รายงานข่าวจากนาโกยา ประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า ในรอบครึ่งปีแรก 2564 ที่ผ่านมา Toyota Motor ยังคงรักษาตำแหน่งรถยนต์ขายดีที่สุดในโลก ด้วยสถิติใหม่ 5.47 ล้านคัน แซงคู่ปรับจากเยอรมนี Volkswagen แบบสบายๆนับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ที่ค่าย Toyota สามารถรักษาตำแหน่งยอดขายดีที่สุดในโลก ในครึ่งปีแรกแม้จะเกิดโรคระบาดร้ายแรง COVID-19 หรือปัญหาของการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิตชิพก็ตาม ในอดีต Toyota สามารถทำยอดขายได้มากที่สุดในโลก ช่วงครึ่งปีแรก เมื่อปี 2562 ด้วยจำนวน 5.31 ล้านคัน สามารถทำยอดขายได้ดีในตลาดสำคัญๆ อย่าง สหรัฐอเมริกา และจีน โดยผู้บริหารของ Toyota ระบุว่า สาเหตุก็เพราะความสามารถของทีมงาน ในการแก้ไขผลกระทบจากการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ได้เป็นอย่างดี 6 เดือนแรกของปีนี้ Toyota ทำยอดขายได้ทั่วโลก 5,467,218 คัน เพิ่มขึ้น 31.3 % จากปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงยอดขายของค่ายรถขนาดเล็กในสังกัด Daihatsu และผู้ผลิตรถบรรทุก Hino ด้วย ขณะที่ Volkswagen ทำยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันได้เพียง 4,98 ล้านคัน แต่ก็ยังเพิ่มขึ้น 27.9 % ระยะเวลาเดียวกัน ในตลาดอเมริกาเหนือและจีน มีความต้องการรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของ Toyota จึงช่วยให้ยอดขายทำได้ถึง 4.3 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 36.5 % ส่วนตลาดในญี่ปุ่น Toyota รายงานว่า ยอดขายของ Toyota Harrier และ Toyota Yaris ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น 15.0 % ทำยอดขายได้ 1.17 ล้านคัน ซึ่งรวมถึงรถขนาดเล็ก เครื่องยนต์ไม่เกิน 660 ซีซี ไว้ด้วย ในปี 2563 ที่ผ่านมา Toyota สามารถทำยอดขายได้สูงสุดในโลก แซง Volkswagen ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ขณะที่ค่ายผู้ผลิตรถญี่ปุ่นด้วยกัน ใน 6 เดือนแรกของปี Honda Motor ขายไป 2.37 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 25.8 % ส่วน Nissan Motor ก็สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นในรอบ 4 ปี ด้วยจำนวน 2.20 ล้านคัน เพิ่ม 21.5 % วิกฤตการณ์จากความขาดแคลนชิพที่ใช้ในการผลิต เป็นตัวบังคับให้ผู้ผลิตอย่าง Toyota และ Volkswagen ต้องจำกัดยอดการผลิต ซึ่งเป็นไปทั้งอุตสาหกรรม อันเนื่องมาจากการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ ที่ถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์อย่างแลพทอพ และเครื่องเล่นเกม