ธุรกิจ
Great Wall Motor เผยโฉม “All New Haval H6 Hybrid SUV” ครั้งแรกของโลก
Great Wall Motor (กเรท วอลล์ มอเตอร์) เผยโฉม “All New Haval H6 Hybrid SUV (ฮาวัล เอช 6 ไฮบริด เอสยูวี ใหม่)” เป็นครั้งแรกของโลก พร้อมตอกย้ำกลยุทธ์ XEV Leader ผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าด้วยพาเหรดรถยนต์ XEV สุดไฮเทคมาให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก นำทัพโดยรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat (ออรา กูด แคท) ORA Black Cat (ออรา บแลค แคท) และรถกระบะไฟฟ้า POER EV รวมไปถึงรถยนต์ต้นแบบ Concept H (คอนเซพท์ เอช) มาจัดแสดงภายใต้แนวคิด “Innovation Builds Better Future” พร้อมด้วยกองทัพนวัตกรรม และเทคโนโลยีสุดล้ำ และโอกาสในการนั่งรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat แบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ บูธ Great Wall Motor ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม-4 เมษายน 2564 ณ อาคารชาลเลนเจอร์ 1-3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี
เอลเลียต จาง ประธาน Great Wall Motor ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย เผยว่า ในระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา Great Wall Motor ได้เร่งดำเนินการหลายๆ อย่างเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยให้เร็วที่สุดและมากที่สุด ถึงแม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายภายใต้สถานการณ์ความไม่แน่นอนจากการระบาดของไวรัส COVID-19 เรามีการซื้อขาย และรับมอบโรงงงาน รวมถึงพบปะพูดคุยกับผู้บริโภคชาวไทย และเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการ โดยตลอดระยะเวลา 30 ปี ที่ผ่านมา Great Wall Motor ได้สร้างปรากฏการณ์ และความสำเร็จผ่านผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Haval H6 ORA Good Cat Tank 300 Great Wall Pao โดยในประเทศจีน รถกระบะของ Great Wall Motor นั้น ครองอันดับหนึ่งด้านยอดขายเป็นเวลาติดต่อกัน 23 ปี และแบรนด์ Haval มียอดขายทะลุ 6.5 ล้านคัน ส่วน Haval H6 ก็ครองแชมพ์ด้านยอดขายติดต่อกันมาเป็นเวลานานถึง 8 ปี
“Great Wall Motor ยังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทางด้านการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เช่น แบทเตอรีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พลังงานไฮโดรเจน และปัญญาประดิษฐ์อีกมากมาย เราได้สร้างศูนย์เทคโนโลยีพลังงานไฮโดรเจนชั้นนำแห่งแรกของโลก และยังเป็นบริษัทแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแบทเตอรีที่ปราศจากโคบอลท์ นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็น “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) Great Wall Motor มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นด้านพลังงานใหม่อย่างเต็มที่ ในประเทศไทย โดยจะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ทั้งสิ้น 9 รุ่น พร้อมระบบขับเคลื่อนที่หลากหลายภายในระยะเวลา 3 ปี หรือ Mission 9 in 3 เรามุ่งมั่นนำเสนอรถยนต์ที่มาพร้อมนวัตกรรมให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย ปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ สร้างสรรค์รูปแบบความร่วมมือแบบใหม่ เข้าถึงผู้บริโภคอย่างแท้จริง และสร้างการบริการแบบใหม่ ด้วยการผสมผสานพแลทฟอร์มทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อสร้างการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดระหว่างบริการก่อนการขาย และหลังการขาย พัฒนาระบบการเชื่อมต่อ "คน รถ พแลทฟอร์ม ไลฟ์สไตล์" ให้สมบูรณ์แบบ”
ด้าน สตีเวน หวัง รองประธานฝ่ายขายและการตลาด Great Wall Motor ภูมิภาคอาเซียน และประเทศไทย กล่าวว่า หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของ Great Wall Motor ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ คือ การเผยโฉม “All New Haval H6 Hybrid SUV” เป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งประเทศไทย และคนไทยเป็นประเทศแรก และคนกลุ่มแรกที่ได้ยลโฉมรถยนต์คันนี้อย่างใกล้ชิด โดย “All New Haval H6 Hybrid SUV” เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยผสานกับดีไซจ์นอันโดดเด่น สำหรับ Haval H6 นั้น นับตั้งแต่เปิดตัว มียอดขายรวมกว่า 3,000,000 คัน และได้รับรางวัลมากมายในตลาดต่างประเทศหลายแห่ง เช่น รางวัลรถเอสยูวีที่มีคุณค่ามากที่สุดในออสเตรเลีย และเป็นรถเอสยูวีรุ่นที่ดีที่สุดในชิลี
สำหรับ “All New Haval H6 Hybrid SUV” ที่เผยโฉมครั้งนี้ เป็นรถยนต์พวงมาลัยขวา ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ ให้แรงม้าสูงสุด 179 กิโลวัตต์ หรือ 243 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 54.0 กก.-ม. หรือ 530 นิวตัน-เมตร โดยมีมิติของตัวรถขนาดกว้างและยาว 1,886x4,653 มม. พร้อมความสูง 1,724 มม. มีระยะฐานล้อ 2,738 มม. และขนาดล้อ 19 นิ้ว ถือเป็นรถเอสยูวีที่มีขนาดใหญ่เมื่อเทียบรถในคลาสส์เดียวกัน ให้พื้นที่จัดเก็บกว้างขวาง นั่งสบาย ครบครันสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว
“All New Haval H6 Hybrid SUV” พิเศษด้วย Life+ (Life Plus) ระบบอัจฉริยะที่ตอบสนองความต้องการในทุกเส้นทางการขับขี่ ซึ่งประกอบไปด้วย
L: L2 ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 2 มาพร้อม 22 ฟังค์ชันอัจฉริยะที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อาทิ
1) ระบบช่วยจอดรถยนต์อัตโนมัติ 3 รูปแบบ หรือ Integration Auto Parking (IAP) ด้วยกล้อง 360 องศา และเซนเซอร์ Ultra Sonic สามารถค้นหาที่จอดรถ คำนวณพื้นที่สำหรับจอดรถได้อย่างแม่นยำ
โดยสามารถช่วยจอดได้ทั้งในรูปแบบการถอยเข้าช่องจอด การจอดขนานเส้นทางเดินรถ และการจอดตามแนวเฉียง
2) ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ หรือ Auto Reversing Assistance (ARA) โดยระบบจะสามารถจดจำเส้นทางเมื่อรถขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำกว่า 30 กม./ชม. และสามารถถอยหลังกลับตามเส้นทางเดิมได้ในระยะทางถึง 50 ม.
3) ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากทางด้านข้าง หรือ Wisdom Dodge System (WDS) ระบบที่ช่วยตรวจจับรถขนาดใหญ่ อาทิ รถบรรทุกในเลนติดกัน โดยรักษาระยะห่างขณะขับผ่าน และเมื่อพ้นระยะแล้วสามารถกลับสู่กลางเลนตามปกติ ทำให้เร่งแซงได้อย่างปลอดภัย
ซึ่งทั้ง 3 ระบบข้างต้น ถือเป็นระบบความปลอดภัยในรถยุโรประดับพรีเมียม นับได้ว่าเป็นครั้งแรกหรือ First in Class ในรถที่มีขนาด และระดับราคาเดียวกันในตลาดประเทศไทยในเวลานี้
I: Intelligence V3.5 ระบบอัจฉริยะที่ช่วยสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบโต้ตอบด้วยเสียง (Voice Interaction) ระบบอินเทอร์เนทอัจฉริยะ (Intelligent Internet) รวมไปถึง ระบบหน้าจออัจฉริยะ ที่ช่วยให้เชื่อมต่อ และค้นหาข้อมูลการเดินทางได้อย่างชาญฉลาด
F: FOTA ระบบการอัพเกรดโปรแกรมออนไลน์ สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยการอัพเกรด Firmware ได้เองผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องเอารถเข้าศูนย์บริการ ไม่ว่าจะเป็น ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ ระบบขับเคลื่อน และระบบส่งกำลัง
E: EYE Q4 ชิพอัจฉริยะที่ประมวลผลได้รวดเร็วขึ้น สามารถประมวลผลภาพจากกล้องหลายตัวได้ในเวลาเดียวกัน และยังสามารถรักษาเสถียรภาพในการทำงานได้ดีหากมีการชน หรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
+ (Plus) ให้คุณ “มากกว่า” ด้วยเทคโนโลยี และการออกแบบอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น
ระบบ GWM Lemon Hybrid DHT ซึ่ง All New Haval H6 ใช้พแลทฟอร์ม GWM Lemon ที่เป็นพแลทฟอร์มเทคโนโลยีโมดูลาร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ความปลอดภัยสูง และน้ำหนักเบา มาพร้อมโหมดช่วยการขับขี่หลายรูปแบบ ตอบสนองการขับขี่ในหลากหลายสภาพถนน อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การออกแบบ ในส่วนของภายนอกที่ออกแบบตามหลักสุนทรียศาสตร์ โดยการใช้เส้นโค้ง และลายเส้นที่เรียบง่าย แต่ประณีต และพรีเมียม ล้ำยุค และเหนือระดับ ภายใต้การนำทีมออกแบบโดย ฟิล ซิมมอนส์ (Phil Simmons) ผู้มีประสบการณ์ออกแบบรถยนต์แบรนด์ยุโรปชื่อดังมากมาย ภายในมีการออกแบบที่ดูสปอร์ท โฉบเฉี่ยว ด้วยวัสดุหนังหุ้มเบาะคุณภาพสูงที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ รวมไปถึงแผงหน้าปัดแบบลอยตัว พร้อมจอ Infotainment ขนาดใหญ่ และจอแสดงผลแบบ Head Up Display (HUD) แสดงภาพข้อมูลการขับขี่ครบครันบนกระจก รวมไปถึงพวงมาลัยไฟฟ้า Multi-Function และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่เสริมความปลอดภัย ด้วยตัวถังรถที่ประกอบด้วยเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษ กรอบประตูเหล็กแบบขึ้นรูป พร้อมคอพวงมาลัยที่ดูดซับแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และถุงลมนิรภัย 6 จุด
ทั้งนี้ “All New Haval H6 Hybrid SUV” จะมีการเปิดตัวและเปิดจองรถในประเทศไทยภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และจะมีการทดสอบขับรถ รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ จาก Great Wall Motor เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด
ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ Great Wall Motor ประเทศไทย เผยว่า ผมขอขอบคุณผู้บริโภคและแฟนๆ ชาวไทย ที่ให้การต้อนรับ Great Wall Motor อย่างอบอุ่น และด้วยดีเสมอมา ณ งาน มอเตอร์โชว์ ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่เรานำทัพรถยนต์มาจัดแสดงให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยรถยนต์ที่เรานำมาจัดแสดงในงานจะเป็นทัพรถยนต์ที่เป็นรถพลังงานไฟฟ้า (XEV) ทั้งสิ้น เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์ XEV Leader การเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยของเรา รวมถึงแสดงถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีแห่งอนาคต และนวัตกรรมอันล้ำสมัยมาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้มีโอกาสสัมผัส พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต และส่งออกของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน
โดยรถยนต์ยอดนิยมของ Great Wall Motor ที่นำมาจัดแสดงมีหลากหลายรุ่น อาทิ
รถยนต์ต้นแบบ Concept H เปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกที่งาน Auto Car 2020 ที่ประเทศอินเดีย และประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ที่ได้นำรถยนต์คันนี้มาจัดแสดง ซึ่ง Concept H เป็นรถยนต์ต้นแบบที่ได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาดตามสไตล์รถเอสยูวีของ Haval และยังโดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ เพิ่มความพรีเมียมด้วยไฟหน้า LED ดีไซนจ์พิเศษที่โฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใคร พร้อมล้ออัลลอยด์ขนาดใหญ่ 19 นิ้ว และไฟท้ายรูปตัวที (T) ภายในตัวรถเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบอินโฟเทนเมนท์ หน้าจอสัมผัสแบบ Free Standing และ Touch Pad ด้านหน้า และบริเวณประตูสำหรับการควบคุมฟังค์ชันการทำงานและระบบความปลอดภัยต่างๆ อาทิ ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้า และระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ เป็นต้น และยังมาพร้อมดีไซจ์นสวยหรูด้วยแถบไฟ LED ที่วิ่งยาวตลอดคอนโซลด้านหน้า และหน้าจอสำหรับที่นั่งด้านข้างคนขับที่แสดงข้อมูลเนวิเกเตอร์แบบเรียลไทม์ พร้อมพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่
ORA Good Cat ที่เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยดีไซจ์นแบบ Retro Futuristic ไฟหน้าแบบ Intelligent Multi LED และพาโนรามิคซันรูฟ พร้อมล้ออัลลูมิเนียมอัลลอยขนาด 18 นิ้วบนพแลทฟอร์ม GWM Lemon และสามารถโลดแล่นได้ที่ระยะไกลสูงสุด 500 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง ORA Good Cat ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรง และทางแยก ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง ระบบช่วยเตือน และเบรคเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง มีระบบการเชื่อมต่อ และการสั่งงานอัจฉริยะ หรือ Intelligent Connectivity ไม่ว่าจะเป็นการสั่งการด้วยเสียง รวมไปถึงการควบคุมรถจากระยะไกล
ORA Black Cat รถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด สามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 300 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง โดดเด่นด้วยดีไซจ์นภายนอกที่น่ารัก สะกดทุกสายตา ผ่านเส้นสายที่เรียบง่ายตัดกับคู่สีสดใส ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซจ์นเป็นทรงกลมมน ส่วนดีไซจ์นภายในผสมผสานการดีไซน์แบบ Classic Nostalgic และ Futuristic เข้าไว้ด้วยกัน ดูล้ำสมัยแต่อบอุ่นน่ารัก ตกแต่งด้วยสีทูโทน พร้อมห้องโดยสารกว้างขวางนั่งสบาย พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเก็บได้อย่างยืดหยุ่นตอบสนองความต้องการของทุกคน พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่สร้างความสะดวกสบายทั้งหน้าจอมัลทิมีเดีย ขนาด 9 นิ้ว เชื่อมต่อระบบการสั่งการด้วยเสียง รวมไปถึงพวงมาลัยมัลติฟังค์ชัน และเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และระบบความปลอดภัยต่างๆ พร้อมถุงลมนิรภัย 6 จุด
POER EV รถกระบะไฟฟ้าที่ออกแบบมาให้ดูโดดเด่น สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ทรงพลัง ดุดันด้วยกระจังหน้าแบบสปอร์ท ไฟท้ายที่โฉบเฉี่ยว ห้องโดยสารที่กว้างขวางเหมือนรถเอสยูวี นอกจากนี้ ยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย พร้อมกล้อง 360 องศา เซนเซอร์ด้านข้าง และถุงลมนิรภัย 6 จุด และให้กำลังรวม 150 กิโลวัตต์ (204 แรงม้า) แรงบิด 30.6 กก.-ม. หรือ 300 นิวตัน-เมตร สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 375 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง
นอกจากนวัตกรรมยานยนต์แล้ว บูธ Great Wall Motor ยังพร้อมต้อนรับทุกท่านด้วยกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้มีส่วนร่วมและสร้างประสบการณ์ที่ดีไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การสัมผัส ORA Good Cat แบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ การจัดแสดง Smart เทคโนโลยีอย่างพแลทฟอร์ม GWM Lemon รวมไปถึงโซน Intelligent Home และ EV Tech Zone โดยทุกท่านสามารถสแกน และดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน GWM Fun เพื่อร่วมสนุกกับกิจกรรมที่มีทั้ง AR Interactive กิจกรรม DIY สุดสนุก หรือการถ่ายภาพที่ Photo Booth และรับของที่ระลึก รวมไปถึงบริการสุดเอกซ์คลูซีฟที่ GWM Cafe พร้อมอาหาร และเครื่องดื่มให้บริการตลอดทั้งงาน
สัมผัสรถยนต์ไฟฟ้าพร้อมด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย รวมถึงกิจกรรมดีๆ ที่พลาดไม่ได้จาก Great Wall Motor ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ถึง 4 เมษายน 2564 ระหว่างเวลา 12.00-22.00 น. (วันธรรมดา) และเวลา 11.00-22.00 น. (วันเสาร์-อาทิตย์) ที่ Great Wall Motor บูธหมายเลข A12 อาคารชาลเลนเจอร์ 1-3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี พร้อมได้ เปิดโลก ได้พัฒนาตัวในแวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)