Hyundai (ฮันเด) ได้เปิดตัวรถ Hyundai Staria 2021 (สตาเรีย 2021) รถเอมพีวีรุ่นใหม่ ที่จะมาแทน H-1 (เอช-1) และ Starex (สตาเรกซ์) ที่ถูกผลิตตั้งแต่ปี 1997 โดยรุ่นที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบันเป็นเจเนอเรชันที่ 2 ซึ่งเปิดตัวในปี 2007 มีอายุตลาดเกินกว่า 14 ปีแล้ว มาคราวนี้ Hyundai ได้ปรับโฉมเน้นความล้ำสมัยของการออกแบบ ทั้งภายใน และภายนอก โดยมีห้องโดยสารให้เลือกตั้งแต่ 2, 7, 9 ไปจนถึง 11 ที่นั่งการออกแบบที่ช่วยให้แบรนด์รถยนต์ Hyundai ก้าวสู่ทศวรรษใหม่ภายใต้ธีม Inside-Out ดีไซจ์นภายนอกของ Hyundai Staria ถูกออกแบบให้มีเส้นสายคล้ายกับยานอวกาศ เน้นความล้ำสมัย โดดเด่นด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ที่พาดยาวตลอดความกว้างด้านหน้าตัวรถ และเข้ากันกับกระจังหน้าลายตาข่ายที่ดูแข็งแกร่ง ขณะที่ชุดไฟหน้าถูกย้ายไปติดตั้งไว้บริเวณกันชน พร้อมด้วยไฟท้ายแนวตั้ง Parametric Design แบบเดียวกับรถไฟฟ้า IONIQ 5 มีการลดความสูงของเส้น Beltline (แนวเส้นด้านข้างใต้กระจกรถ) ลงมาต่ำสุดๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่กระจกรอบๆ คัน (Glasshouse) เพิ่มทัศนวิสัย และสร้างความรู้สึกของพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้าง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมของบ้านโบราณเกาหลี ตัวรถผลิตขึ้นบนพแลทฟอร์ม Hyundai-Kia N platforms (Hyundai-Kia N3) ปัจจุบันรถในเครือ Hyundai และ Kia (เกีย) ที่ใช้งานพแลทฟอร์มนี้ ได้แก่ คู่แฝดอย่าง Kia Carnival (เกีย คาร์นิวัล) เจเนอเรชัน 4, Hyundai Santa Fe 2021 (ฮันเด ซันตา เฟ 2021) และ Hyundai Sonata 2020 (ฮันเด โซนาตา 2020) เป็นต้น การออกแบบที่เน้นพื้นที่ภายใน ทำให้ตัวรถมีขนาดยาวที่สุดในรถยนต์อเนกประสงค์ โดยมีฐานล้อยาง 3,273 มม. มิติตัวถังยาว 5,253 มม. กว้าง 1,997 มม. สูง 1,990 มม. จะมีขนาดตัวถังใหญ่กว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แฝดอย่าง All New Kia Carnival ที่ยาว 5,155 มม. กว้าง 1,995 มม. สูง 1,775 มม. ระยะฐานล้อที่ 3,090 มม. พื้นที่ภายใน ได้รับการจัดวางแบบที่นั่ง ที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น มีความจุในห้องสัมภาระมากถึง 5,000 ลิตร โดยการออกแบบของห้องโดยสาร คือ จุดเด่นของรถรุ่นนี้ Hyundai ใช้แรงบันดาลใจจากพื้นที่เลาน์จ์บนเรือสำราญ มาตรวัดฟูลล์ดิจิทอลแยกออกจากคอนโซลหน้าจัดวางแบบลอยตัว เพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ขับเมื่อต้องลดระดับสายตาลงมามองข้อมูลต่างๆ เนื่องจากตำแหน่งของมาตรวัดนั้นจะอยู่ใกล้เคียงกับแนวของถนน ภายในห้องโดยสารถูกติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ด้านล่างมีปุ่มควบคุมฟังค์ชันต่างๆ รวมอยู่กับปุ่มเปลี่ยนเกียร์แทนคันเกียร์ปกติ กล้องมองภาพภายในห้องโดยสารแบบมุมกว้าง มีลำโพง และไมโครโฟน เพื่อช่วยในการสนทนาระหว่างคนขับกับผู้โดยสารหน้า/หลัง, ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสารปรับได้ 64 สี และเครื่องเสียงระดับพรีเมียมจาก Bose ในรุ่น Premium 7 ที่นั่ง มาพร้อมเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Premium Relaxation Seats พร้อมระบบปรับเอนด้วยไฟฟ้าแบบวันทัช ขณะที่รุ่น Premium 9 ที่นั่ง ติดตั้งเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบกัปตันซีทแยกออกจากกัน สามารถหมุนได้ 180 องศา เพื่อความสะดวกในการเข้าไปยังแถวที่ 3 สามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นห้องประชุมเคลื่อนที่ได้ Hyundai Staria มาพร้อมสีภายนอกให้เลือกถึง 8 สี ได้แก่ 1. สีดำ เอบิส บแลค เพิร์ล 2. สีขาว ครีมีไวท์ 3. สีเทา เมทัลลิค กราไฟท์ 4. สีน้ำเงิน มูนไลท์เพิร์ล 5. สีเงิน ชิมเมอริงซิลเวอร์ เมทัลลิค 6. สีเหลือง ไดนามิค 7. สีเทา โอลิวีน กเรย์ 8. สีน้ำตาล ไกอา บราวน์ เพิร์ล โดยมีสีภายในให้เลือก ได้แก่ สีดำ (ทูโทนดำ-เบจ), ทูโทนดำ-น้ำเงิน ในรุ่นพรีเมียม, ทูโทนเทา-น้ำตาล และสีเทาเข้ม-เทาอ่อน ซัง ยัพ ลี รองประธานกรรมการอาวุโส และหัวหน้าศูนย์ออกแบบ Hyuandai Global กล่าวว่า “การออกแบบพื้นที่ภายใน และการใช้งานมุ่งหวังเพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ขณะโดยสาร เพื่อเพิ่มคุณค่าของทุกเวลาในขณะเดินทาง” Hyundai Staria มาพร้อมพแลทฟอร์มใหม่ และสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้นกับ 2 ทางเลือก เครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร VGT ได้รับการปรับปรุงให้มีกำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิด 431 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับปรุงระบบระบายอากาศคอมพเรสเซอร์ และกังหันเทอร์โบชาร์จ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแรงบิดในรอบต่ำ เครื่องยนต์เบนชิน G6DII ขนาด 3.5 ลิตร MPI มีกำลังสูงสุดที่ 272 แรงม้า แรงบิด 331 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ โดยได้ลดเสียงรบกวน และลดการสั่นสะเทือนที่จะเข้ามาในห้องโดยสาร มีการพัฒนาการเปลี่ยนเกียร์เพื่อรองรับแรงบิดสูง ให้อัตราเร่งดียิ่งขึ้น รวมทั้งยังปรับปรุงวาล์วแบบไดเรคท์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบไฮดรอลิค ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งชุดคลัทช์ Torque Converter ช่วยประหยัด โดยมีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย 10.8 กม./ลิตร ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และ 11.8 กม./ลิตร ในรุ่นเกียร์ธรรมดา ช่วงล่างถูกปรับปรุงเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ โดยด้านหลังเป็นแบบมัลทิลิงค์ ปรับองศาการติดตั้ง และความหนืดของชอคอับเพื่อเพิ่มความนุ่มนวล พร้อมอัพเกรดคาลิเพอร์เบรค และจานเบรคเพื่อความปลอดภัย การออกแบบของตัวถัง และใต้ท้องรถ ยังได้ลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน เพื่อให้ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมกับเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยล่าสุด ติดตั้งแอร์แบก 6 ตำแหน่ง ทุกที่นั่งติดตั้งเข็มขัดนิรภัย 3 จุด พร้อมหมอนรองศีรษะ รวมทั้งมีระบบป้องกันจุดอับสายตา หรือ BIind-Spot ระบบหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้า หรือ Forward Collision Avoidance Assist ระบบป้องกันการออกจากรถเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง หรือ Safe Exit Assist ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาจาก Hyundai โดยสัญญาณเตือนจะดังขึ้นเพื่อป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถกำลังวิ่งผ่าน ระบบ Wireless Module Seat Belt Reminder เป็นระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยอัจฉริยะครั้งแรกของโลก ที่ส่งสัญญาณเตือนด้วยการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย โดยระบบจะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับเมื่อยังมีผู้โดยสารที่ตกค้างอยู่ด้านหลัง มองผ่านกล้องมุมกว้างที่ช่วยให้ผู้ขับ และผู้โดยสารด้านหน้ามองเห็นผู้โดยสารด้านหลังผ่านจอที่คอนโซลกลาง ในอนาคต Hyundai Motor วางแผนที่จะเปิดตัวรถแคมพิง ลีมูซีน และเครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Hyundai Staria 2021 คาดว่าจะเริ่มเปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายในเกาหลีใต้ ตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป และในเมืองไทยก็คงไม่พลาดที่จะนำเข้ามาเช่นกัน เพราะเป็นโมเดลของ Hyundai ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย
บทความแนะนำ