ธุรกิจ
Harley-Davidson เปิดตัว Low Rider El Diablo
Harley-Davidson เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ Low Rider El Diablo รุ่นลิมิเทด เอดิชันใหม่ล่าสุดจาก “Icons Collection” เพื่อเอาใจทเรนด์สไตล์คัสตอมแบบฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา โดยรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider El Diablo ได้รวบรวมสมรรถนะที่โฉบเฉี่ยว และความเก่งกาจของรถสปอร์ทเข้ากับกราฟิคจากการรังสรรค์ด้วยมือที่สวยงามน่าจับตามอง มาพร้อมขุมพลังของระบบเสียง Harley-Davidson Audio โดยชุดเครื่องเสียงจาก Rockford Fosgate
บแรด ริชาร์ดส์ รองประธานฝ่ายออกแบบ และครีเอทีฟไดเรคเตอร์-รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson กล่าวว่า รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider El Diablo มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยตามต้นฉบับของ Harley-Davidson รุ่น FXRT ปี 1983 และสื่อถึงความคิดสร้าง สรรค์ที่เกิดขึ้นในยุคนั้น ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของวัฒนธรรมต่อต้านที่รัฐแคลิฟอร์เนียทางตอนใต้ ในช่วงทศวรรษที่ 80 ด้วยสไตล์ร่วมสมัยที่มีทั้งสีแบบคัสตอม ที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างประณีต รวมกับลวดลายที่แสดงถึงต้นฉบับของรถมอเตอร์ไซค์รุ่น FXRT
รถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นที่โด่งดัง เป็นที่ต้องการมากที่สุดของเหล่านักขับขี่ แต่ละ Icon ในคอลเลคชันจะบ่งบอกถึงสี สไตล์การออกแบบ รวมถึงอุปกรณ์ที่ทันสมัย อันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson สำหรับคอลเลคชันแบบลิมิเทด เอดิชัน จะระบุหมายเลขประจำของแต่ละคันแยกออกไป และผลิตออกมาจำหน่ายเพียงครั้งเดียว ซึ่งในทุกๆ ปี จะเปิดตัวรุ่น Icon โฉมใหม่ ในจำนวนไม่เกิน 2 รุ่น
ส่วนจุดมุ่งหมายของรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider El Diablo คือ การยกระดับสไตล์ สมรรถนะของการขับขี่สไตล์สปอร์ทแบบไร้ขีดจำกัด Low Rider El Diablo ผสมผสานความคล่องตัวในการเดินทางด้วยกระเป๋าสัมภาระที่ทนทาน และแฟริงแบบติดเฟรมเข้ากับประสิทธิภาพการควบคุมที่ตึงในแชสซีส์ของ Harley-Davidson รุ่น Softail พร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์แบบ V-Twin ของระบบส่งกำลัง Milwaukee-Eight® 117 การผลิตของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้จะผลิตออกมาเพียงครั้งเดียว มีจำนวนทั้งหมด 1,500 คันทั่วโลก และกำหนดระยะเวลาวางจำหน่ายตามตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Harley-Davidson ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2022
รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่น Low Rider ST เปรียบเสมือนรากฐานของรุ่น Low Rider El Diablo รุ่นลิมิเทด เอดิชัน โดยปรับโฉมของรุ่น Low Rider ST ด้วยการเพิ่มรูปแบบของสีที่มีลวดลาย Gunslinger Custom Paint กับสีพื้นฐาน El Diablo Bright Red แต่งเติมมิติด้วยสี Bright Red Sunglo ลายเส้นสีแดงจะถูกพ่นบนตัวรถ พร้อมเลเยอร์ของสี El Diablo Dark Red และสี Dark Red Pearl ที่ค่อยๆ จางลง เพื่อเพิ่มมิติ ความลึกให้แก่ตัวรถ เมื่อพ่นสีเรียบร้อยแล้ว ลายเส้นสี El Diablo Dark Red Metal lic จะพาดไปตามกระเป๋าสัมภาระด้านข้าง ถังน้ำมัน ที่บังโคลน และแฟริง นอกจากนี้ ยังมีลายเส้นสี Pale Gold เป็นองค์ประกอบที่ช่วยสร้างให้ดูเหมือนความมันวาวในสไตล์การลงสีแบบลูกกวาด (Candy Effect)
ในขณะเดียวกัน สีของเครื่องยนต์ ตลอดไปจนถึงท่อไอเสียจะเป็นสีดำ เพิ่มความสะดุดตาให้แก่สี El Diablo อย่างโดดเด่น พร้อมด้วยล้อแบบ Radiate Cast-Aluminum สีบรอนซ์เข้มแบบด้านที่ตัดกับตัวรถอย่างลงตัว
สีของ Low Rider El Diablo ถูกรังสรรค์ด้วยช่างฝีมือที่ประจำอยู่ที่ Gunslinger Custom Paint เมืองโกลเดน รัฐโคโลราโด ผู้คนรู้ จัก Gunslinger ในนามของจิตรกร นักออกแบบ ศิลปิน และผู้นำด้านการผลิตอุปกรณ์แบบคัสตอมที่เป็นซัพพลายเออร์สำคัญให้แก่รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ตระกูล Custom Vehicle Operations และรถมอเตอร์ไซค์รุ่น สี Limited Edition มาหลายทศวรรษ
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider El Diablo มาพร้อมกับระบบเครื่องเสียงที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ถูกออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพที่โดดเด่น เข้ากันกับแฟริงของรถ เครื่องขยายเสียงอัจฉริยะที่ทรงพลังด้วยเทคโนโลยีการประมวลผลสัญญาณดิจิทอล (DSP) ถูกพัฒ นาขึ้นโดย Harley-Davidson และ Rockford Fosgate ได้รับการออกแบบเทคนิคทางด้านวิศวกรรม เพื่อให้เครื่องเสียงทำงานในสภาพแวดล้อมของรถมอเตอร์ไซค์ที่มีเสียงรบกวนได้ดี ระบบเครื่องเสียงจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือผ่าน Bluetooth เพื่อสามารถเล่นเพลงที่จัดเก็บในคลัง หรือจากระบบสตรีมิง ด้วยลำโพง 2 ทางในตัว
ลำโพงประกอบด้วย วูเฟอร์ ขนาด 5.25 นิ้ว 1 คู่ ทวีเตอร์ในระยะไกล 2 เครื่อง เพื่อประสิทธิภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม Bluetooth เวอร์ ชัน 4.2 เพื่อการเชื่อมต่อไร้สายที่เหนือชั้นกับอุปกรณ์ต่างๆ โดยบีบอัดไฟล์ให้เล็กที่สุดเพื่อคุณภาพเสียงที่ทรงพลัง เครื่องขยายเสียงแบบกะทัดรัด ขนาด 250 วัตต์ ติดตั้งอยู่ภายในแฟริง เพื่อให้มิติเสียงคมชัดในทุกระดับเสียงการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชัน Harley-Davidson Audio โดยชุดเครื่องเสียงจาก Rockford Fosgate นำเสนอคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ Automatic Volume Control (AVC) ที่ช่วยให้สามารถควบคุมระดับเสียงแบบแฮนด์ฟรีตามความเร็วของตัวรถ, EQ 7-Band ที่ปรับได้, การอัพ เดทเฟิร์มแวร์ และตัวกำหนดค่าระบบแบบเป็นขั้นเป็นตอน
ไฮไลท์ของรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider El Diablo ประกอบด้วยรูปทรงแฟริงแบบติดเฟรม ได้รับแรงบันดาลใจจากแฟริงรุ่นคลาส สิค FXRT Sport Glide ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักคัสตอมฝั่งตะวันตก ประสิทธิภาพของแอโรไดนามิคถูกพัฒนาผ่านการวิเคราะห์ CFD (พลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณ) การทดสอบแบบจริง ช่องระบายอากาศที่แยกออกเป็น 3 ทาง แบบช่องเดี่ยว และแบบ Softail ช่วยลดการเสียดทานของลมขณะขับขี่บนทางหลวง กระบังลมสีเขม่าเข้มสูง 6 นิ้ว ไฟหน้าแบบเดี่ยว ขนาด 5.75 นิ้ว
เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 V-Twin นี้มีการระบายความร้อนด้วยน้ำมัน อากาศที่แม่นยำ ซึ่งถือเป็นการจัดการระบบส่งกำลัง การกระจายแรงบิดที่ยอดเยี่ยมจากโรงงานของ Harley-Davidson® เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 นี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และทำให้ผู้ขับขี่พร้อมลุยบนถนนได้อย่างมั่นใจ
ความจุกระบอกสูบ 117 ลูกบาศก์นิ้ว แรงบิดขนาด 125 ฟุต-ปอนด์ ที่ 3,500 รตน. เพื่อประสิทธิภาพการออกตัวที่สัมผัสได้ทุกครั้งเมื่อบิดคันเร่ง เพลาลูกเบี้ยวประสิทธิภาพสูงที่ถูกออกแบบมาให้สัมพันธ์กับการกระจายแรงบิด การไหลของอากาศ เพื่อเพิ่มประสิทธิ ภาพสูงสุดของรถ ท่อไอดี Heavy Breather ประสิทธิภาพสูงที่ถูกปรับทูนพร้อมชิ้นส่วนตัวกรองแบบหันหน้า เพื่อให้อากาศเข้าสู่เครื่องยนต์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างแรงบิดช่วงกลางที่น่าตื่นเต้น เพิ่มภาพลักษณ์แบบดุดันให้แก่ตัวรถ ท่อไอเสีย Shotgun แบบเข้า 2 ออก 2 ถูกปรับทูนมาเพื่อให้เกิดแรงบิดช่วงกลางที่กว้าง และนุ่มนวล พร้อมกับเสียงบิดที่เป็นเอกลักษณ์ Dual Counter-Balancer s ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนเมื่อรถจอดอยู่กับที่ เพื่อความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ ชิ้นส่วน Screamin’ Eagle Performance Parts Stage Upgrades จาก Harley-Davidson® Genuine Motor Parts & Accessories ถูกติดตั้งมาเพื่อเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ให้ดียิ่งขึ้น
กระเป๋าฝาพับด้านข้างแบบลอคได้ สามารถถอดออกภายในไม่กี่วินาที ด้วยกลไกปลดลอคอย่างรวดเร็ว สามารถเปลี่ยนจากโหมด สปอร์ททัวริง สู่โหมดขับขี่ในเมือง (ความจุกระเป๋าด้านข้างเท่ากับ 1.9 ลูกบาศก์ฟุต/53.8 ลิตร) ระบบกันสะเทือนแบบ Monoshock ทรงสูง ช่วยยกส่วนท้ายของตัวรถมอเตอร์ไซค์ขึ้น เพื่อความสะดวกสบายในการขับขี่ พร้อมทั้งเพิ่มองศาการเอนของตัวรถ ชอคอับเดี่ยวแบบหัวกลับ 43 มม. เบรคหน้าคู่พร้อมจานล้อ Premium Michelin Scorcher 31 แบบพรีเมียม (ล้อหน้า 110/90 B19 และล้อหลัง 180/70 B16) เพิ่มสมรรถนะของการขับขี่ และการควบคุมรถ เครื่องมือตรวจสอบ “เทคเกจ” แบบดิจิทอลในไรเซอร์ของแฮนด์จับแบบถอดออกได้ ทำให้ดูเหมือน “ไม่มีเกจ” เบาะนั่งเดี่ยวแบบลึก ช่วยให้ผู้ขับขี่นั่งอยู่กับที่ระหว่างเร่งความเร็ว และเข้าโค้งอย่างโฉบเฉี่ยว แฮนด์จับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ที่ติดตั้งบนตัวยกแบบดึงกลับ ขนาด 4 นิ้ว เป็นองค์ประกอบสไตล์แบบชายฝั่งตะวันตก เพื่อให้ผู้ขับขี่มีท่าทางที่ดุดันบนรถมอเตอร์ไซค์ ถังคอนโซลแบบเตี้ย ไฟเบรค และไฟท้ายที่สว่างแบบ LED ช่องเสียบสาย USB ระบบเบรคป้องกันล้อลอค (ABS) พื้นฐาน และระบบ Cruise Control
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/421392