Ford Motor Company (ฟอร์ด มอเตอร์ คัมพานี) เผย จิม แฮคเกทท์ (Jim Hackett) จะลงจากตำแหน่งประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หลังจากเป็นผู้นำในการปรับโฉมธุรกิจของบริษัทมาตั้งแต่ปี 2560 โดย จิม ฟาร์ลีย์ (James D. Farley) ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทน และเข้าร่วมคณะกรรมการบริหารบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้
แฮคเกทท์ วัย 65 ปี และฟาร์ลีย์ วัย 58 ปี จะทำงานร่วมงานกันในอีก 2 เดือนข้างหน้า เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารเป็นไปอย่างราบรื่น
Ford (ฟอร์ด) ภายใต้การนำของ แฮคเกทท์ ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการพัฒนายานยนต์อัจฉริยะ และมุ่งให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ปรับโครงสร้างการทำงาน ปรับแผนผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัย และลดขั้นตอนการทำงานให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
บิล ฟอร์ด ประธานบริหารของ Ford กล่าวว่า ผมขอขอบคุณ จิม แฮคเกทท์ เป็นอย่างมากสำหรับทุกอย่างที่เขาทำเพื่อปรับโฉมธุรกิจของ Ford ให้ทันสมัย รวมทั้งช่วยให้บริษัทฯ พร้อมสำหรับการแข่งขัน และประสบความสำเร็จในอนาคต วิสัยทัศน์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรามีความชัดเจนมากขึ้น ทั้ง Mustang Mach-E (มัสแตง มัค-อี) รถกระบะ F-150 (เอฟ-150) ใหม่ และรถในตระกูล Bronco (บรองโก) เรามีแผนงานสำหรับรถไฟฟ้าและยานพาหนะไร้คนขับ ตลอดจนการเชื่อมต่ออย่างเต็มรูปแบบ บริษัทฯ มีความคล่องตัวมากขึ้น เห็นได้ชัดจากการที่เราสามารถระดมกำลังได้อย่างรวดเร็วในการผลิตเครื่องมือ และอุปกรณ์ช่วยชีวิตเพื่อรับมือกับโรคระบาดตั้งแต่ระยะแรก
ฟาร์ลีย์ เป็นผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับโลก มีประวัติการทำงานที่ประสบความสำเร็จ และยังได้ทำงานร่วมกับ แฮคเกทท์ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาและนำแผนงาน Creating Tomorrow Together มาใช้ปรับโฉมธุรกิจของ Ford ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีกำไรมากขึ้น
บิล ฟอร์ด กล่าวอีกว่า จิม ฟาร์ลีย์ มีความรอบรู้ทั้งด้านยานยนต์ และการดูแลลูกค้า มีสัญชาตญาณดีเยี่ยมเกี่ยวกับการวางแผนงานเพื่ออนาคต และการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยานยนต์ จิมเป็นคนที่หลงใหลในยานยนต์ และเป็นที่รู้กันดีว่าเขามีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ ผมเองได้เห็นพัฒนาการของเขามาโดยตลอด ความมุ่งมั่นและการมองการณ์ไกลของเขาจะช่วยให้ Ford ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไปในอนาคต
ฟาร์ลีย์ เริ่มทำงานที่ Ford ในปี 2550 ในตำแหน่งประธานฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายระดับโลก จากนั้นจึงเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารบแรนด์รถยนต์ Lincoln (ลินคอล์น) ผู้บริหาร Ford ในทวีปอเมริกาใต้ Ford ยุโรป และตลาดนานาชาติ โดยเมื่อเดือนเมษายน ปี 2562 ฟาร์ลีย์ ได้เข้ารับตำแหน่งประธานฝ่ายธุรกิจใหม่ เทคโนโลยี และกลยุทธ์ของ Ford มีส่วนช่วยกำหนดทิศทาง และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการขับเคลื่อน และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการทำพแลทฟอร์มซอฟท์แวร์ ระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบอัตโนมัติ และการขับเคลื่อนรูปแบบใหม่ๆ โดยล่าสุด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ฟาร์ลีย์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Ford
ด้าน แฮคเกทท์ มีความมั่นใจว่าขณะนี้ คือ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการส่งมอบอำนาจบริหารต่อให้กับ จิม ฟาร์ลีย์ โดยตนเองจะดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษให้แก่ Ford จนถึงเดือนมีนาคม ปี 2564
แฮคเกทท์ กล่าวว่า เมื่อผมเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป้าหมายของผม คือ การเตรียม Ford ให้พร้อมที่จะคว้าชัยชนะในอนาคต ความท้าทายที่ยากที่สุดสำหรับบริษัทฯ ที่มีประวัติอันยาวนาน และน่าภูมิใจ คือ การปรับตัวเพื่อตอบโจทย์กับความท้าทายใหม่ๆ ที่โลกกำลังเผชิญ ผมภูมิใจกับแนวทางการทำงานที่พวกเราได้ช่วยกันปรับเปลี่ยนเพื่อสร้าง Ford ให้ทันสมัย และผมเชื่อมั่นในอนาคตของ Ford เป็นอย่างยิ่ง
“ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผมได้ทำงานร่วมกับ จิม ฟาร์ลีย์ อย่างใกล้ชิด ผมมีความมั่นใจในตัวของ ฟาร์ลีย์ และความสามารถในการเป็นผู้นำของเขา ฟาร์ลีย์ มีบทบาทสำคัญในการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ และปรับเปลี่ยนธุรกิจของ Ford ในตลาดทั่วโลก และยังมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการนำพา Ford ก้าวไปข้างหน้าด้วยการนำเสนอรถยนต์อัจฉริยะที่เหมาะสมกับโลกแห่งเทคโนโลยีอัจฉริยะ”
ฟาร์ลีย์ กล่าวว่า ผมรัก Ford และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสในการเข้ารับตำแหน่งเพื่อทำงานร่วมกับพนักงาน Ford ลูกค้า ผู้จำหน่าย ชุมชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน จิม แฮคเกทท์ ได้วางรากฐานที่แข็งแรงให้แก่บริษัทฯ เพื่ออนาคตที่สดใส และช่วยผลักดันการทำงานให้มีความคืบหน้าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำงานร่วมกับทีม Ford และผลักดันบริษัทฯ ให้เดินหน้าอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่เราคาดหวัง