พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว. การท่องเที่ยว และกีฬา เปิดเผยว่า พล. อ. ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม มีนโยบายส่งเสริมด้านการกีฬามาตลอด ไม่ว่าจะเป็นกีฬาแบบทีม หรือเดี่ยว หากมีความสามารถรัฐบาลพร้อมให้การส่งเสริมอย่างเต็มที่ อาทิ ล่าสุด น้องเทนนิสก็ได้คว้ารางวัลเหรียญทองจากกีฬาโอลิมปิคที่ประเทศญี่ปุ่น เช่นเดียวกับนักกีฬากอล์ฟนั้นล้วนโดดเด่นในเวทีโลกจากการรายการแข่งขัน LPGA ขณะที่ "นราศักดิ์ อิทธิริทพงษ์" มีผลงานโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมาจากกีฬาด้านมอเตอร์สปอร์ท โดยสามารถคว้าตำแหน่งแชมพ์ประเทศไทยหลายรายการ กระทั่งได้รับเชิญจากทีมชั้นนำของประเทศเบลเยียมให้ไปร่วมทำการแข่งขันเวิร์ลด์แแรลลีแชมเพียนชิพ 2022 ( World Rally Championship: WRC ) ซึ่งสนามแรกคาดว่าจะเริ่มในช่วงประ มาณเดือนเมษายนศกหน้านี้ที่ประเทศกรีซ ในฐานะที่ดูแลกระทรวงท่องเที่ยว และกีฬา ทางกระทรวงฯ พร้อมให้การส่งเสริมให้นัก กีฬาของไทยโดดเด่นในเวทีระดับโลก
"นราศักดิ์ไม่ใช่แค่เป็นตัวแทนของไทย แต่ถือเป็นตัวแทนของภูมิภาคนี้ กระทรวงฯ พร้อมที่จะสนับสนุน และส่งแรงใจให้น้องนราศักดิ์ที่จะถือธงชาติไทยไปทำการแข่งขัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าน้องจะได้รับโอกาสอันดีในการคว้าชัยถึงระดับติด 1 ใน 5 ซึ่งนั่นหมายความว่า เราจะสามารถประชาสัมพันธ์ประเทศไทยได้เป็นอย่างดีผ่านสายตาคนทั่วโลกที่รับชม และติดตามการแข่งขันเวิร์ลด์แรลลีกว่าปีละพันล้านคน ซึ่งถ้ามีโอกาสช่วงก่อนการแข่งขันผมจะนำน้องนราศักดิ์ไปขอคำอวยพรจากท่านนายกรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน"
ด้านราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (รยสท.) โดย สนธยา คุณปลื้ม ในฐานะนายกสมาคมฯ และพฤฒิรัตน์ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ประธานคณะกรรมการกีฬายานยนต์ กล่าวว่า ในส่วนของ รยสท. นั้นเป็นหน่วยงานโดยตรงที่จะสนับสนุนนักกีฬาในกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ท ไม่ว่าจะเป็นด้านการแข่งขัน หรือประสานเรื่องด้านงบประมาณ ถือเป็นภาระกิจโดยตรงของสมาคมฯ อยู่แล้ว ซึ่งการที่นักแข่งชาวไทยได้มีโอกาสไปแข่งขันในรายการระดับโลกอย่าง WRC ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเรามีศักยภาพไม่แพ้ใครในเกมกีฬาประเภทนี้ โดยสมาคมฯ พร้อมผลักดันให้มีการแข่งขันระดับโลกให้เกิดขึ้นที่ประเทศไทย เช่นเดียวกับการแข่งขัน MotoGP ทั้งนี้การที่ภาครัฐให้การสนับสนุนมากยิ่งขึ้นได้ส่งผลดีต่อการยกระดับกีฬาอาชีพด้านมอเตอร์สปอร์ทให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ประการสำคัญ คือ การที่ “เอส” นราศักดิ์ได้มีโอกาสไปแข่งขันในเวทีโลกครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดประตูอีกบานให้วง การมอเตอร์สปอร์ทบ้านเราก้าวไปอีกขั้น
ทางด้าน อโณทัย เอี่ยมลำเนา รองประธานบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการที่ "นราศักดิ์ อิทธิริทพงษ์" ได้รับเชิญให้ร่วมแข่งขันในรายการ เวิร์ลด์แรลลีแชมเพียนชิพในครั้งนี้ ถือเป็นนักแข่งชาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันในรายการระดับเวิร์ลด์แรลลี ซึ่งถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่แสดงถึงศักยภาพของกีฬามอเตอร์สปอร์ทในประเทศไทยที่รุดหน้าไปอีกขั้น และนำมาซึ่งการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต
“สำหรับกรังด์ปรีซ์กรุ๊ปฯ เราพร้อมให้การสนับสนุนโครงการนี้ โดยคุณพ่อผม คือ ดร. ปราจิน ท่านรักในกีฬามอเตอร์สปอร์ท และได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันรายการระดับนานาชาติมาแล้ว ประการสำคัญที่ผ่านมากว่า 4 ทศวรรษ เรา คือ องค์กรสื่อด้านยานยนต์ที่บุกเบิก และเติบโตมาพร้อมกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ดังนั้นเราจึงพร้อมให้การสนับสนุนทุกช่องทางเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประ วัติศาสตร์ครั้งสำคัญนี้ของประเทศไทยเราก้าวสู่ตำนานมอเตอร์สปอร์ทโลก"
ด้าน นราศักดิ์ อิทธิริทพงษ์ กล่าวว่าการได้รับเชิญให้ร่วมแข่งขันในรายการเวิร์ลด์แรลลีแชมเพียนชิพ 2022 (WRC 3) กับทีมชั้นนำของประเทศเบลเยียมครั้งนี้ เกิดขึ้นจากดไรเวอร์ฮันเตอร์จากประเทศเบลเยียม ได้มาทาบทามให้ไปร่วมแข่งในรายการดังกล่าวนี้ โดยเริ่มจากการไปขับทดสอบที่สนามทดสอบประเทศฝรั่งเศสในช่วงปี 2019 เมื่อผ่านเกณฑ์ตนจึงได้เข้าร่วมทีมชั้นนำของเบลเยี่ยมและเตรียมไปร่วมการแข่งขันในรายการแข่งขันเวิร์ลด์แรลลีในปี 2022 นี้ ซึ่งทางทีมได้ให้การสนับสนุนด้านเทคนิค, ทีมวิศวกร รวมทั้งรถแข่งตลอดฤดูกาลแข่งขัน ทั้งนี้งบประมาณการแข่งขันคาดว่าเป็นจำนวนเงินมากกว่า 80 ล้านบาท
“ผมภูมิใจที่ได้มีโอกาสทำฝันให้เป็นจริง สามารถก้าวสู่การเป็นนักแข่งคนแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ได้ขับรถคลาสส์ WRC ในรายการแข่งขันเวิร์ลด์แรลลีแชมเพียนชิพ (WRC ) หนึ่งเดียวในอาเซียน และคนที่ 2 ในเอเชีย ตอนนี้สถานการณ์ COVID เริ่มคลี่ คลายทางทีมได้เตรียมเรียกไปเก็บตัวเสริมทักษะ ในช่วงปลายปีนี้ที่ยุโรปโดยโคชผู้ฝึกสอนระดับโลก เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันในช่วงปีหน้า โอกาสนี้ผมจะขอนำมอเตอร์สปอร์ทให้ร่วมเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จะร่วมส่งเสริม และประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยในรูปแบบ "Sport Tourism" เนื่องจากรายการเวิร์ลด์แรลลีแชมเพียนชิพมีการแข่งขันกว่า 12 ประเทศในแต่ ละปี มีผู้ชมถึงปีละกว่าพันล้านคน แม้จะเป็นก้าวเล็กๆ แต่ก็ขอร่วมเป็นก้าวสำคัญของประเทศชาติ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จะมีธงชาติไทยไปโบกสะบัดที่สนามแข่งระดับโลกที่ WRC ครับ"
ทั้งนี้ WRC มีผู้ชมทั่วโลกตามสถิติของสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ หรือ FIA (Fédération Internationale De L'Automobile) ทั้งผ่านสื่อโซเชียลทุกประเภทรวมทั้ง Channel พิเศษของ WRC, สื่อทีวีกว่า 150 สถานีทั่วโลกรวมทั้งผู้ชมในสนามรวมจำนวนแต่ ละปีกว่าพันล้านคน ซึ่งในอนาคตอันใกล้มีความเป็นไปได้ว่าประเทศไทยจะถูกบรรจุชื่อให้เป็นอีกหนึ่งในสนามการแข่งขันของราย การ “เวิร์ลด์แรลลีแชมเพียนชิพ” เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพความพร้อมหลายด้าน ทั้งสภาพภูมิประเทศ และโครงสร้างสาธาร ณูปโภคพื้นฐาน ภาพรวมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ได้รับนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก
โดยงบประมาณค่าใช้จ่ายในโครงการเวิร์ลด์แรลลี (WRC3) ครั้งนี้จะอยู่ที่ประมาณ 60-80 ล้านบาท/ปี (การแข่งขัน 6+1 สนาม)