ระเบียงรถใหม่
All-New Ford Mustang 2023 สานต่อตำนานรถสปอร์ทอเมริกัน
Ford Mustang มีการผลิต และวางจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดของ Ford ตั้งแต่ปี 2507 Mustang ได้รับการพัฒนาให้เป็นแนวสปอร์ทคูเป และรถเปิดประทุน มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยสัดส่วนที่แปลกจากรถรุ่นอื่นๆ ในตลาด มีฝากระโปรงยาว และมีหลังคาสั้น
Ford Mustang กลายเป็นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด เดิมทีคาดการณ์ว่าจะขายได้ 100,000 คัน/ปี แต่กลับมีกระแสการตอบรับอย่างดี ยอดจองทะลุเป้า ตั้งแต่ 3 เดือนแรกสามารถทำยอดขายมากกว่า 400,000 คัน ในปีแรก และ Ford Mustang ที่ 1 ล้าน ถูกขายภายใน 2 ปี หลังจากเปิดตัว
และในช่วง 18 เดือนแรก มีการผลิตมากกว่า 1 ล้านคัน ในเดือนสิงหาคม 2561 Ford ฉลองการผลิต Mustang คันที่ 10 ล้าน ความสำเร็จของการเปิดตัว Mustang ทำให้ค่ายรถอื่นๆ ผลิตรถสไตล์นี้ออกมาแข่งขันอีกหลายราย ไม่ว่าจะเป็น Chevrolet Camaro, Pontiac Firebird, AMC Javelin และ Dodge Challenger
แม้ยอดขายรถสปอร์ท และรถซีดาน โดยเฉพาะรุ่นที่มีเครื่องยนต์ใหญ่ และสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมาก จะได้รับความนิยมน้อยลงเรื่อยๆ แต่ Ford ก็ยังต้องสืบสานตำนานความสำเร็จของรถยนต์รุ่นนี้ โดยการเปิดตัว All-New Ford Mustang เจเนอเรชันที่ 7 ในงานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ 2022 ที่สหรัฐอเมริกา
จิม ฟาร์ลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ford Motor Company กล่าวว่า “การลงทุนเพื่อพัฒนา Ford Mustang เจเนอเรชันล่าสุดนี้ ถือเป็นการแสดงจุดยืนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในเวลานี้ ที่คู่แข่งหลายรายกำลังทยอยเลิกผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่ Ford ยังมุ่งมั่นพัฒนารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน โดยประกาศแยกแบรนด์ออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ Ford Model e สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 100 % และ Ford Blue สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน
All-New Ford Mustang ได้ชื่อว่าเป็นรถสปอร์ทคูเปที่ขายดีที่สุดในโลก ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา มีให้เลือกทั้งตัวถังแบบ Coupe และ Convertible เปิดหลังคา โดยจะใช้เครื่องยนต์ที่ล้ำสมัย และทรงพลังที่สุดของ Ford
3 สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของ Ford Mustang คือ รูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ การขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และเสียงของเครื่องยนต์อันเร้าใจ ดีไซจ์นภายนอกของ All-New Ford Mustang ใหม่ ถูกออกแบบให้มีกลิ่นอายของ Mustang ในอดีต โดยในรุ่น GT จะแตกต่างจากรุ่น EcoBoost โดยมีช่องตะแกรงที่ใหญ่ และดุดันมากกว่า เพื่อให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้น
มาพร้อมไฟหน้า Tri-Bar LED รับกับกระจังหน้าที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก Mustang ยุคเจเนอเรชันแรก ขณะที่ด้านท้ายถูกออกแบบให้มีโอเวอร์แฮงสั้น ในแบบของ Mustang รุ่นแรกๆ
ซุ้มล้อที่กว้าง เสริมด้วยไฟท้ายแบบ Tri-bar และดิฟฟิวเซอร์บริเวณกันชน เพื่อช่วยเพิ่มแอโรไดนามิคให้ดียิ่งขึ้น แนวหลังคาถูกออกแบบให้มีพื้นที่ เผื่อให้คนขับรถในสนามแข่งเข้า และออกจากรถได้โดยไม่ต้องถอดหมวกกันนอค พื้นที่เก็บสัมภาระในกระโปรงท้ายสามารถใส่ถุงกอล์ฟได้สูงสุดถึง 2 ใบ
Ford Mustang รุ่น Convertible เปิดประทุน สามารถเปิดหลังคาผ้าใบเพื่อรับลมได้ ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว
ภายในห้องโดยสารได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากห้องนักบินของเครื่องบินรบ ด้วยจอโค้งที่แสดงผลแบบต่อเนื่อง 2 จอ ปรับเปลี่ยนเพื่อดูข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว โดยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.4 นิ้ว สามารถปรับการแสดงผลได้อย่างหลากหลายตามโหมดการขับขี่ ทั้งยังมีการใช้เทคโนโลยี Unreal Engine 3D เพื่อให้สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวราวกับวีดีโอเกม
หน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 13.2 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการ SYNC 4 สามารถรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมด้วยระบบ Amazon Alexa Built-in ที่ทำงานคู่กับ Ford Streaming สามารถรองรับคำสั่งเสียงเพื่อการเล่นเพลง และพอดคาสต์ได้ สามารถเลือกออพชันเสริมเป็นเครื่องเสียง B&O Sound System พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันแบบท้ายตัด ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มพื้นที่ บริเวณขาของผู้ขับขี่
ขุมพลังของ Mustang GT ติดตั้งเครื่องยนต์ Coyote V8 ขนาด 5.0 ลิตร เจเนอเรชันที่ 4 ด้วยนวัตกรรมการออกแบบการไหลเวียนของอากาศที่ดียิ่งขึ้น ลดการสูญเสียกำลังเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์แสดงสมรรถนะได้อย่างเต็มที่ มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ
รุ่น Mustang EcoBoost ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 2.3 ลิตร 4 สูบ ที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด ทั้ง 2 รุ่น สามารถเลือกออพชันเสริมเป็น Performance Pack ที่ประกอบด้วยค้ำชอคอับ Tower Brace, ระบบลิมิเทด สลิพแบบ Torsen และยังสามารถเลือกช่วงล่างแบบแอคทีฟ MagnaRide, ระบบท่อไอเสียแบบแอคทีฟ, เบาะ Recaro และจานเบรค Brembo ด้านหน้าขนาด 390 มม. ด้านหลังขนาด 355 มม. เพิ่มเติมได้
มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่ปรับได้ถึง 6 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ท โหมดถนนลื่น โหมด Drag โหมด Track และโหมดสุดท้ายที่บันทึกการตั้งค่าส่วนตัวได้ และยังได้เผยเทคโนโลยีใหม่ "ดริฟท์เบรคแบบไฟฟ้า" ที่สามารถใช้งานได้เหมือนกับเบรคมือแบบดั้งเดิม เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถดริฟท์รถได้ง่ายขึ้น
เทคโนโลยีช่วยขับขี่ชั้นสูง Co-Pilot360 เจเนอเรชันใหม่
- ระบบจดจำป้ายจำกัดความเร็ว
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่าง
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง
- ระบบช่วยหักเลี้ยวเพื่อเลี่ยงการปะทะ
- ระบบช่วยเบรคขณะถอยหลัง
- ระบบเลี่ยงการสะเทือนจากหลุมบนถนน Active Pothole Mitigation ที่สามารถปรับเปลี่ยนการตอบสนองของระบบกันสะเทือนให้สอดคล้องกันสภาพถนนข้างหน้า สามารถสั่งการแอพพลิเคชัน FordPass จากระยะไกลเช่น การสตาร์ท และดับเครื่องยนต์ การลอค และปลดลอคประตู ตั้งเวลาสตาร์ทเครื่องยนต์ ระบุตำแหน่งของรถ ข้อมูลสำคัญอื่นๆ เกี่ยวกับรถ เช่น ระดับน้ำมันหล่อลื่น และน้ำมันเชื้อเพลิง ประวัติการเข้ารับบริการ และข้อมูลการรับประกัน
All-New Ford Mustang จะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาช่วงฤดูร้อน ปี 2566
เรื่องโดย : พรเทพ คงลาภอำนวย
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/423103