Haval H9 (ฮาวัล เอช 9) ถือเป็น Full-Size SUV ที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยพัฒนาโดย Great Wall Motors (กเรท วอลล์ มอเตอร์) ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบใหม่ ใช้โครงสร้างตัวถังแบบ Body-On-Frame โดยเปิดตัว และเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2014ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ และเพลาแบบแข็งมัลทิลิงค์ที่ด้านหลัง โดยถูกวางให้เป็นคู่แข่งของ Toyota Land Cruiser Prado (โตโยตา แลนด์ ครูเซอร์ ปราโด) และ Mitsubishi Pajaro (มิตซูบิชิ ปาเจโร) โดย Haval H9 มีให้เลือกทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ความยาวตัวถังอยู่ที่ 5,077 มม. กว้าง 1,926 มม. และสูง 1,900 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,800 มม. มีขนาดใกล้เคียงกับ New Toyota Land Cruiser 300 ที่มีมิติตัวถังยาว 4,990 มม. กว้าง 1,980 มม. ฐานล้อ 2,850 มม. ปัจจุบัน Haval H9 ทำตลาดมานานกว่า 7 ปี ถึงเวลาที่จะปรับรูปลักษณ์ให้ดูบึกบึน และทันสมัยมากขึ้น เริ่มที่กระจังหน้าหน้าดีไซจ์นใหม่โครเมียมแนวตั้ง 11 ซี่ ที่หรูกว่ารุ่นเดิม พร้อมโลโก Haval ไฟหน้า LED Matrix Headlights พร้อมไฟ DRL แบบ LED กันชนหน้าดีไซจ์นใหม่ พร้อมไฟตัดหมอกแนวตั้ง รับกับชุดขอบล่างกันชน ตกแต่งด้วยสีเงินครอบทับไว้ ด้านข้างเสริมคิ้วชายล่างใหม่ ส่วนล้ออัลลอยยังเป็นลายเดิม ตั้งแต่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 265/65 R17 และขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 ด้านท้ายใหม่ ไฟท้าย LED แนวยาว พร้อมเพิ่มสปอยเลอร์หลังเข้ามา และการเปิดฝาท้ายยังเป็นการเปิดแบบด้านข้างเหมือนเดิม ภายในห้องโดยสาร All New Haval H9 ออกแบบใหม่ หน้าตาของอุปกรณ์ต่างๆ ดูทันสมัยมากขึ้น พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันแบบ 4 ก้าน แผงคอนโซลหน้าติดตั้งหน้าจอสัมผัสที่ใหญ่กว่าเดิม เป็นแนวนอนขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมมาตรวัดดิจิทอล 7 นิ้ว แบบ LCD ช่องแอร์ตรงกลางถูกย้ายไปไว้ที่ด้านล่างของจอ เกียร์ยังคงดีไซจ์นคล้ายของเดิม แต่มีการปรับตำแหน่งของปุ่มปรับโหมดการขับขี่ ย้ายจากด้านข้างมาไว้ที่ด้านหลังเกียร์ พร้อมเบาะคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า ขุมพลังยังคงเดิมด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร GDIT รหัส GW4C20B ให้กำลัง 224 แรงม้า ที่ 5,500 รตน. แรงบิด 39.3 กก.-ม. (385 นิวตัน-เมตร) ที่ 1,800-3,600 รตน. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เลือกการขับชี่ได้โหมด Auto, Snow, Sand, Mud และ 4 Low ระบบความปลอดภัย มีถุงลมนิรภัยรอบคัน ระบบเบรค ABS, ระบบกระจายแรงเบรค (EBD), ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC), ระบบเสริมแรงเบรค (EBA), ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attention assist), ระบบช่วยให้อยู่ภายในช่องเดินรถ และช่วยจอดอัตโนมัติ การเปิดตัวคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม 2021 นี้ โดยจะเปิดตัวในประเทศจีนเป็นที่แรก ส่วนจะมาไทยหรือไม่ คงต้องรอลุ้นกันต่อไป