกลางเดือน เพื่อป้องกันการระบาดของ COVID-19 สำหรับประเทศอิตาลี ที่ถูกโรคระบาดเล่นงานหนักที่สุด ยอดขายตกลงไป 85 % และจากนั้นตลาดก็เงียบสงบ ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เพราะการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัส ในประเทศสเปน ก็เช่นกัน เมื่อต้องปิดเมืองเพราะป้องกันการระบาด ยอดขายลดลงไป 69 % ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อตอนต้นปี มีการประเมินว่า ปีนี้จะมียอดขายรถยนต์มากกว่า 17 ล้านคัน สูงขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 5 แต่พอโดนโรคระบาด COVID-19 เดือนมีนาคมเดือนเดียว ยอดขายตกลง 50-60 % โดยยอดที่ลดลงแน่นอน จะทราบต่อเมื่อทุกค่ายรายงานยอดการขายเรียบร้อยแล้ว ค่าย General Motors ยอดขายลดลง 7 %, FCA ยอดขายลดลง 10 % และ Ford ยอดขายลดลง 12.5 % ส่วน Mini ยอดขายลดลง 35 %, Nissan ยอดขายลดลง 30 % แต่จากการตั้งรับกับโรคระบาด ที่แม้จะเป็นประเทศใหญ่ แต่ผู้คนก็ไม่ให้ความสำคัญกับการป้องกันตัวเองจากโรคระบาดเท่าใดนัก ประเมินกันว่า ในไตรมาสที่ 2 ยอดขายจะยิ่งลดลงมากกว่าไตรมาสแรกแน่นอน ข้ามมาทางประเทศออสเตรเลีย ในเดือนมีนาคม ที่โรคระบาดเริ่มกระจายทั่วประเทศ ยอดขายรถยนต์ทุกประเภท ลดลงไป 17.9 % ขายได้ 81,690 คัน แต่ก็ยังสูงกว่า เดือนมกราคม ที่ขายได้ 71,731 คัน และเดือนกุมภาพันธ์ ขายได้ 79,940 คัน ทั้งนี้เพราะเหตุการณ์จากไฟป่าที่เผาผลาญกันแทบจะทั่วประเทศ ด้านประเทศจีน ในไตรมาสแรก ที่ประสบปัญหาเป็นแหล่งเริ่มต้นของ COVID-19 และมีการปิดเมืองเป็นบางเมือง รวมทั้งมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้มากกว่า 3,300 ราย ทำให้ยอดขายในเดือนมกราคม ลดลง 19 % ถัดมาเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 79 % หลังจากจัดการกับโรคระบาดเรียบร้อย และเริ่มค่อยๆ เปิดเมือง สายการผลิตรถยนต์ก็ค่อยๆ เริ่มทำงาน ยอดการขายรถยนต์ ก็ค่อยๆ เริ่มมีเพิ่มขึ้นบ้าง ในไตรมาสแรก ค่าย General Motors ยอดขายลดลงไปถึง 43 % เหลือ 461,716 คัน ขณะที่ยี่ห้อในเครือ อย่าง Chevrolet ตกลงไป 55 % รถระดับหรู Cadillac ตกลงไป 40 % ยอดขายของ Volvo ไตรมาสแรก ลดลงไป 31 % เหลือ 29,885 คัน ขณะที่ในเดือนกุมภาพันธ์ ยอดขายดำดิ่งเหลือเพียง 1,205 คัน ตกลง 82 % แต่กระเตื้องกลับมาในเดือนมีนาคม 16% เพียง 11,413 คัน ก็ได้แต่หวังว่า ในไตรมาสที่ 2 นี้ การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะหมดสิ้นลงไป เพื่อที่จะให้เศรษฐกิจกลับมากระเตื้อง และกลไกต่างๆ ทำงานได้ตามปกติเสียที