Audi A8 L โฉมล่าสุด ซีดานตัวธงจากค่าย 4 ห่วง มาดหรู ประณีต สะดวกสบายขั้นสุด ราคา 6,999,000-8,250,000 บาท

Audi A8 L รุ่นปรับโฉมถูกดีไซจ์นใหม่ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้าแบบ Singleframe ที่ถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมกับการตกแต่งที่โดดเด่นด้วยชุดโครเมียมที่ดูหรูหรา และดีไซจ์นใหม่ของช่องดักอากาศที่มีความเด่นชัดมากขึ้น รวมถึงไฟหน้าแบบใหม่ที่ทำให้รถมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดดเด่นกว่าที่เคยเป็นมา รายละเอียดต่างๆ ที่ถูกออกแบบใหม่ทำให้ Audi A8 L โฉมล่าสุดมีความเรียบหรูเป็นสง่า สมกับเป็นซีดานตัวธงของค่าย Audi Audi A8 L รุ่น 55 TFSI Quattro Prestige S line ราคา 8,250,000 บาท รุ่น 55 TFSI Quattro Premium ราคา 6,999,000 บาท มุมมองจากด้างข้างของตัวรถ มีดีไซจ์นที่สวยสะดุดตา ด้วยหลังคาที่ลาดยาว และเส้นสายด้านข้างตัวรถทำให้เห็นถึงความยาวที่โดดเด่น ด้านท้ายของตัวรถมีเส้นสายที่ชัดเจนด้วยการตกแต่งด้วยโครเมียมคาดยาวตั้งแต่ฝั่งซ้ายจรดฝั่งขวาของตัวรถ มีความล้ำสมัยมากขึ้นด้วยไฟท้ายแบบ OLED พร้อมไฟด้านหลังแบบ A8 L Signature ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามโหมดการขับขี่ เป็นการผสานความหรูหราเข้ากับความสปอร์ทอย่างลงตัวด้วยชุดตกแต่งตัวถังแบบ S line ที่สามารถเพิ่มใน Audi A8 L ได้เป็นครั้งแรก โดยออกแบบให้มีความสปอร์ทมากขึ้น ด้วยช่องดักลม และ Diffuser ดีไซจ์นใหม่ที่มีความสปอร์ทเช่นเดียวกับตัวแรงอย่าง Audi S8 Audi A8 L มีมิติตัวรถที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมเล็กน้อย มีฐานล้อที่ยาวถึง 3,128 มม. ซึ่งมากกว่า Audi A8 ฐานล้อปกติถึง 130 มม. เพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารตอนหลังให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ความยาวของตัวรถอยู่ที่ 5,320 มม. กว้าง 1,945 มม. และสูง 1,488 มม. Audi A8 L ใช้โครงสร้างแบบ Audi Space Frame ซึ่งใช้ชิ้นส่วนอลูมิเนียมมากถึง 58 % และในส่วนของห้องโดยสารนั้น ผลิตด้วยเหล็กที่มีความแข็งแรงสูงแบบพิเศษ ภายใต้แนวคิดของโครงสร้างแบบ Lightweight ทำให้โครงสร้างตัวรถของ Audi A8 L มีความแข็งแรงสูง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ยังช่วยเสริมการควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ง่าย เพิ่มความสบายในการขับขี่ และเพิ่มความเงียบสงบของห้องโดยสาร Audi A8 L ใช้ขุมพลังแบบ Mild Hybrid เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ แบบ วี 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 340 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 51.0 กก.-ม. ส่งกำลังร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา Quattro เกียร์อัตโนมัติ Tiptronic 8 จังหวะ สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว และนุ่มนวล อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 5.7 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 9.1-13.9 กม./ลิตร (หรือ 7.2-11.0 ลิตร/100 กม.) และอัตราปล่อยไอเสียเฉลี่ย 197 กรัม/กม. ระบบรองรับแบบ Adaptive Air Suspension ที่ทำให้รถมีเสถียรภาพในการขับขี่สูง และยังสามารถผสมผสานกับโหมดการขับขี่แบบสปอร์ทที่ยังคงความนุ่มนวลในการขับขี่ได้อย่างลงตัว ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่แบบผ่อนคลาย หรือขับขี่แบบสปอร์ทก็สามารถเลือกได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ไฟหน้าแบบ HD Matrix LED และไฟเลี้ยวแบบ Dynamic ซึ่งไฟแบบ HD Matrix LED ให้ความคมชัดมากขึ้น และสามารถส่องสว่างได้อย่างเที่ยงตรงมากขึ้นกว่าไฟแบบ Matrix LED แบบธรรมดา อีกทั้ง HD Matrix LED สามารถลดการแยงตาจากการส่องสว่างของไฟจากรถที่วิ่งสวนมา ด้วยการตรวจจับของกล้องบริเวณหน้ารถ โดยรถจะดับไฟเฉพาะจุดที่ส่องไปยังรถคันอื่น แต่ยังคงส่องสว่างไปยังจุดที่ไม่มีรถ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และความปลอดภัยของผู้ขับขี่เมื่อต้องขับรถในเวลากลางคืน และอีกหนึ่งอุปกรณ์ใหม่ของ Audi A8 L คือ ไฟท้ายแบบ Digital OLED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งรูปแบบไฟท้ายสามารถปรับได้ 2 แบบ หากปรับโหมดการขับขี่เป็นแบบ Dynamic และนอกจากนี้ เมื่อมีวัตถุอื่นเข้ามาใกล้ในระยะ 2 ม. ขณะที่รถจอดอยู่ ไฟ OLED ทั้งแผงจะติดขึ้นมาโดยอัตโนมัติอย่างชัดเจน เพื่อเตือนผู้ที่เข้ามาใกล้ไฟเลี้ยวที่เป็นแบบ Dynamic ด้วย รวมไปถึงฟังค์ชัน Coming Home หรือ Leaving Home ขณะดับเครื่อง และเปิด/ปิดลอครถ ภายในของ Audi A8 L ถูกออกแบบมาให้กว้างขวาง ที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังสำหรับรุ่น Prestige S line จะเป็นเบาะแยกอิสระคล้าย First class Lounge ที่ยังคงความเรียบหรูไว้ และมาพร้อมฟังค์ชันที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบช่วยการผ่อนคลาย สำหรับผู้โดยสารตอนหลังด้านซ้าย ไม่ว่าจะเป็นที่พักเท้าแบบปรับไฟฟ้าเพื่อขยายพื้นที่พักเท้า ที่มาพร้อมระบบนวดเท้า และระบบอุ่นร้อน เบาะหลังปรับเอนได้ มาพร้อมระบบนวด 18 จุด และระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง มอบความสะดวกสบายสูงสุดให้แก่ผู้โดยสาร นอกจากนี้ ยังมีจอแสดงผล 2 ตำแหน่ง Full HD แบบแยกอิสระ ที่ผู้โดยสารจะเพลิดเพลินกับระบบความบันเทิงแบบออนไลน์ต่างๆ โดยการเชื่อมต่ออินเตอร์เนท นอกจากนั้นแอร์ด้านหลังยังเป็นแบบ 4 โซน ซึ่งสามารถควบคุมผ่านจอ Tablet แบบ OLED ขนาด 5.7 นิ้ว เพิ่มความนุ่มสบายด้วยวัสดุคุณภาพสูง โดยเฉพาะหนัง แบบ Valetta ในรุ่น Premium และหนัง Valcona ในรุ่น Prestige S line ซึ่งในรุ่น Audi A8 L นี้ มีสีภายในสีใหม่เข้ามา คือ สี Cognac Brown จอแสดงผล Virtual Cockpit ที่ทันสมัย แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญให้แก่ผู้ขับขี่ และยังสามารถปรับเปลี่ยนการแสดงข้อมูลต่างๆ ตามความเหมาะสมได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทาง MMI Navigation Plus หรือ Multi-Media และ MMI Touch Response สามารถควบคุมได้ผ่านจอกลางขนาด 10.1 นิ้ว และขนาด 8.6 นิ้ว และยังสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องเสียง Bang & Olufsen Premium Sound System ระบบเสียง 3 มิติ 17 ลำโพง กำลังขับ 730 วัตต์ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Prestige S line Audi A8 L รุ่น 55 TFSI Quattro Prestige S line ราคา 8,250,000 บาท รุ่น 55 TFSI Quattro Premium ราคา 6,999,000 บาท สำหรับลูกค้าที่สนใจ Audi A8 L โฉมล่าสุด สามารถนัดหมายเพื่อเข้าชมรถยนต์ได้ที่โชว์รูม Audi โทร. 0 - 2765 - 8888 หรือ https://www.facebook.com/AudiThailand