เรื่องน่ารู้
จุดเชคอิน และพักรถช่วงปีใหม่ 2565
กรมทางหลวง เตรียมความพร้อม 11 จุดเชคอินทั่วประเทศให้แก่ประชาชนจอดพักรถพร้อมสัมผัสความสวยงาม และปลอดภัย ตามนโยบาย “คมนาคมสีสัน สร้างสรรค์ประเทศไทย” ต้อนรับปีใหม่ 2565นโยบายดังกล่าวเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน พร้อมทั้งส่งเสริมทัศนียภาพระหว่างการเดินทาง ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นหลังจากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย ปัจจุบันกรมทางหลวงได้เริ่มทำความสะอาด ตกแต่ง ปรับปรุงป้าย และจัดเตรียมจุดเชคอินให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เพื่อรองรับการเดินทางท่องเที่ยวของประชาชนในช่วงฤดูหนาว และเทศกาลปีใหม่ 2565 ตามนโยบาย “คมนาคมสีสัน สร้างสรรค์ประเทศไทย” ดำเนินการใน 11 จังหวัด จำนวน 11 จุด ได้แก่ 1. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ บนทางหลวงหมายเลข 1009 ตอนจอมทอง-ดอยอินทนนท์ บริเวณ กม. ที่ 30-31 2. โค้งปิ้งงู จังหวัดสกลนคร บนทางหลวงหมายเลข 213 ตอนสร้างค้อ-สกลนคร บริเวณ กม. ที่ 155 3. จุดกางเทนท์ เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ บนทางหลวงหมายเลข 2196 ตอนนางั่ว-ทุ่งสมอ บริเวณ กม. ที่ 23 4. แยกไดโนเสาร์ จังหวัดขอนแก่น บนทางหลวงหมายเลข 12 ตอนขอนแก่น-พรหมนิมิตร บริเวณ กม. ที่ 562 5. อุโมงค์สัตว์ข้าม จังหวัดปราจีนบุรี บนทางหลวงหมายเลข 304 ตอนสี่แยกกบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว บริเวณ กม. ที่ 195 6. จุดพักรถลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา บนทางหลวงหมายเลข 85 ตอนบ่อทอง-มอจะบก บริเวณ กม. ที่ 2 7. จุดกางเทนท์ หมวดทางหลวงบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี บนทางหลวงหมายเลข 3011 ตอนบ้านไร่-บ้านใต้ บริเวณ กม. ที่ 24 8. แยกห้วยมงคล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บนทางหลวงหมายเลข 37 ตอนวังโบสถ์-ปราณบุรี บริเวณ กม. ที่ 28 9. โค้งมโนราห์ จังหวัดพัทลุง บนทางหลวงหมายเลข 4 ตอนนาโหนด-ห้วยทราย บริเวณ กม. ที่ 183 10. สวนสาธารณะลานช้าง จังหวัดตรัง บนทางหลวงหมายเลข 404 ตอนตรัง-บ้านนา บริเวณ กม. ที่ 11 11. จุดพักสูดอากาศบริสุทธ์เขาช้างสี จังหวัดนครศรีธรรมราช บนทางหลวงหมายเลข 4238 ตอนลานสกา-ไม้หลา บริเวณ กม. ที่ 10 ทั้งนี้ จุดเชคอินจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางให้แก่ประชาชนสร้างความประทับใจ รวมไปถึงดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศโดยการสัญจรทางถนน กรมทางหลวงพร้อมนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้ทางหลวงมีภูมิทัศน์ที่สวยงามที่มาพร้อมกับความปลอดภัย ดังนั้นจะพิจารณาเส้นทางที่มีศักยภาพก่อนปรับปรุง หรือดูแลบำรุงรักษาในสิ่งที่มีอยู่ ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต และเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่ และสร้างเส้นทางแห่งการท่องเที่ยวต่อไป พร้อมกันนี้ยังเตรียมความพร้อมเพิ่มในส่วนของ ประชาชนที่คาดว่าจะเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก กรมทางหลวงจึงได้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวก และปลอดภัย ระหว่างวันที่ 29 ธค. 2564-4 มค. 2565 เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนสู่ภูมิภาคต่างๆ โดยดำเนินการตรวจสอบป้ายจราจร สัญญาณไฟจราจร ไฟฟ้าแสงสว่างให้พร้อมใช้งาน ตรวจสอบ และแก้ไขจุดเสี่ยง และจุดอันตราย พร้อมบำรุงรักษาทางหลวงให้อยู่ในสภาพดี และมีรถบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ทางเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือรถเสีย โดยสามารถสแกน QR Code และติดตั้งทางแอพพลิเคชัน Line กรมทางหลวงพร้อมให้ความช่วยเหลือ 24 ชม. อีกทั้งได้ขอความร่วมมือผู้รับจ้างคืนผิวทางในพื้นที่ก่อสร้างทุกโครงการ ซึ่งหากพบว่ามีปริมาณจราจรหนาแน่นจะทำการประสานงานกับตำรวจทางหลวง ในการสนับสนุนการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร หรือการจัดช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) เพื่อให้การเดินทางของประชาชนเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้จัดตั้งจุดให้บริการทั่วไทย 421 แห่ง แบ่งเป็นจุดให้บริการทั่วไทย (โดยแขวงทางหลวง/กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ) 147 แห่ง จุดให้บริการตำรวจทางหลวง 201 แห่ง และจุดให้บริการสถานีตรวจสอบน้ำหนัก และพักรถบรรทุก 73 แห่ง ซึ่งภายในจุดบริการทั่วไทยจะมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการประชาชนผู้ใช้ทางตลอด 24 ชม. อาทิ การให้ข้อมูลเส้นทาง แนะนำเส้นทางเลือก บริการน้ำดื่ม รวมทั้งแอลกอฮอลเจลล้างมือ หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกัน และควบคุมเชื้อไวรัส COVID-19 พร้อมทั้งได้จัดเตรียมห้องน้ำสะอาดบริการประชาชน 581 แห่ง (ในพื้นที่หมวดทางหลวงทั่วประเทศ) อีกด้วย พร้อมกันนี้ยังได้ ยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 กรุงเทพ-ชลบุรี-พัทยา-มาบตาพุด ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 บางปะอิน-บางพลี และทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 พระประแดง-บางขุนเทียน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 30 ธค. 2564-เวลา 24.00 น. ของวันที่ 3 มค. 2565 นอกจากนี้ จะเปิดให้บริการวิ่งฟรีชั่วคราวบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 ช่วง ปากช่อง-สีคิ้ว ระยะทาง 35.75 กม. ตั้งแต่วันที่ 29 ธค. 2564-4 มค. 2565 เวลา 06.00-21.00 น. (โดยจัดการจราจรแบบเดินรถทางเดียว วันที่ 29-31 ธค. 2564 เดินทางขาออก และวันที่ 1-4 มค. 2565 เดินทางขาเข้า) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยผู้ใช้ทางสามารถติดตามการรายงานสภาพจริงการจราจร Online แบบ Real Time ผ่านแอพพลิเคชัน M-Traffic (มอเตอร์เวย์)/Thailand Highway Traffic และเฟศบุค “ศูนย์บริหารจัดการจราจร และอุบัติเหตุกรมทางหลวง” อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือผู้ใช้ทางขับขี่ด้วยความระมัดระวังปฏิบัติตามกฎจราจร วางแผนการเดินทางล่วงหน้า เตรียมร่างกายให้พร้อม หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม หรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทางสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง 1193 ขอแนะนำ จุดแวะพักเดินทางไกล เพิ่มความปลอดภัยในทุกเส้นทาง



ABOUT THE AUTHOR

นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี พร้อมได้ เปิดโลก ได้พัฒนาตัวในแวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : เรื่องน่ารู้
คำค้นหา