Audi มีสตูดิโอออกแบบทั้งในแคลิฟอร์เนีย และปักกิ่ง เพื่อให้นักออกแบบสามารถรับแรงบันดาลใจจากตลาดที่สำคัญที่สุดของบริษัท แม้แต่ละที่จะมีความชื่นชอบแตกต่างกัน แต่รูปทรงภายนอกต้องบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นรถ Audi อาจเปรียบกับขวด Coke ที่มีรูปทรงเหมือนกันทั่วโลก แต่จะมีรสชาติที่แตกต่างกันในแต่ละที่
การใช้แชสซีส์แบบ "สเกทบอร์ด" ทำให้นักออกแบบมีอิสระในการออกแบบมากขึ้น มีข้อจำกัดน้อยลงกว่าแชสซีส์ของรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่การถกเถียงกันระหว่างนักออกแบบ และวิศวกรก็ยังคงมีเหมือนในอดีต แม้แต่การกำหนดระยะระดับมิลลิเมตร โดยเฉพาะเรื่องความสูงของรถ
เทคโนโลยีการออกแบบก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน เมื่อเข้าไปในสตูดิโอออกแบบ Malibu Design Loft จะไม่มีกลิ่นของดินเหนียวสำหรับรถจำลอง และกลิ่นของปากกามาร์เคอร์เหมือนสมัยก่อน ตอนนี้ทุกอย่างใช้เทคโนโลยีดิจิทอล การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ และภาพเสมือนจริง ทำให้กระบวนการผลิตเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว สามารถแสดงแนวคิดเป็นรูปธรรมได้รวดเร็วมากขึ้น
แนวคิดใหม่ของรถ เอสยูวี
เมื่อปีที่ผ่านมา Audi ได้เปิดตัวรถแนวคิด Skysphere ที่ใช้ฐานล้อแปรผัน คำว่า "sphere" ของ Audi คือ แนวคิดการออกแบบจากภายในออกไปสู่ภายนอก จะเห็นได้จากรถมีนีแวน Urban sphere ที่ใช้ระบบขับแบบอัตโนมัติ ซึ่งคนขับไม่ต้องควบคุมรถ จึงทำให้การออกแบบภายในห้องโดยสารเปลี่ยนไปจากเดิม
ต่อมา คือ รถแนวคิด Active sphere ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ จะแสดงถึงทิศทางการออกแบบใหม่ของ Audi และทำให้คำจำกัดความของรถ เอสยูวี เปลี่ยนไป ความสูงลดลง และออกแบบรูปทรงให้มีประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์สูงสุด
นับว่าเป็นเรื่องที่ดีในการปรับปรุง และเปลี่ยนแปลง แนวคิดของ Audi กับการพลิกหน้าประวัติศาสตร์รถ Audi ในอนาคต ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

