MINI Thailand (มีนี ประเทศไทย) เริ่มการส่งมอบ MINI Cooper SE (มีนี คูเพอร์ เอสอี) รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกจาก MINI ให้แก่ลูกค้าท่านแรกในประเทศไทย ให้ลูกค้าได้สัมผัสไลฟ์สไตล์แบบใหม่แห่งการขับขี่ในตัวเมือง ด้วยพลังงานสะอาดในเอกลักษณ์การขับขี่ที่สนุกสนานในสไตล์ MINI พร้อมเสริมวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่สะอาด และปลอดมลพิษของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการเดินหน้าขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ ChargeNow อย่างต่อเนื่อง
อเลกซันเดร์ บาราคา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า MINI Cooper SE ซึ่งเปิดตัวในไทยเป็นประเทศแรกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ไปเมื่อไม่นานมานี้ ได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้นจากแฟนๆ MINI ทั่วประเทศ โดย MINI Thailand ยังได้ทำสถิติครั้งประวัติการณ์กับยอดจองรถยนต์ MINI Cooper SE ทั้ง 25 คัน หมดภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที ผ่านช่องทางออนไลน์ แสดงให้เห็นถึงความสนใจในการครอบครองยานยนต์ไฟฟ้าที่มากขึ้นของลูกค้าชาวไทย เราจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมอบรถยนต์ MINI ไฟฟ้าครั้งแรก และนับเป็นอีกก้าวย่างสำคัญในการสานต่อนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตของไทยอีกด้วย
นดา จรรยาประเสริฐ เจ้าของ MINI Cooper SE คันแรกของประเทศไทย กล่าวว่า ด้วยความชื่นชอบในรถยนต์ MINI อยู่แล้ว ทั้งบแรนด์และสมรรถนะ และมีความสนใจในรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เมื่อทราบว่ามีการเปิดจอง MINI Cooper SE ผ่านทางออนไลน์ จึงได้เข้ามารอเพื่อร่วมจองก่อนเวลาเปิดจอง และดีใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในก้าวแรกร่วมกับ MINI ในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากการใช้รถยนต์ MINI ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100 % และมั่นใจว่ากระแสของการที่คนรุ่นใหม่จะหันมาใช้รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจะมีมากขึ้นแน่นอน
MINI Cooper SE เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100 % จาก MINI รุ่นแรก มาในดีไซจ์นแปลกใหม่สะกดทุกสายตาบนท้องถนน พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุดที่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้พัฒนาขึ้น สามารถส่งพละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า และด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจึงสามารถส่งแรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ได้ทันทีที่เท้าแตะคันเร่งแม้จากรถหยุดนิ่ง ส่งความเร็วจาก 0-60 กม./ชม. ได้ภายใน 3.9 วินาที มอบความแรงเร้าใจใน 60 ม. แรก ได้เทียบชั้นรถสปอร์ท และสามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.3 วินาที MINI Cooper SE ทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กม./ชม. และใช้พลังงานจากแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ในการวิ่งได้ระยะทางสูงสุดราว 217 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) ระบบส่งกำลัง และวงจรอีเลคทรอนิคส์ที่ควบคุมการจ่ายพลังงานไฟฟ้าไปยังระบบต่างๆ ของ MINI Cooper SE จะติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของรถในโครงสร้างรูปทรงท่อ ส่วนแบทเตอรีแรงดันสูงที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับ MINI Cooper SE โดยเฉพาะ ประกอบไปด้วยเซลล์แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน จำนวน 12 โมดูล ติดตั้งในรูปทรงตัว T บริเวณใต้รถ จุพลังงานไฟฟ้ารวม 32.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง
พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการขับเคลื่อน MINI Cooper SE สามารถชาร์จจากระบบโครงข่ายไฟฟ้าได้หลายรูปแบบ ทั้งจากปลั๊กไฟในบ้านโดยตรง (อุปกรณ์มาตรฐานของตัวรถ) จากเครื่องชาร์จ MINI Electric Wallbox และจากสถานีชาร์จสาธารณะ โดยสามารถรองรับหัวชาร์จทั้ง AC และ DC แบบ Type 2 และหัวชาร์จ CCS Combo 2 แบทเตอรีแรงดันสูงสามารถรองรับสายชาร์จทั้งแบบมาตรฐาน และสายชาร์จจาก MINI Electric Wallbox ที่รองรับกำลังไฟได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ ชาร์จถึง 80 % ภายใน 2.5 ชม. และชาร์จเต็ม 100 % ภายใน 3.5 ชม. ซึ่งลูกค้ายังสามารถเลือกใช้บริการติดตั้งเครื่องชาร์จ MINI Electric Wallbox ที่สามารถติดตั้งได้ทั้งในโรงรถ และบริเวณที่จอดรถที่มีหลังคา หรือเลือกใช้บริการจากสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ ChargeNow ซึ่งนับเป็นเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ ChargeNow เป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่าง บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย และบริษัท จีแอลที กรีน (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2560 เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมระบบสาธารณูปโภคของประเทศไทยสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน โดยได้เดินหน้าขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดที่เพิ่มมากขึ้น
ในปัจจุบัน สถานี ChargeNow มีให้บริการทั้งหมด 125 หัวจ่ายใน 59 สถานีทั่วประเทศไทย แบ่งออกเป็นที่สถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ ChargeNow 75 หัวจ่าย และที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของ BMW 50 หัวจ่าย และได้วางแผนในการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ ChargeNow ให้ครบ 100 หัวจ่ายภายในสิ้นปี 2563 นี้ ซึ่งเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้บริการ ChargeNow ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ยี่ห้อใด เพียงลงทะเบียนผ่านทาง LINE Official Account @chargenowthailand เพื่อรับสิทธิ์การชาร์จรถยนต์ที่สถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ ChargeNow ในศูนย์การค้า และโรงแรมชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงเมืองใหญ่ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย