BMW XM เอสยูวีตระกูล M คันแรกของค่าย

BMW เปิดตัวเอสยูวีสมรรถนะสูงในตระกูล M เป็นครั้งแรก ที่ไม่ใช่ตัวอัพเกรดจากรุ่นปกติ ภายในหรูหราขึ้น ขุมพลังสุดแรงที่มาพร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ขั้นสุดของ BMW มีตำแหน่งทางการตลาดที่สูงกว่า X7 การออกแบบภายนอกดูแปลกตากว่ารถเอสยูวีจากค่ายเดียวกัน ด้วยตัวถังที่มีขนาดใหญ่ มีความเป็นเหลี่ยมสันมากกว่ารุ่นอื่น ทำให้รถดูบึกบึนแข็งแรง ไฟหน้าเป็นแบบ LED ทรงเรียวยาว 2 ชั้น แบบเดียวกับ 7 Series และ X7 กระจังหน้ายังคงรูปทรงไตคู่ แต่เป็นทรงแปดเหลี่ยม พร้อมกรอบสีเงินตัดสีทอง กันชนหน้าตกแต่งสีดำ พร้อมช่องดักลมขนาบทั้ง 2 ข้าง ด้านท้ายมาพร้อมไฟ Full LED ทรงเรียวยาว เสริมด้วยกันชนหลังทรงสปอร์ท ตกแต่งส่วนล่างด้วยสีดำเงา และท่อไอเสียทรงเหลี่ยมข้างละ 2 คู่ มิติตัวถัง มีความยาว 5,110 มม. กว้าง 2,005 มม. สูง 1,755 มม. ฐานล้อ 3,105 มม. และความสูงจากใต้ท้องรถ 220 มม. ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับ BMW X7 ที่มีความยาว 5,151 มม. กว้าง 2,000 มม. สูง 1,805 มม. และระยะฐานล้อ 3,105 มม. งานออกแบบภายในห้องโดยสารมาพร้อมดีไซจ์นตามแบบฉบับของ BMW ยุคใหม่ ตกแต่งด้วยหนัง Vintage Coffee Merino สีน้ำตาลบริเวณแผงแดชบอร์ด และแผงประตู รวมถึงหลังคาจากวัสดุนุ่ม มาพร้อมหน้าจอคู่ที่เชื่อมต่อกัน มาตรวัดขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ 14.9 นิ้ว ติดตั้งระบบปฏิบัติการช่วยเหลือการขับขี่ใหม่ล่าสุด iDrive 8 เชื่อมต่อระบบ Apple CarPlay/Android Auto แบบไร้สาย ระบบเสียงจาก Harman Kardon 1,500 วัตต์ พร้อมลำโพงบนหลังคา 4 จุด เพื่อเพิ่มคุณภาพเสียงให้ถึงขีดสุด เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Soft Nappa ทรงสปอร์ทที่พนักพิงศีรษะ และตัวเบาะรวมเป็นชิ้นเดียว สามารถเพิ่มระยะช่วงรองรับขาของเบาะ เพิ่มความสบายตลอดการเดินทาง โดยเฉพาะตัวถังที่มีขนาดใหญ่เท่า X7  แบบ 7 ที่นั่ง แต่ XM มีแค่ 5 ที่นั่ง ทำให้มีที่ว่างภายในห้องโดยสารกว้างขว้างขึ้น ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินแบบไฮบริด M Hybrid ขนาด 4.4 ลิตร V8 TwinPower Turbo เครื่องยนต์มีกำลัง 489 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตัน-เมตร เสริมพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 197 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร เมื่อรวมกันให้กำลังสูงสุด 653 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ M Steptronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ Ⅿ xDrive ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ทั้งนี้ยังมีเวอร์ชันระบบขับเคลื่อนแบบ M Driver’s Package จะเพิ่มขีดจำกัดความเร็วเป็น 270 กม./ชม. แบทเตอรีมีกำลัง 25.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ไกลสุด 82-88 กม. ตามมาตรฐาน WLTP หรือ 48 กม. ตามมาตรฐาน EPA ของยุโรป ความเร็วสูงสุดในโหมด EV วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน 140 กม./ชม. รองรับการชาร์จ AC ถึง 7.4 กิโลวัตต์ ใช้เวลาเพียง 3.25 ชั่วโมง ในการชาร์จจาก 0-100 % และในรุ่นพิเศษที่จะเหนือกว่า XM ในชื่อ XM Label Red ที่มีสมรรถนะสูงกว่า และมีราคาเพิ่มขึ้น จะใช้เครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังถึง 585 แรงม้า แรงบิด 750 นิวตัน-เมตร ทำงานประสานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 197 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตัน-เมตร และเมื่อนำทั้ง 2 ระบบรวมกัน ให้กำลังสูงสุด 748 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตัน-เมตร ระบบท่อไอเสียแบบไฟฟ้า สามารถปรับทูนเสียงให้เร้าอารมณ์ผู้ขับขี่ได้ โหมดการขับขี่มีทั้งแบบ Hybrid, Electric และ eControl ที่สามารถตั้งค่าการขับขี่ได้ตามต้องการ BMW XM คันนี้ มีขั้นตอนการเปลี่ยนเกียร์ที่ซับซ้อน ทำให้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังสร้างกำลัง และแรงบิดที่ต่อเนื่องไม่ต้องรอรอบ อีกทั้งมีการกระจายน้ำหนัก และจุดศูนย์ถ่วงต่ำด้วยการวางตำแหน่งของชุดแบทเตอรี ด้วยความที่ตัวรถถูกห้อยท้ายด้วยรหัส M ตัวรถจึงเน้นที่ประสิทธิภาพในการขับขี่ขั้นสูง ตัวรถทุกรุ่น จะมีระบบขับเคลื่อน 4WD Sport และเฟืองท้าย M sport ที่มีความสามารถในการแยกแรงบิดสามารถไปทางด้านหลัง และหน้า ได้อย่างสมดุล ในเวลาขับถนนปกติ และสามารถเปลี่ยนกำลังไปยังล้อด้านนอก เพื่อช่วยเลี้ยวในทางโค้งทั้งบนถนนดำ และเส้นทางทุรกันดาร อีกทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวแบบแอคทีฟ ของเหล็กกันโคลงที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า มาพร้อมช่วงล่างแบบแปรผัน M Adaptive Suspension ด้านหน้าแบบอิสระ Double Wishbone ด้านหลังแบบอิสระ 5-Link ที่ทำจากอลูมิเนียม ระบบ Active Roll Control เมื่อรวมกับตัวรถที่หนักกว่า 2 ตันครึ่ง ทำให้ช่วงล่างมีความเฟิร์มนุ่มนวล แต่ยังคงไว้สมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม BMW XM เป็นรถยนต์ M เต็มรูปแบบคันแรก ที่มาพร้อมกับพวงมาลัยแบบ Rear-Axle Steering พวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้าพร้อม Servotronic และ Integral Active Steering ที่ช่วยให้พวงมาลัย มีการบังคับเลี้ยวที่เฉียบคม ปรับเปลี่ยนน้ำหนักให้เหมาะสมทุกย่านความเร็ว ช่วยให้เลี้ยวคล่องตัวขึ้น มาพร้อมระบบเบรคแบบ M Sport และยังมาพร้อมระบบช่วยการขับขี่ เช่น - ระบบควบคุมความเร็วรถแบบแปรผัน Active Cruise Control with Stop & Go - ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรคอัตโนมัติ Front Collision Warning - ระบบเตือนรถออกนอกเลนสามารถตรวจจับเลนกลับรถได้ Lane Departure Warning including lane return with steering assistance - ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Steering and Lane Control Assistant - ระบบช่วยหลบสิ่งกีดขวาง Evasion Assistant - ระบบอ่านป้ายความเร็วพร้อมเตือนเมื่อขับรถเร็วเกินกำหนด Alertness Assistant and Speed Limit Info system - ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติผ่านป้ายจราจร Automatic Speed Limit - ระบบช่วยขับขี่ตามระบบนำทาง Active Navigation - ระบบช่วยดูสัญญาณไฟจราจร Traffic Light Recognition - ระบบช่วยถอยจอดอัตโนมัติขั้นสูง Parking Assistant Plus - ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ Reversing Assistant - กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ BMW XM เตรียมประกอบในโรงงานที่สปาร์ทันเบิร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเดือนธันวาคม 2022 และเริ่มทำตลาดในปี 2023