กรมการขนส่งทางบก เผย !!! สถิติการใช้บริการช่องทางชำระภาษีรถประจำปีในเขตกรุงเทพมหานคร ประจำเดือนพฤษภาคม 2564 ยอดใช้บริการช่องทางออนไลน์สูงสุดในรอบปีงบประมาณ 2564 แนะนำ !!! ช่องทางชำระภาษีรถออนไลน์ สะดวกสบาย เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19
พรรณี พุ่มพันธ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกมุ่งพัฒนาช่องทางการให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีให้มีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของประชาชน จึงได้พัฒนาบริการรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนเจ้าของรถไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง โดยรถที่ค้างชำระภาษีเกินกว่า 1 ปี หรือรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพ และมีผลผ่านการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ก่อนดำเนินการชำระภาษีรถผ่านช่องทางออนไลน์ที่เวบไซท์กรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th หรือผ่านแอพพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ส่งผลให้สถิติการให้บริการชำระภาษีรถยนต์ผ่านระบบออนไลน์ประจำเดือนพฤษภาคม 2564 สูงสุดในรอบปีงบประมาณ 2564 โดยเฉพาะผ่านทางเวบไซท์ https://eservice.dlt.go.th/ มีจำนวนผู้ใช้บริการสูงถึง 50,753 คัน และผ่านแอพพลิเคชัน DLT Vehicle Tax มีผู้ใช้บริการจำนวน 3,253 คัน โดยเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้จะได้รับความนิยมจากประชาชนเจ้าของรถเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานขนส่ง อยู่ที่ไหนก็สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ ในส่วนของสถิติการรับชำระภาษีรถประจำปีที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 มีผู้ใช้บริการจำนวน 374,945 คัน บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) จำนวน 59,352 คัน ในขณะที่การให้บริการชำระภาษีผ่านตู้รับชำระภาษีรถประจำปีอัตโนมัติ (Kiosk) มีผู้ใช้บริการจำนวน 1,403 คัน เคาน์เตอร์เซอร์วิศ มีผู้ใช้บริการจำนวน 13,616 คัน ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 809 คัน และผ่านแอพพลิเคชัน M Pay และ True Money Wallet จำนวน 1,000 คัน รวมมียอดผู้ใช้บริการชำระภาษีประจำเดือนพฤษภาคม 2564 จำนวนทั้งสิ้น 505,131 คัน
เจ้าของรถสามารถชำระภาษีรถล่วงหน้าก่อนครบกำหนด 90 วัน ก่อนวันที่ภาษีรถสิ้นอายุ ได้ผ่านทุกช่องทางต่างๆ ทั้งภายในสำนักงานขนส่ง และภายนอก อาทิ เคาน์เตอร์เซอร์วิศ ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven แอพพลิเคชัน True Money Wallet M Pay ที่ทำการไปรษณีย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ส่วนการบริการชำระภาษีรถประจำปีที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์-อาทิตย์ “ชอพให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)” ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลบางส่วน อยู่ในระหว่างการติดตามประเมินสถานการณ์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่สำหรับต่างจังหวัดให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาความเหมาะสมร่วมกับจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หากมีความเห็นว่าสามารถดำเนินการได้ก็ให้ถือปฏิบัติตามมติของจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ทั้งนี้ การให้บริการประชาชนในทุกกระบวนงานต้องดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดต่อแพร่กระจายของโรค