ระเบียงรถใหม่
New Nissan X-Trail 2022 เปิดตัวแล้วที่ญี่ปุ่น
Nissan Motor ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัว Nissan X-Trail (นิสสัน เอกซ์-ทเรล) ใหม่ ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังแบบใหม่ 2 Generation e-POWER ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่
Nissan X-Trail เป็นรถยนต์อเนกประสงค์แบบครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี โดยเริ่มผลิต และเปิดตัวเมื่อปี 2544 ในช่วงที่รถเอสยูวีกำลังได้รับความนิยม ถือได้ว่าเป็นรถอีกรุ่นหนึ่งของ Nissan ที่มาถูกที่ถูกเวลา และช่วยฟื้นฟูรายได้ให้แก่ Nissan ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก
จนถึงทุกวันนี้ Nissan X-Trail ได้กลายเป็นรถยนต์รุ่นหลักสำหรับตลาดโลกของ Nissan ไปแล้ว มีการส่งเข้าไปทำตลาดใน 167 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย มียอดขายมากกว่า 800,000 คัน และครองตำแหน่งรถเอสยูวีที่ขายดีของญี่ปุ่นมาแล้วถึง 8 ปี
ในประเทศไทย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ สยามกลการฯ (ตระกูลพรประภา) ในยุคนั้น มีความตั้งที่จะนำ X-Trail เข้ามาขาย แต่บริษัทแม่ไม่ยอม จนกระทั่ง Nissan ญี่ปุ่นเข้ามาซื้อหุ้น และลงทุนเข้ามาเปิดกิจการผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายรถยนต์ Nissan ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ แทน สยามกลการฯ ซึ่งกลายเป็นดีเลอร์รายหนึ่งไป
ประกอบกับที่อินโดนีเซีย ขึ้นไลน์ประกอบ Nissan X-Trail รุ่น Minorchange แล้ว X-Trail จึงได้มีโอกาสเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย เมื่อปี 2548 แต่เนื่องจากเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันเบนซินในไทย และตลาดโลกพุ่งทะยานขึ้น ทำให้ความนิยมในรถเอสยูวีเริ่มลดลงไป แต่ในเมื่อรถก็ถูกสั่งนำเข้ามาจากอินโดนีเซียเรียบร้อยแล้ว จึงต้องเดินหน้าทำตลาดต่อไป และการที่รถประกอบในอินโดนีเซีย และประสบความสำเร็จในตลาดโลก ก็ถือเป็นเครื่องตอกย้ำความสำเร็จ แต่เมื่อมียอดขายที่น้อยมาก ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ทาง Nissan ถอดใจกับ X-Trail ไป
หลัง Nissan ประเทศไทย ประกาศเลิกทำตลาด X-Trail เจเนอเรชันที่ 3 เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในภูมิภาค และจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับรถยนต์ในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมถึงรถยนต์พลังงานทางเลือก และพลังงานไฟฟ้าในอนาคต จึงขอแจ้งการหยุดการผลิต และยกเลิกการจัดจำหน่ายรถยนต์ทั้ง 3 รุ่น ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา
Nissan X-Trail เดินทางมาถึงเจเนอเรชันที่ 4 แล้ว ในรหัสตัวถัง T33 สร้างบนพื้นฐาน CMF-C Platform ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งช่วยลดน้ำหนักตัว ในขณะที่เพิ่มความแข็งแกร่ง และความเงียบในห้องโดยสาร
มีจำหนายทั้งแบบ 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง โดยเปิดตัวครั้งแรกที่ตลาดอเมริกาเหนือ ในชื่อ Rogue (รก) เมื่อปี 2020 กับขุมพลังเบนซิน 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เมตร จนกระทั่งยกเลิกไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 และถูกแทนที่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ
ในวันนี้ Nissan Motor ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัว Nissan X-Trail รุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังแบบใหม่ 2 Generation e-POWER ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่
มิติตัวถัง ยาว 4,660 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,720 มม. ฐานล้อ 2,706 มม. ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร
หน้าตาภายนอก กระจังหน้าไฟหน้ามีความเหลี่ยมสันมากขึ้น ไฟหน้าที่แบ่งเป็น 2 ชั้น ด้านบนเป็น DRL LED แบบเส้น เสริมไฟเลี้ยวแบบ Sequential ด้านล่างเป็นไฟสูง/ต่ำแบบ LED กระจังหน้าที่ยังคงสไตล์ V-Motion พร้อมโลโกใหม่
ด้านข้างปรับแนวกระจกให้ใหญ่ และตั้งชันขึ้น เสริมคิ้วโครเมียมด้านบน ตกแต่งด้วยราวหลังคาสีเงิน หลังคามาพร้อมกับ Panoramic Moonroof สปอยเลอร์สีดำ ไฟท้าย LED รูปทรงบูมเมอแรง กันชนหลังตกแต่งด้วยแถบสีดำ
ภายในออกแบบสวยทันสมัยตามภาษาการออกแบบใหม่ของรถ Nissan จอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ควบคุมสั่งการระบบอินโฟเทนเมนท์ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto ชุดเครื่องเสียง Bose พร้อมลำโพง 9 ตำแหน่ง
คอนโซลกลางมาพร้อมกับคันเกียร์แบบไฟฟ้าที่ควบคุมโดยการโยก และเข้าเกียร์ P โดยการกดปุ่ม เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa มีการเสริมลายเบาะเป็นข้าวหลามตัดเพื่อความหรูหรา
X-Trail มาพร้อมกับระบบ e-POWER เจเนอเรชันที่ 2 ที่มาพร้อมขุมพลัง ความนุ่มนวล และความเงียบที่ได้รับการปรับปรุง เครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่มีเทอร์โบเพื่อเพิ่มกำลังอัดแบบแปรผันเป็นเครื่องแรกของโลก
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ DOHC ขนาด 1.5 ลิตร 1,497 ซีซี VC turbo ให้กำลังสูงสุด 142 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บในแบทเตอรี ที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตกระแสไฟได้อย่างมากแม้ที่รอบต่ำ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทรงพลัง และความเงียบที่ไม่มีใครเทียบได้ ในขณะที่ยังคงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงสูง ส่งกระแสไฟไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ e-POWER e-4ORCE Electric-Drive รุ่นใหม่
มอเตอร์หน้าให้กำลังสูงสุด 203 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตัน-เมตร มอเตอร์หลัง ให้กำลังสูงสุด 135 แรงม้า แรงบิด 195 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ที่ 7 วินาที
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ใหม่ e-4ORCE เทคโนโลยีเดียวกันกับ Nissan Ariya (อารียา) ควบคุมการทำงานอิสระทั้ง 4 ล้อ ให้ความสมดุลในประสิทธิภาพการขับขี่ที่ทรงพลัง ในทุกสภาพของพื้นถนน
สามารถประเมินพื้นผิวถนน และสภาวะของรถในทันที e-4ORCE ควบคุมแรงขับ และการเบรคของมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้า และหลังได้อย่างแม่นยำ เพื่อเพิ่มแรงเสียดทานของยาง ช่วยลดการลื่นไถลของล้อทำให้เข้าโค้งได้อย่างนุ่มนวล และเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ มีการปรับอัตราทดของพวงมาลัยให้ตอบสนองฉับไวขึ้น ช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระ Multi-Link
เป็นแหล่งจ่ายไฟ AC 100 โวลท์ มีเอาท์พุทสูงสุด 1,500 วัตต์ และสามารถใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟฉุกเฉินได้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้เดินทางท่องเที่ยวแคมพิง สามารถใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างสะดวกสบาย และระบบ e-Pedal Step ระบบเบรค และเหยียบคันเร่งในแป้นเดียว ต่างจาก e-Pedal รุ่นเดิมที่เวลาถอนคันเร่ง ระบบเบรคจะทำงาน แต่ไม่หยุดสนิท ต้องเหยียบเบรคซ้ำอีกที ซึ่งต่างจากแบบปกติที่จะหยุดรถทันที
อัดแน่นด้วยระบบความปลอดภัย Nissan Safety Assist 360 ใช้กล้องเรดาร์ และโซนาร์ เพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมของรถอย่างต่อเนื่อง และสามารถดำเนินการด้านความปลอดภัยได้หากจำเป็น บริการโทร SOS สามารถให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน
ระบบไฟหน้า LED แบบปรับได้ ช่วยให้สามารถใช้ไฟสูงได้โดยที่ไม่รบกวนรถคันหน้า หรือรถที่ขับสวนเข้ามา เพิ่ม Navi-linkใน ProPILOT ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Nissan ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานบนทางหลวง เปลี่ยนแปลงความเร็วของรถตามการจำกัดความเร็วที่กำหนดไว้ รวมถึงการชะลอความเร็วสำหรับทางโค้ง ProPILOT Park ที่ควบคุมการบังคับเลี้ยว คันเร่ง เบรค เพื่อการจอดรถที่แม่นยำ และปลอดภัยในสถานการณ์ที่หลากหลาย
- ระบบควบคุมความเร็วรถแบบแปรผันทำงานทุกย่านความเร็ว
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรคอัตโนมัติ ตรวจจับรถ 2 คันหน้า
- ระบบเตือนเมื่อเหยียบคันเร่งผิด
- ระบบเตือนรถออกนอกเลน
- ไฟหน้าหักเหแสงได้ตามสถานการณ์
- ระบบเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่
- กล้องมองภาพรอบทิศทางพร้อมระบบเตือนเมื่อมีวัตถุเข้าใกล้
All New Nissan X-Trail e-POWER มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย โดยมีราคาเริ่มต้น 3,198,800-4,499,000 เยน (หรือประมาณ 818,000-1,194,000 บาท)
สำหรับแฟนชาวไทยคงต้องรอลุ้นกันว่า Nissan จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย และมีการเปิดตัวรถรุ่นเดิมที่เคยประกาศยกเลิกถอดจากสายการผลิตกลับเข้ามาทำตลาดใหม่หรือไม่ เพราะกระแส Nissan Kicks e-POWER ที่ได้ปรับปรุงเรื่องขนาดมอเตอร์ และแบทเตอรี เข้ามาประกอบในเมืองไทย ทำให้มีการปรับราคาจำหน่ายลง ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ Nissan ดีเกินคาด
เรื่องโดย : พรเทพ คงลาภอำนวย
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/422069