คลิพรีวิว Honda Civic รวมถึงสเปคในเบื้องต้นโดย AutoinfoOnline
ในการขับขี่ช่วงแรกเราใช้ความเร็วไม่สูงมาก เพื่อสังเกตการตอบสนองในเบื้องต้นของตัวรถ เรามีความรู้สึกว่า Honda Civic รุ่นใหม่ มีการปรับแต่งให้ระบบรองรับมีความหนึบมากขึ้นเล็กน้อย (แต่ไม่แข็งกระด้าง) การแล่นผ่านพื้นผิวถนนที่ขรุขระ สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ส่วนความหนึบที่เพิ่มขึ้นนั้นช่วยให้การขับขี่รู้สึกมั่นคงยิ่งขึ้น ผนวกกับน้ำหนักของพวงมาลัยที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้ขณะขับขี่มีความรู้สึกที่ดี (สำหรับการใช้งานทั่วไป และเหมาะสม) และเป็นอีกจุดหนึ่งที่ Civic รุ่นนี้พัฒนาขึ้นอย่างน่าพอใจ อย่างไรก็ตาม หากใครที่ยังคงต้องการอารมณ์สปอร์ทแบบหนึบแน่นเต็มพิกัด คงต้องหาระบบรองรับแบบสปอร์ทมาติดตั้งเอง นอกจากการตอบสนองของการขับขี่ที่ดีขึ้นแล้ว Honda Civic รุ่นนี้ยังติดตั้งโหมดการขับขี่ที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยในรุ่นทอพที่เราได้มาทดสอบ คือ RS มีโหมดการขับขี่แบบ Sport มาให้ด้วย (รุ่นก่อนหน้านี้ไม่มี มีเพียงโหมด S ของเกียร์) เมื่อลองปรับมาที่โหมดนี้ ตัวรถจะปรับการทำงานของระบบเกียร์แปรผันให้มีรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น (แม้แล่นที่ความเร็วต่ำรอบเครื่องยนต์จะอยู่ใกล้ๆ ช่วง 3,000 รตน. เลยทีเดียว) และการตอบสนองของคันเร่งที่ไวขึ้นเล็กน้อย รวมถึงแผงหน้าปัดแบบดิจิทอลจะเพิ่มขอบสีแดงตรงมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ และความเร็ว (เสริมความเร้าใจได้ส่วนหนึ่ง) รวมไปถึงการใช้แพดเดิล ชิฟท์ จะลากรอบเครื่องยนต์ในแต่ละช่วงจังหวะเกียร์ได้นานขึ้นกว่าโหมด Normal ส่วนโหมด Econ ยังคงมีให้เหมือนเดิม เน้นการประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งขึ้น การตอบสนองคันเร่งจะช้าลงเล็กน้อยในช่วงแรก (แต่ถ้ากดคันเร่งลึกทันทีก็ยังตอบสนองได้รวดเร็วพอ) เราพบว่าที่ความเร็ว 100 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 1,600-1,700 รตน. เท่านั้น ! หากเป็นการขับทางไกล แล้วใช้ความเร็วคงที่ และไม่สูงจนเกินไป เครื่องยนต์บลอคนี้ก็สามารถตอบสนองด้านการประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างน่าพอใจเช่นกัน มีการใช้งานที่ยืดหยุ่น ระหว่างการทดลองขับ เราจะปรับมาที่โหมด Normal เพื่อการตอบสนองของตัวรถที่เป็นกลางที่สุด และใช้เกียร์โหมด D เริ่มจากการใช้ความเร็วต่ำ และค่อยๆ กดคันเร่ง เพิ่มความเร็ว คล้ายการขับขี่ในความเป็นจริง เรารู้สึกว่า การตอบสนองของเครื่องยนต์มีความเรียบเนียนกว่าเดิม (จากที่รุ่นก่อนหน้านี้ก็ทำได้ดีพอสมควรแล้ว) จนแทบจะลืมไปเลยว่า นี่คือ เครื่องยนต์แบบพ่วงเทอร์โบ การปรับแต่งเครื่องยนต์ทั้งในแง่ของพละกำลัง และแรงบิด ตลอดจนการพบระบบแปรผันเข้ามา มีผลดีในแง่ของการตอบสนองที่ทำได้ดังใจยิ่งขึ้น ขับได้ลื่นไหลขึ้น การเพิ่มความเร็วทำได้ต่อเนื่องดีมาก โดยไม่จำเป็นต้องกดคันเร่งลึกมากเกินไป เชื่อว่าจะเป็นจุดที่ Honda Civic เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไปได้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่รถยนต์ที่เน้นอัตราเร่งเพียงอย่างเดียว แม้จะมีพละกำลังถึง 178 แรงม้าก็ตาม การทดลองขับในครั้งนี้ เราไม่ได้นำอุปกรณ์วัดสมรรถนะมาด้วย แต่เราลองประเมินอัตราเร่งคร่าวๆ ด้วยแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ อาศัยการจับสัญญาณจากดาวเทียม อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเบื้องต้นที่ประมาณ 8.5 วินาที ถือว่า Honda Civic รุ่นนี้มีอัตราเร่งในระดับเดียวกับรุ่นก่อนหน้านี้ ในช่วงแรกที่ออกตัวอาจตอบสนองช้าเล็กน้อย แต่เมื่อระบบเทอร์โบของเครื่องยนต์ทำงานเต็มที่พร้อมกับระบบเกียร์แบบแปรผัน อัตราเร่งก็ปลดปล่อยออกมามากพอ ตัวรถค่อนข้างนิ่ง พวงมาลัยไม่ส่ายไปมา ระบบรองรับที่ปรับแต่งมาลงตัวกว่าเดิม ทำให้การทำอัตราเร่งมีความมั่นคงที่น่าพอใจดีมาก ส่วนหนึ่งมาจากการปรับแต่งให้ระบบรองรับมีความแน่นหนากว่าเดิม และระบบรองรับด้านหลังมีความกว้างมากกว่าเดิมเล็กน้อย (แม้ยางที่ใช้จะมีขนาด 215/50 R17 ของ Yokohama Advan DB เหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ก็ตาม) มาถึงตรงนี้ เรามีความรู้สึกว่า Honda Civic มีจุดเด่นด้านการตอบสนองที่ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ภายใต้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร รองรับได้ดีทั้งการใช้งานทั่วไปที่ความเร็วต่ำ ประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีที่ความเร็วคงที่ (รองรับน้ำมัน E85) ไปจนถึงช่วงความเร็วสูง แทบไม่มีอาการสะดุดให้เห็น ขับขี่ได้มั่นคง และสนุกเร้าใจได้หอมปากหอมคอกับโหมด Sport (เฉพาะรุ่นทอพ RS) สมกับบุคลิกของรูปทรงภายนอกที่เพิ่มความเป็น “ผู้ใหญ่” ยิ่งขึ้น ห้องโดยสารเก็บเสียงได้ดีกว่าเดิม มีเสียงรบกวนน้อยลง สะท้อนถึงอารมณ์การขับขี่ที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ขนาดใหญ่กว่า นั่นคือ เน้นความมั่นคงกว่าเดิม ขับขี่ได้มั่นใจ แต่ยังเผื่อเหลือความนุ่มนวลสำหรับการใช้งานทั่วไปที่มากพอเช่นกัน ระหว่างการขับกลับสู่จุดนัดหมายคืนรถ เรามีโอกาสลองระบบ Honda Sensing (ที่ติดตั้งมาครบทุกรุ่นย่อย) โดยใน Honda Civic รุ่นล่าสุด ใช้การทำงานของกล้องมองภาพด้านหน้า และประมวลผลด้วยโปรแกรม (ไม่มีระบบเรดาร์เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้) แต่ด้วยความทันสมัยของการประมวลผล ทำให้ระบบ Honda Sensing มีความแม่นยำกว่าเดิม สามารถแยกแยะประเภทของรถยนต์ที่อยู่รอบๆ ขณะขับเข้าไปใกล้ โดยแสดงผลให้เห็นชัดเจนบนจอดิจิทอลตรงกลางระหว่างมาตรวัด นับเป็นการแสดงผลของระบบ Honda Sensing ที่มีความทันสมัยกว่ารุ่นเดิมมาก ตลอดจนรูปแบบของแผงหน้าปัดที่เปลี่ยนแปลงได้หลากหลาย ทั้งการแสดงผลหน้าปัดทรงกลม หรือเปลี่ยนเป็นแบบแถบบาร์ในแนวตั้ง เพื่อเพิ่มพื้นที่การแสดงผลตรงกลาง (ในส่วนนี้เรามีความเห็นว่าทาง Honda น่าจะเพิ่มลูกเล่น และความหลากหลายของแผงหน้าปัดแบบดิจิทอลให้มากกว่านี้ รวมถึงเพิ่มสีสันของการแสดงผลมากกว่าที่เป็นอยู่ ไหนๆ หันมาใช้จอดิจิทอลแล้วทั้งที) Honda Civic สรุปเบื้องต้นจากการทดลองขับ Honda Civic รุ่นใหม่เป็นระยะเวลาสั้นๆการทดลองขับภายใต้การดูแลด้านสุขอนามัยที่ได้รับการเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากทาง Honda Thailand