Toyota Motor Corp. ประเทศญี่ปุ่น ในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี โดย Akio Toyoda ซีอีโอ ได้ยืนยันผลการดำเนินงานในช่วงโรคระบาดร้ายแรง COVID-19 สามารถทำกำไรได้ โดยอาศัยบทเรียนจากการตกต่ำทางเศรษฐกิจ ที่เคยประสบมาครั้งในอดีต นำมาประยุกต์ใช้งานในเหตุการณ์ปัจจุบันการดำเนินการในช่วงเกิดโรคระบาดร้ายแรง Yasuhiko Sato กรรมการฝ่ายขาย ชี้แจงว่า ได้ผ่อนคลายทางด้านสินเชื่อแก่ผู้บริโภค เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถมีเงินสดไว้ใช้ในมือ รวมทั้งการเสนอรูปแบบให้เช่าใช้ แทนการซื้อรถเพื่อเป็นเจ้าของ ซึ่งนับว่าได้ผลดีอย่างมาก แม้ว่าการเกิดโรคระบาดร้ายแรง COVID-19 ทำให้มีปัญหา ทั้งด้านการปิดสายการประกอบ รวมทั้งผู้จำหน่ายพากันปิดโชว์รูม ตามคำสั่งการปิดเมือง ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก และปัจจุบันนี้ จะสามารถกลับมาเปิดทำการได้แล้วก็ตาม บรรดาผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ ต่างพากันหาแหล่งเงินกู้ เงินเครดิท จากธนาคาร เพื่อพยุงธุรกิจ อันเนื่องมาจากไม่มีกระแสเงินสดเข้ามาเลย ตลอดระยะเวลาเกือบ 3 เดือน ซึ่งค่าย Toyota ก็ได้รับเงินสนับสนุนจากธนาคารเรียบร้อยแล้ว “ถ้าทำไม่ได้แล้ว เราก็จะไม่สามารถสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศนี้ได้” Akio Toyoda กล่าว และ “เราใช้บทเรียนจากการตกต่ำทางเศรษฐกิจครั้งในอดีต มาใช้ในการบริหาร ปัจจุบันนี้” Toyota ยืนยันแผนงานที่จะผลิตรถยนต์ในปีนี้ 3 ล้านคัน ภายในประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าจะหยุดสายการผลิตในโรงงานบางแห่ง ช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 ขณะที่ Toyota ระบุว่า ผลกำไรในปีนี้จะลดลงกว่า 80 % ตกต่ำที่สุดในช่วง 9 ปี การประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี ที่สำนักงานใหญ่ ใน Nagoya มีการใช้มาตรการทางสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส มีการตรวจวัดอุณหภูมิของผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน ติดตั้งแผ่นใสด้านหน้าของผู้บรรยาย และลดจำนวนที่นั่งลงเหลือเพียงราว 1 ใน 3 เท่านั้น เพื่อให้สามารถเว้นระยะห่างทางกายภาพโดยรวม ปีนี้มีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมราว 360 รายเท่านั้น ขณะที่เมื่อปีก่อนมีผู้เข้าร่วมประชุมถึง 5,500 คน ทำให้การเปิดประชุมต้องล่าช้าไปพอสมควร รวมทั้งการประชุมเสร็จสิ้นในเวลาเพียง 1 ชม. 20 นาที เป็นการประชุมผู้ถือหุ้นที่ใช้เวลาสั้นที่สุด นับแต่ปี 2543